playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Devotion, a Story of Love and Desire (Netflix) ซีรีส์อีโรติกที่เบาหวิวสุดๆ

สรุป

ซีรีส์หลอกคนดูว่าแนวอีโรติกมีฉาก SEX เปลือยกายแต่กลับไม่แก้ผ้า กลายเป็นแค่แนวอีโรติกเบาๆ กับเนื้อเรื่องธรรมดาจืดๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ก็ไม่ได้แย่จนดูไม่ได้ แค่รู้สึกว่าโดนหลอกให้ดูเพราะคิดว่าจะมีฉากแบบนั้นซะมากกว่าครับ

Overall
5/10
5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • ตัวละครหลักสวยหล่อทุกคน
  • ภาพสวย

Cons

  • นักแสดงเซฟตัวเองจนเหมือนไม่ใช่แนวอีโรติกจริงสักเท่าไหร่
  • เนื้อเรื่องตามสูตร แถมยังจืดๆ
  • จบแบบเรียบง่ายเบาหวิว

Devotion, a Story of Love and Desire รัก ปราถนา ภักดี ซีรีส์ 6 ตอนจบ แนวอีโรติกจาก Netflix อิตาลี (ชื่อดั้งเดิม Fidelity) เรื่องราวของสามีภรรยาที่ต่างคนต่างนอกใจกัน จากมือที่ 3 ที่เป็นนักศึกษาสาววัย 20 ปี

 Fidelity (2022) on IMDb

ตัวอย่าง Devotion, a Story of Love and Desire

เรื่องย่อ

มาร์เกริต้า พบว่าสามีของเธออาจจะนอกใจมีอะไรกับสาวนักศึกษาวัยขบเผาะ  เธอจึงตามสืบทั้งคู่จนกลายเป็นรอยร้าวบนความสัมพันธ์ แต่แล้วเธอเองกลับเริ่มโหยหาความต้องการจากหนุ่มหล่อที่ดูแลร่างกายของเธอเช่นกัน

รีวิว

อีกหนึ่งซีรีส์แนวรักอีโรติกที่เน็ตฟลิกซ์ปล่อยมาช่วงเดือนกุมภาที่มีวันวาเลนไทน์ ซึ่งจะว่าไปก็เหมือนเอาจุดขายเรื่องฉากอีโรติกมาล่อคนตั้งแต่หน้าปกกับตัวอย่าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องบอกกันตรงๆ ว่า “ไม่ตรงปกอย่าแรง” ไม่ใช่ไม่ตรงที่หน้าตานักแสดง แต่เป็นฉากอีโรติกในเรื่องที่ “ไม่แก้ผ้า” ทั้งๆ ที่แนวนี้ยังไงก็ต้องแก้ผ้าล่อนจ้อน เห็นนม ตูด ก้น ทั้งชายและหญิงกันทั้งนั้น แต่เรื่องนี้กลับกลายเป็นการเอาปกมาหรอกว่าเป็นแนวนี้แล้วไม่มี ทั้งๆ ที่มีฉาก SEX เกือบทุกตอน แรกๆ ที่มีแล้วยังใส่เสื้อผ้าก็คิดว่าคงเพราะจะค่อยๆ เผยเนื้อหนังภายหลังไต่เป็นขั้นไปเรื่อยๆ มั้ง แต่กลายเป็นว่าทั้งเรื่องมีฉากเดียวที่นางเอกนักศึกษาสาวถอดเสื้อเห็นหน้าอกสั้นๆ ซึ่งก็แทบไม่มีอะไรมากกว่านั้น นอกจากนั้นไม่มีอะไรแบบนี้อีกเลย ตัวภรรยาสาวมีชู้หรือมีอะไรกับสามีก็ใส่เสื้อในไว้ตลอดไม่ได้ถอดหมด แถมยังชอบเล่นท่าแบบผีผ้าห่มคลุมตัวไว้อีก กลายเป็นนอกจากจะไม่แก้ผ้าแล้วยังปิดบังไว้อีก ซึ่งรวมถึงตัวละครชายในเรื่องก็ด้วย คือกลายเป็นหนังอีโรติกที่ไม่แก้ผ้า ทำมาหลอกคนดูซะงั้น ผู้ชมเป้าหมายทั้งชายและหญิงน่าจะผิดหวังกับจุดนี้กันสุดๆ

