playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Congrats My Ex! ลุ้นรักป่วน ก๊วนแฟนเก่า หนังตลกโรแมนติกที่ผสมผสานไทย-อินเดียได้อย่างลงตัวมาก

Congrats My Ex! ลุ้นรักป่วน ก๊วนแฟนเก่า

Summary

สรุปนี่คือหนังสตรีมิ่งที่ครบรสกลมกล่อมด้วยเรื่องราวสองชาติ ไทยกับอินเดีย ที่แบ่งบทกันได้อย่างสมดุลย์ มีกระทั่งฉากเต้นเพลงไทยกับอินเดียแยกกัน หนังมีฉากตลกกับโรแมนติกเยอะมาก ด้วยดารานำที่มีเสน่ห์อย่าง เบลล่า-ไบร์ท ที่เคมีเข้าขากันได้เป็นอย่างดี แต่ที่ยอดเยี่ยมคือบทที่ลึกในรายละเอียดเรื่องความรักที่ซับซ้อนของการแต่งงาน ชีวิตคู่ ถ่านไฟเก่าคุกรุ่น การมูฟออนต้องทำยังไง หนังคลี่คลายมันลงด้วยฉากไคลแม็กซ์หักมุมเบาๆ 3 ครั้งติดแบบหนังอินเดีย และก็จบด้วยพาร์ทของไทยต่อได้อย่างน่าประทับใจ เอาว่าดูแล้วแอบรักเรื่องนี้ได้ง่ายๆ เลย จากผู้กำกับ พฤกษ์ เอมะรุจิ ที่มีดีเฉพาะตัวในหนังแนวทางนี้จริงๆ ครับ

Overall
9/10
9/10
Sending
User Review
2 (1 vote)

Pros

  • หนังรักเรื่องราวสองชาติ ไทยกับอินเดีย
  • เสน่ห์ของนักแสดงนำ เบลล่า-ไบร์ท
  • รายละเอียดความรักที่หลากหลาย
  • มุกตลกทำให้ขำได้มากมาย
  • มีฉากเต้นเพลงไทยกับอินเดีย

Cons

  • เนื้อเรื่องอาจจะไม่สุดทางมาก

Congrats My Ex! ลุ้นรักป่วน ก๊วนแฟนเก่า ภาพยนตร์สตรีมมิ่งของ Prime video เมื่อสาวโสดอย่างริสา (เบลล่า ราณี แคมเปน) ต้องมารับหน้าที่จัดงานแต่งให้แฟนเก่าชาวอินเดียที่ทิ้งเธอไป แล้วยังต้องจ้างแฟนเก่าอีกคนมาเป็นช่างภาพ ในขณะที่หัวใจเธอยังไม่ Move On มันจะเกิดอะไรขึ้น

Congrats My Ex! (2023) on IMDb

 

รีวิว Congrats My Ex! ลุ้นรักป่วน ก๊วนแฟนเก่า (ไม่สปอยล์)

หนังที่ได้ทุนสร้างของ Prime โดยตรง กำกับและเขียนบทโดย พฤกษ์ เอมะรุจิ (ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก) ร่วมกับนักเขียนบทชาวอินเดีย วิกรัม แยชปาล มัลโฮทรา ร่วมกับสองนักแสดงดัง เบลล่า-ไบร์ท นี่จึงเป็นผลงานสตรีมมิ่งที่ไม่ธรรมดาเลย และผลตอบรับของการร่วมสร้างผสานสองชาติก็ทำให้หนังไทยเรื่องนี้มีดีเกินกว่าที่คิด

ด้วยดารานักแสดงนำของเรื่องก็เชื้อชวนให้ผู้ชมดูได้แล้วก็จริง ซึ่งผู้เขียนก็ไม่จำเป็นต้องไปยกย่องอะไรมาก แต่สิ่งที่เรื่องนี้ดีมากกว่านั้นก็คือบทหนังเรื่องนี้มีครบ ตลก โรแมนติก ดราม่า ปมความลึกของเรื่องที่ขยี้หัวใจผู้ชมได้ หนังเล่นเรื่องตลกในแบบที่แม้จะดูประดิษฐ์แบบไทยๆ แต่มันก็ตลกแบบขำออกมาได้ทุกมุกจริงๆ เรียกว่าความฮาเกือบเต็ม 10 ถ้าใครหวังอะไรแบบนี้ โดยมุกตลกนี้ก็ยังแบ่งปันผสมไปยังเนื้อหาของฝั่งตัวละครอินเดียให้มาร่วมกับไทยได้อีกหลายฉาก ซึ่งเชื่อว่าชาวต่างชาติก็คงขำกับมุกบ้านๆ นี้ได้เช่นกัน อย่างฉากขับรถอลเวงในไคลแม็กของเรื่องที่ทั้งขำทั้งสงสารกับดราม่าในฉากนั้นที่ผู้ชมต้องเอาใจช่วยลุ้นไปด้วยว่าจะลงเอยยังไง แต่ก็ติดตลกกับมุกที่ยิงซ้อนมาพร้อมกันไปด้วย 

 

