playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Sweet Tooth 2 เรื่องราวยังสนุกอยู่ แต่ก็อยู่ในโทนอารมณ์หนังเด็ก

Sweet Tooth 2

Summary

โดยรวมเนื้อเรื่องยังทำได้สนุกอยู่ มีความสนุกแบบแฟนตาซีเด็กในเนื้อเรื่องที่โหดร้ายแบบให้ผู้ใหญ่ดู อาจจะดูไม่ลงตัวนักเมื่อต้องนำเสนอความโหดร้ายรุนแรงทั้งเรื่อง แต่ก็ถูกเบรคไว้ตลอดเวลา และเนื้อเรื่องก็เป็นในทิศทางเดียวคือการต่อสู้กับกองกำลังลาสต์เมนเพื่อปิดฉากจบ ก่อนไปต่อที่ตัวร้ายใหม่ในซีซั่น 3 โดยมีเรื่องราวย้อนเฉลยปมความลับที่มาไวรัสล้างโลกจนกระจ่าง แต่ก็ยังทิ้งปมความลับของเด็กไฮบริดไว้ต่อไปครับ     

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • ความสนุกแบบแฟนตาซีน่ารักในโลกหายนะ
  • เฉลยที่มาของไวรัสล้างโลก
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • เนื้อเรื่องพยายามเลี่ยงความรุนแรงจนบทดูแปลกๆ
  • บทด็กหลายคนเป็นแค่ตัวประกอบ

Sweet Tooth 2 หลังถูกกองกำลังลาสต์เมนจับกุมและคุมขัง กัส หนุ่มน้อยครึ่งกวางที่แสนพิเศษจึงต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อช่วยพวกพ้องไฮบริดหลบหนีก่อนที่จะสายเกินไป

 

รีวิว Sweet Tooth 2 

ซีซั่น 2 ที่เล่าเรื่องราวการต่อสู้กับกองกำลังลาสต์เมน ที่มีนายพล แอบบอต เป็นบอสใหญ่ตัวร้ายของซีซั่นนี้ เนื้อเรื่องทั้ง 8 ตอนจึงแทบจะไม่ได้ไปไหนไกลเลย ต่างจากซีซั่น 1 ที่เป็นการเดินทางผจญภัยมากกว่า โดยเนื้อเรื่องเน้นย้ำความโหดร้ายของ แอบบอต ที่บังคับหมอให้ทำยาฆ่าไวรัสจากเด็กไฮบริดที่ถูกกักขังไว้ แต่บทก็พยายามเลี่ยงความโหดร้ายตรงนี้โดยการให้เด็กที่ถูกนำมาทดลองเป็นตัวละครสัตว์เลื้อยคลานน่าเกลียดน่ากลัว ซึ่งเป็นการเลี่ยงความรุนแรงแบบอ้อมๆ แต่ก็ไม่ถูกต้องนักในความเป็นจริง กลายเป็นตัวละครที่ตายต้องมีรูปลักษ์น่าเกลียด ตัวละครน่ารักกลับรอดและไม่มีฉากที่สุ่มเสี่ยงเฉียดความตายใดๆ เลย ซึ่งทำให้ระดับความรุนแรงของเรื่องถูกบีบลงมาให้เหมือนหนังเด็ก แม้ว่าเนื้อเรื่องจะเป็นการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากความโหดร้ายของผู้ใหญ่ตลอดเวลา

ในภาคนี้มีการนำเสนอความสามารถพิเศษของตัวละครเด็กไฮบริดเพิ่มเติม อย่าง ลิงที่ปีนป่ายที่สูงได้ ช้างที่มีพลังมหาศาล แต่ก็มีแค่สองตัวละครนี้ที่มีบทบาทสำคัญ ตัวละครที่เหลือจึงกลายเป็นตัวประกอบในเรื่องที่บทเบาบางจนจำชื่อยังไม่ได้เลย

ส่วนตัวเอก Gus มีพัฒนาการเติบโตขึ้นมาพอสมควร เริ่มจากการที่ Gus ได้รับรู้ว่าโลกนี้โหดร้าย เขาไม่สามารถไว้ใจใครได้ง่ายๆ การโกหกเพื่อหลบเลี่ยงความจริงที่โหดร้าย ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาจดจำมาจากพ่อก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเสมอไป แต่โดยรวมตัวละครนี้ก็ยังน่ารักเสมอต้นเสมอปลาย เป็นตัวดึงดูดให้ผู้ชมดูเรื่องนี้ได้มากที่สุด คู่กับบทของทอมมี่ ยักษ์ใหญ่ใจดีที่บทยังคงสานต่อความผูกพันธ์กับ Gus ได้อย่างลงตัว น่าเอาใจช่วย โดยมีฉากเล่าเรื่องย้อนไปสมัยอดีตว่าเขาเข้าร่วมในกองกำลังลาสต์เมนได้ยังไง ซึ่งส่วนนี้ช่วยอธิบายเรื่องราวที่ถูกปกปิดไว้ก่อนนี้ให้กระจ่างชัดทั้งหมด 

เนื้อเรื่องอีกด้านคือการเดินทางผจญภัยของ Bear ซึ่งเธอจะไปพบกับหนุ่มที่อยากเข้ากองกำลังลาสต์เมน ทำให้เธอติดตามไปด้วยเพื่อหวังตามหา Gus ให้เจอ โดยมีของสำคัญจากแม่ของ Gus ที่เนื้อเรื่องจะเฉลยที่มาของไวรัสล้างโลกที่ถูกปกปิดไว้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยดึงดูดให้เรื่องราวน่าติดตาม และก็ผูกปมไว้ไปต่อในซีซั่น 3 เป็นการเดินทางไปอลาสก้าในตอนจบด้วย แต่ก็ยังไม่ได้เฉลยเนื้อเรื่องของเด็กไฮบริดทั้งหมดว่าเกิดมาได้ยังไง และมีความสำคัญยังไงกับการกู้โลก 

ส่วนตัวร้ายนายพล แอบบอต ก็มีเนื้อเรื่องเพิ่มให้เห็นความสัมพันธ์ของเขากับน้องชาย แต่ทั้งหมดก็เป็นไปในแนวคนจิตวิปลาศเต็มไปด้วยความโหดร้ายล้วนๆ เป็นตัวร้ายแบบไม่มีส่วนดีหลงเหลืออยู่เลยสักนิด แต่ตัวร้ายก็มีหมอเพิ่มมาอีกคน จากซีซั่น 1 ที่ดูเขายังเป็นคนดีที่จำยอมทำเรื่องเลวร้ายเพื่อช่วยภรรยา แต่ในซีซั่น 2 เขาเหมือนคนสติหลุด ค่อยๆ ถลำลึกลงไปในการทดลองที่ชั่วร้ายขึ้นเรื่อยๆ 

 

เนื้อเรื่องจบลงที่การปิดฉากการต่อสู้กับกองกำลังลาสต์เมน แต่ก็มีเปิดตัวร้ายคนใหม่ทิ้งไว้ ซึ่งก็มาแนวเดียวกันอีกว่าเป็นตัวร้ายที่มีจิตใจโหดเหี้ยม ก็ยังถือว่าน่าสนใจกับการไปต่อในซีซั่น 3 อยู่ครับ

 

Including other English reviews

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!