playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Abandoned แรงงานเถื่อนไทยในไต้หวันกับฆาตกรต่อเนื่องเรื่องความรัก

The Abandoned

Summary

โดยรวมหนังทำส่วนของการสืบสวนไล่ล่าออกมาได้ดี โดยพ่วงปมปัญหาความรักของตัวละครเข้าไปกับคดีที่เกิดขึ้น แต่ช่วงหลังจากเฉลยตัวฆาตกรเนื้อเรื่องพยายามประดิษฐ์จัดวางสิ่งต่างๆ มากไปจนทำให้หนังดูล้มเหลวในการเคลียร์ปมความรักในตอนท้าย แต่สิ่งที่น่าสนใจคือเป็นหนังที่บอกเล่ามุมมองแรงงานเถื่อนคนไทยในไต้หวันเรื่องแรกแบบชัดๆ โดยใช้ภาษาไทยเป็นหลักในการพูดคุยกับตัวละครไต้หวันที่พูดไทยได้ (แต่ไม่ชัด) ซึ่งทำให้หนังก็ยังดูน่าสนใจแนะนำให้ลองดูกันครับ

Overall
6.5/10
6.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • เชื่อมโยงความรักเข้ากับคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง
  • ปัญหาแรงงานไทยเถื่อนในไต้หวัน
  • ตัวละครพูดไทยได้เยอะ

Cons

  • ตอนท้ายหลังเฉลยฆาตกรทำได้ไม่ดี
  • ตัวเอกหญิงค่อนข้างเรียบๆ ไม่เด่น

The Abandoned ร่างที่ถูกทิ้ง ภาพยนตร์ฉายโรงของไต้หวันไม่นานนี้ก่อนที่ Netflix ซื้อมาลงในระบบเป็นของตัวเอง เรื่องราวของตำรวจหญิงผู้โศกเศร้ากับการฆ่าตัวตัวตายของตำรวจคู่รักต่อหน้าเธอ แต่เธอต้องมาสืบคดีฆาตกรรมต่อเนื่องซึ่งมีความรักมาเป็นชนวนเหตุสังหาร
The Abandoned (2022) on IMDb

 

รีวิว The Abandoned ร่างที่ถูกทิ้ง (ไม่สปอยล์)

หนังไต้หวันแนวสืบสวนที่ขึ้นชื่อเรื่องบทที่ซับซ้อนเสมอ ซึ่งเรื่องนี้ก็เช่นกันเมื่อเรื่องเปิดประเด็นที่ตัวเอกเป็นตำรวจหญิงสาวกำลังจะฆ่าตัวตายในรถที่คู่รักของเธอฆ่าตัวตายไปเนื่องจากป่วยโรคซึมเศร้า แต่เธอกลับต้องมาเจอศพผู้หญิงถูกทิ้งไว้ในร่องน้ำ ทำให้การฆ่าตัวตายของเธอหยุดชะงักไป และต้องมาสืบคดีปริศนานี้ โดยที่คดีนี้กลายเป็นฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดกับแรงงานเถื่อน โดยที่สภาพของศพคือถูกควักหัวใจหายไปพร้อมตัดนิ้วกลางซ้ายออกไปด้วย จากสภาพศพสันนิษฐานว่าฆาตกรมีแรงจูงใจจากปัญหาความรัก (หัวใจที่หายไปกับนิ้วที่ไว้สวมแหวนแต่งงาน) โดยเธอต้องจับคู่กับตำรวจหญิงจบใหม่ที่ขาดประสบการณ์ และยังต้องพบกับผู้ต้องสงสัยที่เป็นหัวหน้าแรงงานเถื่อนที่คู่รักของเขากลายเป็นศพเหยื่อในคดีนี้ทั้งหมด ซึ่งทำให้เรื่องยิ่งซับซ้อนเมื่อพบว่าเขาเองก็กำลังปิดบังหลายอย่างไว้ 