ในฉากโรแมนติกของเรื่องก็จัดเต็มด้วยเรื่องราวความหลังของแฟนเก่าไทยกับอินเดีย โดยมีบทความหลังของทั้งคู่ในปริมาณที่เหมาะเจาะ แม้ผู้ชมจะรู้ว่าพระเอกคือ ทิม (ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี) เพราะนี่คือหนังไทย แต่บทก็ยังแบ่งเรื่องราวของ อรุณ (มาแฮร์ เพนดิ) ไว้ได้อย่างสมดุลย์ เพื่อเป็นเหตุผลลึกลงไปให้ผู้ชมได้ลุ้นกับความรักในอดีตที่กำลังรีเทิร์นกลับมา โดยที่โจทย์หลักไม่ใช่ว่านางเอกจะกลับไปตกหลุมรักกับใคร แต่คือ นางเอกเป็นคนจัดงานนี้เองและบริษัทกำลังจะล้มละลายถ้าจัดงานไม่สำเร็จ ทำให้การจัดงานครั้งนี้ขัดแย้งกับจิตใจที่เธอต้องการหลีกหนีอดีตรักที่เจ็บช้ำ แต่ต้องจำใจทำมันแม้จะเจ็บปวด ซึ่งหนังก็หยอดฉากโรแมนติกใหม่ในช่วงเวลาปัจจุบันเพิ่มลงไปอีก โดยมีฉากโรแมนติก+หึงหวง ขยี้จิตใจแฟนเก่าชาวอินเดียโดยลีลาของทิมที่ชวนให้ผู้ชมยิ้มตามได้เลย

นอกจากนี้แล้วก็ยังมีเซอร์ไพรส์ที่ทำให้เรื่องนี้มีรายละเอียดลึกลงไปอีกหลายชั้น ทั้งรายละเอียดการแต่งงานของอินเดียที่มีพิธีกรรมมากมาย ซึ่งหนังเล่ามันออกมาได้ละเอียดทำให้ผู้ชมได้รู้ลึกขึ้นมาอีก อย่าง การเขียนลายบนตัวเจ้าสาวแสดงถึงอะไร การเล่าถึงคู่พ่อแม่ของชาวอินเดียว่าการแต่งงานคืออะไร ความรักคืออะไร แล้วก็มีฉากไคลแม็กซ์หักมุมเบาๆ แต่ 3 ครั้งรวดของคู่อินเดียในตอนท้าย ที่เชื่อว่าถ้าเป็นหนังไทยเองโดยตรงคงจบไปแบบง่ายๆ ตั้งแต่แรก แต่เรื่องนี้คือหักมุมตามสไตล์หนังอินเดีย โดยมีเหตุผลที่รองรับทำให้เชื่อตามได้ และหนังก็ยังแบ่งพาร์ทไปทำฉากจบของไทยเพิ่มให้อีก โดยมีคำคมและรายละเอียดที่ดีรองรับเช่นกัน 

และที่ต้องปรบมือให้เลยคือการใส่ฉากเต้นลงไปถึง 2 ฉาก ซึ่งหนังอินเดียทางสตรีมมิ่งของ Netflix เองก็แทบไม่มี เพราะมันต้องใช้ต้นทุนสูงมากขึ้นจากการออกแบบท่าเต้น ซ้อมคิวเต้น เพลงที่แต่งขึ้นมาใหม่ แต่เรื่องนี้คือใส่ไปตอนต้น 1 ฉากเป็นการเล่าอดีตของนางเอกกับหนุ่มอินเดีย ผ่านเพลงไทยแร็ปใสๆ พร้อมทั้งท่าเต้นตลกๆ ที่เข้ากันได้ดี ก่อนจะมีอีกที่งานแต่งเป็นฉากเต้นใหญ่ของทั้งสองคู่ โดยใช้เพลงอินเดียที่สนุกและตัดฉากเล่าเรื่องอารมณ์ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ของตัวละครออกมาได้ให้ผู้ชมรับรู้ได้เป็นอย่างดี (ฉากเต้นในหนังอินเดียมีเพื่อการนี้โดยเฉพาะ)

 

จุดด้อยของเรื่องก็มีเพียงแค่นี่เป็นหนังตลกโรแมนติกที่นำเสนอเรื่องราวของสองชาติไปด้วยกัน เนื้อหามันเลยต้องแบ่งบทเฉลี่ยไปหลายอย่างมากจนทำให้ไม่สุด แต่ความจริงก็คือถ้าผู้ชมรักตัวละครในเรื่องสิ่งที่ว่ามานี้ก็ไม่จำเป็นเลย ซึ่งถ้าใครดูไบค์แมนแล้วชอบ ก็ชอบเรื่องนี้ได้ไม่ยากเพราะมีความคล้ายกันมากในโทนเรื่องราวของผู้กำกับ พฤกษ์ เอมะรุจิ ที่มีดีเฉพาะตัวในหนังแนวทางนี้จริงๆ ครับ

สรุปนี่คือหนังสตรีมิ่งที่ครบรสกลมกล่อมด้วยเรื่องราวสองชาติ ไทยกับอินเดีย ที่แบ่งบทกันได้อย่างสมดุลย์ มีกระทั่งฉากเต้นเพลงไทยกับอินเดียแยกกัน หนังมีฉากตลกกับโรแมนติกเยอะมาก ด้วยดารานำที่มีเสน่ห์อย่าง เบลล่า-ไบร์ท ที่เคมีเข้าขากันได้เป็นอย่างดี แต่ที่ยอดเยี่ยมคือบทที่ลึกในรายละเอียดเรื่องความรักที่ซับซ้อนของการแต่งงาน ชีวิตคู่ ถ่านไฟเก่าคุกรุ่น การมูฟออนต้องทำยังไง หนังคลี่คลายมันลงด้วยฉากไคลแม็กซ์หักมุมเบาๆ 3 ครั้งติดแบบหนังอินเดีย และก็จบด้วยพาร์ทของไทยต่อได้อย่างน่าประทับใจ เอาว่าดูแล้วแอบรักเรื่องนี้ได้ง่ายๆ เลย จากผู้กำกับ พฤกษ์ เอมะรุจิ ที่มีดีเฉพาะตัวในหนังแนวทางนี้จริงๆ ครับ

 

including other English reviews

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!