playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Misha And The Wolves สารคดีเปิดโปงเรื่องลวงโลกของผู้รอดตายจากนาซีเยอรมัน

Misha And The Wolves

สรุป

โดยรวมหนังสารคดีชั่วโมงครึ่งเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวได้สนุกพอสมควร แต่การมุ่งเน้นเล่าแต่เรื่องราวการขุดคุ้ยหาความจริงของมิชา โดยแทบไม่ได้ปูเรื่องเล่าของมิชามากพอ ก็ทำให้รู้สึกไม่ละเอียดพอในเชิงสารคดีที่ควรจะบอกเล่าเรื่องราวให้ครบทั้งหมดทุกด้านได้เหมือนกัน

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • เรื่องจริงของมิชา หญิงชราลวงโลกที่หลอกคนมาทั่วโลกว่าเป็นผู้รอดตายจากนาซีสมัยเด็กด้วยการช่วยเหลือของหมาป่า
  • มีเสียงพากย์ไทย

Cons

  • มิชาตัวจริงไม่ได้ให้ความร่วมมือถ่ายสารคดีนี้
  • รายละเอียดเรื่องเล่ามิชามีให้เห็นนิดเดียว

Misha And The Wolves มิชาและหมาป่า หนังสารคดี Netflix บอกเล่าเรื่องจริงของมิชา หญิงชราลวงโลกที่หลอกคนมาทั่วโลกว่าเป็นผู้รอดตายจากนาซีสมัยเด็กด้วยการช่วยเหลือของหมาป่า

 Misha and the Wolves (2021) on IMDb

 

ตัวอย่างสารคดี Misha And The Wolves มิชาและหมาป่า

หนังสารคดีสร้างจากเรื่องจริงของมิชา หญิงชราที่เล่าเรื่องว่าตัวเองเป็นเด็กผู้รอดชีวิตจากการนาซีล้างเผ่าพันธ์ยิว โดยออกเดินทางตามหาพ่อแม่จนได้มาคลุกคลีกับหมาป่าใช้ชีวิตด้วยกัน เรื่องเล่าของเธอโด่ดงดังจนได้มาเขียนหนังสือขายดีตีพิมพ์ไปทั่วโลก แต่แล้วกลับกลายเป็นว่าเรื่องที่เธอเล่ามาทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก

ก่อนอื่นเลยต้องเข้าใจว่าสารคดีเรื่องนี้ไม่ได้ปกปิดว่าเรื่องของมิชาเป็นเรื่องโกหก แต่เดินเรื่องด้วยการสืบสวนของเจ้าของสำนักพิมพ์ที่เธอเขียนหนังสือให้เอง ซึ่งตัวเรื่องจะเล่าแค่สั้นๆ ในช่วงแรกว่าเรื่องของเธอเป็นอย่างไร โดยไม่ได้ลงลึกเรื่องรายละเอียดของการอยู่กับหมาป่า มีแค่สั้นๆ ว่าเดินไปเจอแล้วก็ถูกหมาป่ายอมรับ อาจจะเพราะว่าเมื่อเรื่องราวมันคือการโกหกคำโตของหญิงชรา ตัวเรื่องจึงไม่ได้อยากจะย้อนรอยคำโกหกนั้นซ้ำอีกครั้ง ทั้งเรื่องเราจึงได้รู้รายละเอียดแค่ผิวๆ ในเรื่องเล่าของมิชาเท่านั้น ซึ่งก็น่าเสียดายเหมือนกันที่หนังเลือกเล่าแบบนี้ ทำให้คนดูไม่รู้ว่าในรายละเอียดเธอโกหกขนาดไหนถึงมีคนเชื่อในวงกว้างขนาดนั้น

