playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว I CAME BY สืบสวนระทึกขวัญผ่านคนปกติที่กลายเป็นฮีโร่จำเป็น (ไม่มีสปอยล์)

I CAME BY

Summary

หนังระทึกขวัญที่ไม่ได้เป็นแนวไล่ล่าสืบสวนโดยตรง แต่พยายามทำในแนวฮีโร่เป็นคนปกติที่เข้าไปเจออะไรบางอย่างที่เลวร้ายแล้วพยายามจัดการด้วยตัวเอง จนเกิดปัญหาเลวร้ายตามมา ในส่วนระทึกขวัญทำตัวร้ายอออกมาได้จิตวิปริตดีแบบค่อยๆ เผยให้เห็นที่มาที่ไป แต่กลับไม่มีฉากโหดอะไรให้เห็นเลย ซึ่งก็อาจจะดูน่าผิดหวังที่เรื่องไม่นำเสนอให้สุดๆ ในแนวนี้แบบที่ควรจะเป็นครับ แล้วการนำเสนอในแนวฮีโร่คนปกติก็ทำให้บทพยายามตัดการสืบสวนทางการออกไปจากเรื่องแบบไม่ค่อยสมเหตุผลเท่าไหร่ด้วย

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • แนวทริลเลอร์ที่ทำได้ระทึกกับเรื่องราวพอสมควร
  • เดินเรื่องแบบฮีโร่ที่เป็นคนปกติ
  • ตัวร้ายมีที่มาที่ไปดี
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • หลายจุดในเรื่องถูกตัดข้ามไปแบบไม่มีเหตุผล
  • ไม่มีฉากโหดในเรื่องให้เห็นเลย

 

I CAME BY แวะมาในเงามืด หนังทริลเลอร์ Netflix ของอังกฤษ เล่าเรื่องราวสองหนุ่มกราฟิตี้ที่หวังเปลี่ยนโลกด้วยการบุกเข้าไปพ่นสีในบ้านคนรวยเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านว่า I CAME BY  แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อเขาบุกเข้าไปในบ้านอดีตผู้พิพากษากลับพบความลับสุดสะพรึงที่ถูกซ่อนไว้
 I Came By (2022) on IMDb

 

รีวิว I CAME BY (ไม่มีสปอยล์)

หนังแนวระทึกขวัญที่ไม่ได้เดินเรื่องไปแบบสืบสวนโดยตรงผ่านตำรวจ เพราะในเรื่องนี้ตัวเอกคือเด็กหนุ่มที่ยังมีปัญหาดูแลชีวิตตัวเองไม่ได้ และการที่เขาตั้งใจบางอย่างเพื่อเปลี่ยนโลกก็เป็นอาชญากรรมที่เปิดเผยตัวไม่ได้ แต่กลับไปพบอาชญากรรมที่ใหญ่กว่าของตัวเอง จึงทำให้เรื่องไม่ได้เป็นแนวไล่ล่าสืบสวน แต่เป็นการพยายามหาทางจัดการปัญหาที่เกินตัวด้วยความสามารถของเขาเอง เป็นฮีโร่จำเป็นแบบพลเมืองดี ซึ่งเรื่องถูกเน้นไปที่การตัดสินใจกระทำลงไปของแต่ละคน ทั้งเด็กหนุ่มทั้งคู่ที่มีปัญหาแตกคอกับการที่คนหนึ่งไม่อยากร่วมด้วยเพราะต้องดูแลครอบครัว ส่วนอีกคนคือเชื่อในการกระทำของตัวเองจนไม่ฟังใคร แล้วก็มีแค่ของเขามาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ด้วย ทำให้เรื่องค่อยๆ ไล่ตามลำดับปัญหาของแต่ละคนจนครบ ซึ่งก็วนกลับมาที่ชื่อเรื่องเป็นแมสเซจสำคัญในตอนสุดท้ายอีกครั้ง ตัวหนังพยายามชี้ให้เห็นว่าการที่คนปกติทั่วไปจะลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างที่เกินตัวเพื่อสังคมต้องใช้ความกล้าเข้าแลกแค่ไหน ซึ่งอาจจะดูเป็นตอนจบที่เหมือนฮีโร่ดี แต่มันกลับไม่ค่อยสมเหตุผลกับเรื่องหลักนัก เพราะด้วยความที่เรื่องพยายามทำแนวฮีโร่เป็นคนปกติ ทำให้พวกการสืบสวนทางการในเรื่องถูกตัดประเด็นออกไปง่ายๆ แบบไม่ค่อยมีเหตุผล แม้จะวางให้ตัวร้ายเป็นอดีตผู้พิพากษาที่มีเส้นสายมากมายคอยช่วยเหลือ แต่หลายอย่างก็ไม่น่าเป็นไปได้ จนดูแล้วมีคำถามตามมาเสมอว่าทำไมตำรวจอังกฤษบกพร่องกับงานขนาดนั้น หรือแม้แต่บ้านของตัวร้ายที่ติดระบบเตือนภัยทั้งบ้านกลับไม่มีกล้องวงจรปิดไว้สักตัวทั้งนอกบ้านในบ้านที่ดูผิดปกติมาก ถึงจะอ้างว่าเพื่อไม่ให้มีหลักฐานบันทึกไว้ก็ยังดูไม่สมเหตุผลอยู่ดี

แต่ในส่วนของความระทึกขวัญของเรื่อง อันนี้ถือว่าทำออกมาดีเลย ตัวเรื่องค่อยๆ แง้มให้เราเห็นการกระทำของตัวอดีตผู้พิพากษาที่ภายนอกดูเป็นคนดีมีศีลธรรม แต่เบื้องหลังกลับโหดเหี้ยมวิปริตเหมือนปีศาจ นักแสดงก็เล่นได้ดีเลยมีบางอารมณ์ดูคล้ายฮันนิบาลเล็คเตอร์นิดๆ ด้วย ตัวเรื่องค่อยๆ ทำให้เราเห็นรูปแบบพฤติกรรมและที่มาที่ไปของความวิปริตของเขาผ่านการสนทนากับเหยื่อในเรื่อง แต่ไม่มีฉากโหดให้เห็นตรงๆ ถือว่าน่าเสียดายอยู่ที่บทเขียนได้วิปริตแล้วแต่กลับแค่นำเสนอแบบผ่านๆ ให้คนดูพอเข้าใจว่าเขาทำอะไรลงไปเท่านั้น 

ถือเป็นหนังระทึกขวัญเล็กๆ ที่มีความน่าติดตามในระดับที่ดูได้จนจบแบบไม่ติดขัดอะไร แค่ยังทำได้ไม่ถึงใจแบบที่แนวนี้ควรจะเป็นเท่านั้นครับ

 

 

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!