รีวิว Lift (Netflix) หนังปล้นรวมทีมดาราดังที่ดูสนุกแบบง่ายๆ แต่เทียบกับ The Italian Job คือแย่!

Lift ปล้นเหนือเมฆ หนัง Original Netflix แนวแอ็กชั่นอาชญากรรมรวมทีมปล้นด้วยดาราดัง เรื่องราวของแก๊งโจรระดับเทพที่ต้องมาช่วยตำรวจสากลหยุดยั้งอาชญากรร้ายที่ร่วมมือกับแฮ็กเกอร์ควบคุมระบบต่างๆ สร้างวิกฤต เพื่อหวังทำกำไรจากการชอร์ตหุ้น

 

Lift ปล้นเหนือเมฆ รีวิว (ไม่สปอยล์)

หนัง Original Netflix แนวแอ็กชั่นอาชญากรรมรวมทีมปล้นด้วยดาราดัง เรื่องราวของแก๊งโจรระดับเทพที่ต้องมาช่วยตำรวจสากลหยุดยั้งอาชญากรร้ายที่ร่วมมือกับแฮ็กเกอร์ควบคุมระบบต่างๆ สร้างวิกฤต เพื่อหวังทำกำไรจากการชอร์ตหุ้น

หนังจาก F. Gary Gray ผู้กำกับที่มีชื่อเสียงจาก The Italian Job (2003) ซึ่งเป็นแนวรวมทีมปล้นที่เต็มไปด้วยดาราชื่อดังอย่าง Mark Wahlberg, Edward Norton, Jason Statham, Charlize Theron แล้วก็ไม่ได้มากำกับแนวนี้อีกเลยจนมาถึงเรื่องนี้ก็คือการหวนกลับมาทำแนวเดิมอีกครั้ง ในพล็อตรวมทีมปล้นทองคำบนเครื่องบินมูลค่า 500 ล้านดอลล่าร์ โดยมี Kevin Hart เป็นพระเอกแนวตลก แต่เรื่องนี้ไม่ได้รับบทตลกอย่างเคย  ตามมาด้วยนางเอกผิวดำ Gugu Mbatha-Raw (ผลงานล่าสุดจากซีรีส์ Loki) Sam Worthington จาก Avatar ที่หาคิวมาเล่นจนได้ Vincent D’Onofrio (ตัวร้ายคิงพินของมาร์เวล) Billy Magnussen และนักแสดงสเปน Úrsula Corberó หรือโตเกียวจาก Money Heist ส่วนตัวร้ายก็คือ Jean Reno กับ Burn Gorman ซึ่งก็เป็นดาราตัวร้ายระดับท็อป ทำให้เรื่องนี้แค่ชื่อดาราก็ขายเรียกความสนใจได้แล้วแน่นอน

หนังมาในบทสำเร็จรูปง่ายๆ ซึ่งก็ทำให้หนังยังดูสนุกได้แบบไม่ต้องอะไรคิดมาก โดยมีฉากแอ็กชั่นการต่อสู้ในเครื่องบินที่พลิกหมุนลำไปมาประกอบกับการต่อสู้ตัวๆ ในเครื่องบินที่คนร้ายมีปืนดัดแปลงที่ความแรงไม่พอยิงทะลุเครื่องบินแต่ยิงคนตายได้ ซึ่งเป็นฉากแอ็กชั่นฉากเดียวของเรื่อง นอกนั้นคือฉากโชว์วิธีการปล้น ซึ่งฉากปล้นเปิดเรื่องดูสร้างสรรค์ด้วยการปล้นงานศิลปะ NFT ที่จับผู้สร้างไปปั่นราคาให้งานมีมูลค่าสูงขึ้น มีความแปลกใหม่ในไอเดียการโชว์สกิลของตัวละครแต่ละตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยอุ้มหนังไว้ได้ อย่าง Kevin Hart เล่นเป็นหัวหน้ากลุ่มโจรที่มีสปิริตรักและปกป้องลูกทีมและก็ไม่ได้มาในแนวตลกเลย โดยมีพล็อตรองเป็นเรื่องรักเล็กๆ ที่เขาเคยมีให้กับนางเอกที่ปลอมตัวมาเจอกันและไม่รู้ว่าเขาเป็นโจรมาก่อน ซึ่งเขาเล่นได้น่ารักและมีเสน่ห์ในบทที่กวนนิดๆ ใส่นางเอกแต่มีใจให้อย่างเด่นชัด ทำให้นางเอกก็เริ่มใจอ่อนกับเขาอีกครั้ง นักแสดง Úrsula Corberó เล่นเป็นนักขับพาหนะทุกอย่าง ซึ่งในเรื่องนี้เธอคือคนขับเครื่องบินที่ได้แสดงฉากผาดโผนโดดเด่นหลายครั้ง และความสวยของเธอเด่นมากกว่าใครก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทำให้บทนี้ดูเด่นขึ้นไปอีก หรือแม้แต่นักแสดงจากซีรีส์เกาหลีหน้าใหม่อย่าง Yun Jee Kim มาเล่นในบทแฮ็กเกอร์ของทีมก็ใช้ความสวยเด่นแบบเอเชียจนทำให้บทนี้ดูดีขึ้นมาเป็นกอง แม้บทจะแทบไม่ได้มีฉากโชว์แก้วิกฤตใหญ่ๆ เลยก็ตาม 

