playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Dad Wanted หาพ่อมาต่อฝัน พล็อตเรื่องเชยๆ เดาง่าย แต่อบอุ่นลึกซึ้งกินใจ

Dad Wanted

สรุป

นี่เป็นหนังเด็กกับแนวครอบครัวที่มีปมปัญหาบอบช้ำจากการสูญเสียคนที่รักไป ที่แม้พล็อตจะง่ายๆ ภายใต้เรื่องราวน่ารักอบอุ่น ตัวเรื่องมีรายละเอียดลึกซึ้งกินใจพอให้เสียน้ำตาได้เลยเหมือนกัน

Overall
8/10
8/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • ดาราเด็กในเรื่องสวยน่ารักเล่นดีเป็นธรรมชาติมากกับงานแสดงครั้งแรกของเธอ
  • ความสัมพันธ์พ่อลูกในเรื่องที่ใส่มาแบบละเมียดละไม มีรายละเอียดลึกไม่ฉาบฉวยง่ายๆ
  • ดารานักแสดงลงตัว ตัวละครทุกตัวมีบทมีความสำคัญไม่มีใครถูกทิ้งจนกระทั่งจบเรื่อง

 

Cons

  • BMX ในเรื่องเหมือนส่วนเกินหรือของแถมมากกว่าตัวเรื่องจริงๆ
  • เนื้อเรื่องที่เดาง่ายมากตั้งแต่ต้นจนจบ (แต่มีดีที่รายละเอียดระหว่างเรื่อง)

Dad Wanted หาพ่อมาต่อฝัน (ชื่อดั้งเดิมของเม็กซิโกคือ Se busca papá) หนัง Netflix เรื่องราวของ “บลังก้า” สาวน้อยผู้มีพรสวรรค์ในการเล่น BMX แต่แม่ห้ามขี่จักรยาน เธอต้องการลงเแข่งขันครั้งใหญ่ เลยต้องหาพ่อปลอมมาช่วยเซ็นต์ยินยอมให้ได้เข้าแข่งตามฝัน

ตัวอย่าง Dad Wanted หาพ่อมาต่อฝัน

รีวิวเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน แต่ไม่ใช่จุดความลับของเรื่อง

หนังครอบครัวเด็กๆ แต่เรื่องราวกลับไม่เบา ไม่เด็กอย่างที่คิดนัก แม้พล็อตเรื่องจะดูง่ายๆ แอบเชยด้วยกับแนวเด็กมีพรสวรรค์และถูกปิดกั้นสิ่งนั้นจากผู้ใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าอ่านพล็อตเรื่องแค่นี้ก็เดาเรื่องออกจนจบหมดแน่นอน 100% ว่าตอนจบจะเป็นยังไง แต่สำหรับเรื่องนี้ประเด็นหลักไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้นหรือการแข่ง BMX แต่มีอะไรดีๆ มากมายระหว่างทางที่ดูกลับมาให้ผู้ชมได้อย่างไม่คาดคิด จนแอบเสียน้ำตาได้เลยเหมือนกัน

นี่เป็นผลงานเรื่องแรกของดาราเด็กนักแสดงนำในเรื่อง Natalia Coronado ที่เล่นเป็นบลังก้า สาวน้อยตาโตหน้าตาสะสวยน่ารักที่รับบทนี้ได้อย่างไม่มีที่ติ ไม่ใช่ในการปั่น BMX ในเรื่องเพราะน่าจะใช้สแตนด์อิน แต่เป็นเรื่องของบทที่เธอได้รับมีความลึกมากกว่าหนังเด็กทั่วไป บลังก้าเป็นเด็กก้าวร้าวเจ้าอารมณ์ นิสัยเสีย ด้วยพื้นฐานที่กำพร้าพ่อ แม่ก็ห้ามปั่นจักรยานที่เธอรัก ด้วยเหตุผลจากการที่เสียพ่อไปจากการปั่นจักรยานเช่นกัน ซึ่งบทของเธอไม่ใช่แค่อารมณ์แก่นแก้วนิสัยเสีย แต่มีถึงความรู้สึกอับอายเมื่อมีคนหัวเราะเยาะในหลายๆ เรื่องของเธอจนคุมสติไม่อยู่ ซึ่งเธอเล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก จนเรารู้สึกเห็นใจเอาใจช่วยเธอที่ขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์เพราะไม่มีผู้ปกครองที่ดีคอยสอนเท่ากับเด็กในวัยเดียวกัน ในเมื่อแม่ของบลังก้าเป็นโปรดิวเซอร์หนังที่เอาแต่ทำงาน แม้ไม่ลืมลูก แต่กลับเข้ากันไม่ได้ และไม่เข้าใจว่าทำไมลูกถึงเป็นเด็กมีปัญหาขนาดนี้