ประเด็นเรื่องไม่แก้ผ้าอาจจะดูว่าผู้เขียนหมกหมุ่นไปรึเปล่า เหมือนซีรีส์เกาหลีก็ไม่มีแก้ผ้าอะไรสักหน่อยก็ยังดีอยู่ดี นั่นมันก็ใช่ แต่อย่าลืมว่าเรื่องนี้สร้างจากอิตาลีเป็นสายฝรั่งตรงๆ ต่อให้เรื่องอื่นที่ไม่ถึงขั้นอีโรติกก็ยังมีฉากเปลือยกายเป็นเรื่องปกติสามัญประจำของคนดูไปเลย แต่เรื่องนี้เมื่อหน้าหนังเจตนาชัดขนาดนี้ การไม่มีมันคือการหลอกลวงผู้ชมชัดเจนแบบปฏิเสธไม่ได้เลย

ตัวเรื่องพยายามจะโฟกัสว่าเพราะเหตุใด ทำไมสาวนักศึกษาถึงต้องมาอ่อยอาจารย์ โดยโยงไปถึงปมปัญหาในจิตใจตั้งแต่วัยเด็กร่วมกับการเขียนวรรณกรรม แต่เหตุผลที่เรื่องใส่มาก็ไม่ได้รู้สึกว่าสมเหตุผลหรือทำให้เราเข้าอกเข้าใจตัวเธอมากขึ้น

โอเคถ้าตัดเรื่องไม่แก้ผ้าออกไป หันมาดูเนื้อเรื่องก็ต้องบอกว่าค่อนข้างกลวงโบ๋ คือมันไม่ได้แย่ แต่มันเรียบๆ ไปตามสูตรแนวนี้แบบไม่มีอะไรให้รู้สึกว่าแปลกใหม่น่าติดตามเลย เรื่องเริ่มจากอาจารย์สอนวรรณกรรมที่ใกล้ชิดกับนักศึกษาสาวสวย แล้วนางก็อ่อยอาจารย์แบบชัดเจนจนเป็นเรื่องราวฟ้องไปยังคณบดี ก่อนที่เขาจะมาสารภาพกับภรรยาว่าไม่มีอะไรกับเด็กคนนี้ด้วยเจตนาดี แต่ลึกๆ ก็ซ่อนความต้องการไว้ แต่กลายเป็นว่าแทนที่ภรรยาจะเห็นว่าสามีมาเล่าด้วยเจตนาดี เธอกลับรู้สึกหึงหวงจนนำไปสู่การตามสะกดรอยสาวนักศึกษา แล้วก็รู้สึกว่าอะไรๆ กับสามีไม่เหมือนเดิม จนทำให้เธอเริ่มแอบนอกใจกับผู้ดูแลกายภาพบำบัดหล่อล่ำบ้าง ต่างคนก็ต่างเลยเถิดกันไปไม่ห้ามอะไรกัน ซึ่งเรื่องราวก็ไปแบบจืดๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจจริงๆ จบแบบเรียบๆ ตามสไตล์หนังอิตาลี (ซีรีส์ไม่ได้เขียนว่าลิมิเต็ด แต่จากตอนจบดูแล้วไม่น่าจะมีต่อหรือได้ทำต่อ) จนรู้สึกว่าอิตาลีไม่ควรทำแนวอีโรติกแบบนี้ออกมาเลย เพราะมันไม่เข้มข้นเลยสักนิด แถมยังจืดสนิทสุดๆ ดูแล้วค่อนข้างว่างเปล่าไม่ได้อะไรกลับมา มีดีแค่นักแสดงสวยหล่อใช้ได้เท่านั้น

 

สรุป Devotion, a Story of Love and Desire สนุกและดีไหม

ถ้าใครอยากดูแนวอีโรติกแบบเบาๆ ก็ดูได้ ไม่ได้สนุกมาก แต่ก็ไม่ได้แย่อะไร ออกแนวกลางๆ

แต่ถ้าอยากดูแนวนี้จัดเต็มหน่อยก็แนะนำซีรีส์ญี่ปุ่นที่มาพร้อมกันเรื่อง Fishbowl (ภรรยาตู้ปลา) รับรองว่าจัดเต็มถึงใจกว่าแน่นอน (อ่านรีวิวได้ที่นี่)

 

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!