หนังเลือกเล่าสั้นๆ ถึงจุดกำเนิดเธอผ่านเรื่องเล่าในโบสถ์ที่โด่งดังในละแวกชุมชนนั้นจนไปถึงเมืองทั้งเมืองเห็นใจเธอ ซึ่งสารคดีก็เลือกเอาเพื่อนบ้านใกล้ๆ กับเธอมาเล่า ในขณะที่มีฟุตเทจตัวจริงของมิชาหลังถูกจับโกหกได้มาร่วมด้วย แต่ก็ไม่ใช่ของสารคดีโดยตรง แต่เป็นการออกรายการทีวีช่องหนึ่งซึ่งเรื่องมาเฉลยตอนท้ายว่าสารคดีนี้ไม่ได้รับความร่วมมือจากมิชาตัวจริง ซึ่งทำให้เรื่องราวอาจจะไม่ได้สมบูรณ์เพราะในเรื่องจะเป็นคำบอกเล่าจากเพื่อนบ้านกับเพื่อนที่มาเกี่ยวข้องตอนที่เธอมีชื่อเสียงแล้วเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนก็เล่ามุมมองก่อนกับหลังให้ผู้ชมได้ฟังกัน ซึ่งช่วงก่อนรู้ว่าเธอโกหกเรื่องราวหลายอย่างค่อนข้างโลดโผนเหมือนกัน อย่างมิชาได้รับการติดต่อจากโอปราห์ วินฟรีย์ ให้มาออกรายการ โดยต้องไปถ่ายทำการพบเจอหมาป่าจริงๆ ซึ่งมิชาตัวจริงเองก็ดันเข้ากันได้กับหมาป่าอย่างไม่น่าเชื่อ เลยทำให้เรื่องเล่าของเธอดูทรงพลังมากยิ่งขึ้นไปอีก รวมถึงการที่ดิสนีย์ก็ติดต่อมาขอไปทำหนัง แต่สุดท้ายแล้วมิชาเองกลับปฏิเสธทุกอย่างที่เข้ามา โดยอ้างว่าไม่ต้องการอะไรพวกนี้และทิ้งบ้านไปไม่ได้ จนทำให้เจ้าของสำนักพิมพ์มากดดันเธอกลายเป็นเรื่องราวฟ้องร้องกันขึ้นมา ซึ่งนี่เองเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องราวทั้งหมดสู้การค้นหาความจริงของมิชาในที่สุด

ตัวหนังแม้เป็นเรื่องราวการจับโกหกใหญ่โตของหญิงชราคนหนึ่ง แต่สิ่งที่หนังเน้นย้ำคือการตั้งข้อสังเกตุว่าเรื่องราวนี้ถูกเชื่อไปได้ยังไงทั่วโลก ถูกตีพิมพ์ใน 20 ประเทศ สร้างเป็นหนังด้วย ซึ่งหลักๆ ก็คือการที่คนเรารู้สึกว่าเรื่องเล่าของผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธ์มันหดหู่แต่ก็ทรงพลัง มีอำนาจทำให้ผู้คนที่ได้ฟังรู้สึกไม่กล้าโต้แย้งหรือขุดคุ้ยหาความจริงเพราะกลัวผลลัพธ์ว่าจะไปกระทบกระเทือนจิตใจของเหยื่อจากเหตุการณ์หนักหนาสาหัสที่สุดของมนุษย์ชาติ จนกลายมาเป็นข้อได้เปรียบของมิจฉาชีพที่คิดหยิบฉวยเอาเรื่องราวแบบนี้มาลวงโลก ซึ่งแม้แต่การตัดสินในศาลก็เข้าข้างมิชา จนทำให้เจ้าของสำนักพิมพ์แพ้คดีลิขสิทธิ์นี้เอง ทำให้เจ้าของสำนักพิมพ์เองก็ยังรู้สึกกระอักกระอ่วนใจที่ต้องสืบเรื่องนี้ด้วยตนเอง โดยระหว่างสืบก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งมีความลังเลอยู่ตลอดเวลาว่าถ้าเป็นเรื่องจริงขึ้นมาเธอเองจะตกเป็นจำเลยสังคมอีกครั้ง

แม้ว่าเรื่องราวจะเป็นแนวสืบสวนถึงเรื่องโกหกของมิชาที่ร้ายแรงมาก จนดูเหมือนไม่มีความจริงหลงเหลืออยู่เลย แต่ช่วงท้ายเรื่องก็มีจุดหักมุมที่ทำให้เห็นที่มาที่ไปของเรื่องราวมิชาว่าทำไมเธอถึงโกหกเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งช่วยลดทอนความความผิดของเธอได้บ้าง เป็นเรื่องเกี่ยวกับพ่อแม่ตัวจริงของเธอที่อาจจะไม่เหมือนเรื่องเล่า แต่ก็มีความเชื่อมโยงไปถึงนาซีจนแอบเห็นใจเธอได้บ้างเหมือนกัน ซึ่งเรื่องราวจะเป็นยังไงอันนี้ต้องลองติดตามชมดูด้วยตัวเองครับ

 

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!