อาจจะเพราะนี่เป็นหนังเม็กซิกันไม่ใช่อเมริกันที่ทำลวกๆ ลงเน็ตฟลิกซ์แบบที่เจอประจำ บทหนังเรื่องนี้จึงมีความลึกกับรายละเอียดมากกว่าแบบเห็นได้ชัด พ่อปลอมที่มาช่วยบลังก้าในเรื่องจึงไม่ได้ใส่มาง่ายๆ หนังให้บท “อัลเบอร์โต” พ่อปลอมคนนี้มีที่มาที่ไปลึกแบบค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปมาก พร้อมกับการพยายามตื้อของบลังก้าให้เขามาช่วย ซึ่งใช้เวลาถึงเกือบชั่วโมงเต็ม บทอัลเบอร์โต้ถึงเข้ามาช่วยเหลือบลังก้า แล้วระหว่างนั้นเบื่อไหม ต้องบอกว่าไม่เลย แม้จะพอเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเบื้องหลังของอัลเบอร์โต คนขับแท็กซี่ที่มีอดีตเป็นดาราหนังดัง และสูญเสียลูกสาวไปด้วยสาเหตุลึกๆ ที่หนังปิดเป็นความลับพอประมาณ เหมือนเรื่องพ่อของบลังก้าที่ตายเพราะจักรยาน แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งการพบกันของทั้งคู่กลายเป็นการเยียวยากันและกัน ต่างคนต่างผลักดันให้อดีตที่สูญเสียกลายเป็นความทรงจำที่มีค่ากับชีวิต มากกว่าความเจ็บปวดที่ตกค้างไม่จางหายไป จนบั่นทอนทำลายชีวิตทั้งคู่ตลอดมา… (อับเบอร์โต้เลิกแสดง ติดเหล้า ติดหนี้ท่วมหัว บลังก้าเกลียดแม่ ก้าวร้าว ใช้ความรุนแรงระบายกับทุกสิ่ง)

หนังมอบช่วงเวลาดีๆ ของทั้งคู่ผ่านการแสดงละครข้างถนนเพื่อหาเงินซื้อ BMX กลับมาหลังแม่จับได้ว่าเธอยังเล่นมันอยู่ พ่อปลอมๆ อย่างอัลเบอร์โต้ก็ทำให้เธอเริ่มเปิดใจทำอะไรใหม่ๆ ลดพฤติกรรมก้าวร้าวกับคนอื่น ซึ่งเรื่องค่อยๆ ใส่การแสดงละครข้างถนนมาอย่างน่ารัก จากที่ตอนแรกเธออับอายโกรธมากที่อัลเบอร์โต้พาเธอมาทำอะไรแบบนี้ แม้จะเพื่อจักรยานที่เธอรักก็ตาม แต่เรื่องก็ไม่ได้ง่ายๆ หนังให้ช่วงเวลาดีมีอยู่สั้นๆ ก่อนที่แม่ของเธอเข้ามาปิดจบความสัมพันธ์ลับๆ นี้ และกลายเป็นชนวนเหตุที่ทำให้บลังก้ากลับไปปิดใจแน่นหนากว่าเดิม และอัลเบอร์โต้เองก็เหมือนสูญเสียลูกสาวไปอย่างเจ็บปวดอีกครั้ง ซึ่งกลายเป็นเรื่องเริ่มหม่นหมองเต็มไปด้วยความเศร้า รวมไปถึงตัวแม่ของบลังก้าเองที่รู้ตัวว่าผิด แต่กลับไม่มีความสามารถแก้ไขจิตใจลูกได้ กลายเป็นปมบาดแผลในจิตใจของทั้งสามคน ซึ่งสุดท้ายก็มีทางออก และหนังทำได้น่ารักมากกับตอน (ก่อน) จบ ตรงนี้ที่ลงตัวเอามากๆ

เหมือนหนังแทบจะลืมเรื่อง BMX ไปเลยแทบทั้งเรื่อง และก็หยิบเข้ามาเสียบไว้ในตอนท้ายสุดแบบง่ายๆ ซึ่งจริงๆ ตัดไปเลยก็ยังได้เพราะฉากก่อนนี้ก็เหมือนตอนจบที่ดีอยู่แล้ว แต่เหมือนหนังต้องการเคลียร์ทุกเรื่องให้หมดจึงรวมตัวละครที่ออกมาในเรื่องไว้ที่ช่วงนี้ และก็ใส่บทมาให้เล่นคนละนิดหน่อย โดยมีการแข่ง BMX มันส์นิดๆ ปิดท้ายเรื่อง

นี่เป็นหนังเด็กกับแนวครอบครัวที่มีปมปัญหาบอบช้ำจากการสูญเสียคนที่รักไป ที่แม้พล็อตจะง่ายๆ ภายใต้เรื่องราวน่ารักอบอุ่น ตัวเรื่องมีรายละเอียดลึกซึ้งกินใจพอให้เสียน้ำตาได้เลยเหมือนกัน

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!