 

แต่ปัญหาของเรื่องคือบทภาพยนตร์ของ Daniel Kunka ผู้เขียนบทที่มีเครดิตผลงานน้อยมากตั้งแต่ปี 2009 เรื่องเดียวคือ 12 Rounds และก็ไม่ได้ออกมาดีด้วย จากนั้นก็หายไปนานแล้วก็มาเขียนบทเรื่องนี้เลย จึงทำให้ระดับความลึกของบทเรื่องนี้ได้แค่ชั้นของนักเขียนทั่วไป เป็นบทที่ใส่อุปสรรคทางผ่านแบบง่ายๆ ผิดกับหนังแนวนี้ที่ต้องนำเสนอโจทย์ที่ยากที่มาพร้อมวิธีแก้ปัญหาที่ฉลาดล้ำ แต่บทกลับเขียนได้เติ้นเขินมาก เหมือนแค่คิดปมปัญหาเล็กๆ แล้วอยากให้ผ่านแบบไหนก็ผ่านได้เลย ขาดความน่าทึ่งตามจุดขายแนวหนังไป แม้กระทั่งฉากจบที่ตั้งใจหักมุมให้ผู้ชมทึ่ง ก็ยังเป็นไปตามพล็อตสำเร็จรูปง่ายๆ อยู่ดี 

นอกจากนั้นการปล้นเครื่องบินที่เป็นไฮไลต์หลักก็ไม่ได้ปล้นจริงๆ เป็นแค่การสวมรอยเรด้าห์เครื่องบิน ส่วนที่เหลือฉากปล้นก็เป็นไปตามสูตรทั่วไปอย่างเจาะรหัสไขตู้เซฟ แฮ็กเกอร์ช่วยปิดระบบ คนแปลงโฉมหลอกล่อที่ไม่รู้จะแปลงไปทำไม แทบไม่ได้ช่วยอะไรในเรื่องเลย ซึ่งตัวละครในทีมฉากนี้ส่วนใหญ่มีบทน้อยมากไม่เหมือนหนังรวมทีมปล้นที่ทุกคนต้องมีบทบาทเด่นจริงๆ 

ตัวร้ายของเรื่องก็มีบทน้อย ตัวร้ายรองได้ฉากแอ็กชั่นต่อสู้ในเครื่องบินสั้นๆ แค่ฉากเดียว ส่วนบอสใหญ่ก็ร้ายแบบทื่อๆ แม้ความโหดจะมีให้เห็นจากการฆ่าคนแบบไม่มีการถามซ้ำ แต่หนังก็เลือกจบบทบาทตัวร้ายด้วยไอเดียแบบคิดสดของแฮ็กเกอร์ที่ไม่สมเหตุผลเลยว่าทำได้ยังไงกับการควบคุมจอเครื่องบินที่ลงจอดจนพังไปแล้วขนาดนั้น ซึ่งจริงๆ ก็ตั้งแต่การสื่อสารกันไกลขนาดนั้นในระบบทีมโดยไม่มีติดขัดแล้วด้วย และบทของ Sam Worthington ในฝั่งตำรวจก็บทน้อย ก่อนดูเหมือนหลอกให้ผู้ชมคิดว่าดาราระดับนี้น่าจะมารับบทที่ร้ายลึก แต่ที่จริงแค่ต้องการเอาชื่อเขามาขายแค่นั้น 

สรุปหนังมีความสนุกจากการเล่าเรื่องรวมทีมปล้นแบบสำเร็จรูปง่ายๆ โดยใช้ดาราชื่อดังมาดึงดูดและก็ทำได้ดี โดยเฉพาะ Kevin Hart กับ Úrsula Corberó (โตเกียวจาก Money heist) ที่เธอสวยเด่นมากจากบทนักขับเครื่องบินของทีม แต่บทก็มีปัญหาตรงใส่อุปสรรคทางผ่านกับการแก้ปัญหาให้ง่ายๆ ไปหมด และหลายจุดก็ดูเป็นไอเดียลวกๆ ที่ไม่สมเหตุผล ซึ่งถ้าไม่คิดมากอะไรก็พอมองข้ามไปได้ แต่ถ้าคิดเยอะหน่อยนี่ก็เป็นหนังรวมทีมปล้นที่แย่และสู้ไม่ได้เลยกับผลงาน The Italian Job หนังดังในอดีตของผู้กำกับคนนี้ครับ

including other English reviews