การดำเนินเรื่องนี้จะเกี่ยวพันกับปัญหาความรักของตัวละครหลักทั้ง 2 คน ฝ่ายหนึ่งคือตำรวจหญิงที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายไปแล้วแต่ถูกหน้าที่ตำรวจมาหยุดไว้ อีกคนคือหัวหน้าแรงงานเถื่อนไต้หวันที่มีความรักกับเหยื่อที่ตายไป และตัวละครเหยื่อในเรื่องก็เป็นผู้หญิงไทยที่มักถูกเข้าใจผิดว่ามาทำงานขายตัว โดยมีน้องสาวคนไทยของเหยื่อออกมาตามหาพี่สาวที่ตายไป (ตัวละครในเรื่องพูดไทยกันค่อนข้างเยอะ)  ซึ่งหนังนำจุดนี้มาเป็นปมปริศนาในเรื่องให้ผู้ชมสงสัยว่าหัวหน้าแรงงานคนนี้รักเหยื่อที่ตายไปจริงๆ หรือนี่เป็นแค่ละครที่เขาเล่นตบตาตำรวจ เพราะเขาเองก็เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมแรงงานเถื่อน ซึ่งหนังก็จะพาไปพบกับชีวิตของแรงงานเถื่อนพวกนี้ในแง่มุมที่ว่าพวกเขาเองก็ดิ้นรนต่อสู้ใช้ชีวิตในไต้หวันมากและต้องหลบซ่อนทางการตลอดเวลา จนกลายเป็นเป้าหมายของอาชญากรได้ง่ายๆ เพราะเกิดคดีอะไรขึ้นมาก็ให้ตำรวจเข้ามาช่วยไม่ได้ ต้องหาทางปกปิดกันเอง ทำให้แรงงานเถื่อนมักตายฟรี เพราะถ้าเรื่องแดงขึ้นมามันจะกระทบกับแรงงานคนอื่นไปด้วย ซึ่งหนังสะท้อนปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับเหยื่อที่เป็นแรงงานเถื่อนได้อย่างดี 

ส่วนของตำรวจหญิงก็มีปมปัญหาทางจิตที่เธอครุ่นคิดอยากตายตามคนรัก แต่หน้าที่นี้ทำให้เธอยังอยู่ ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นทำให้เธอถูกมองว่ามีปัญหากับการทำงาน แต่หัวหน้าก็ยังบังคับให้เธอร่วมมือกับตำรวจสาวหน้าใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ หนังทำให้เห็นความสามารถของตำรวจหญิงที่เก่งมาก แต่ปวดร้าวจิตใจอยู่ตลอดเวลา และตอกย้ำด้วยอาชญากรรมที่เกิดจากความรักโดยตรง ฆาตกรคือคนที่ผิดหวังในรักและอยากครอบครองจนต้องฆ่าเหยื่อ ซึ่งการไล่ล่าฆาตกรนี้ก็คือการช่วยเยียวยาจิตใจของเธอไปด้วย และยังช่วยค้นหาความหมายของการมีชีวิตอยู่ต่อไป ซึ่งนี่คือปมสำคัญที่เรื่องนี้ตั้งใจเล่ามากกว่าการเฉลยว่าฆาตกรเป็นใคร 

ในเนื้อหาการเชื่อมโยงปมปัญหาความรักเข้ากับฆาตกรต่อเนื่องนั้นดูเป็นไอเดียที่ดีเลย แต่ว่าสิ่งที่เรื่องนี้ทำได้ไม่ดีนักคือช่วงหลังที่เฉลยตัวฆาตกรแล้วพยายามประดิษฐ์จัดวางองค์ประกอบแรงจูงใจต่างๆ ที่ดูแล้วขัดแย้งกับความสามารถของตัวละครจนเชื่อได้ยากว่าคนๆ นี้จะกลายมาเป็นฆาตกรที่ฉลาดได้ขนาดนี้ อย่างการมีเครื่องมือตัดสัญญาณมือถือ การทิ้งศพเพื่อจงใจท้าทายตำรวจ การลงมือฆ่าควักหัวใจที่รอบคอบว่าทำได้อย่างไรไม่ให้มีเลือด ซึ่งหนังทำส่วนนี้ได้ไม่ดีพอ และยังยัดการเคลียร์ปมความรักของตำรวจเข้ามาแบบดื้อๆ จนดูเหมือนหนังโฆษณาขายประกันชีวิตแบบนั้นเลย  

 

ส่วนตัวนักแสดงนางเอกหน้าตาการแสดงออกค่อนข้างเรียบๆ จนดูเฉยๆ ไปตามบทที่เป็นคนป่วยล้มเหลวทางจิตใจมาก ดูแล้วไม่ค่อยโดดเด่นอะไร แต่ตัวหัวหน้าแรงงานเถื่อนที่พูดไทยได้ดูเด่นกว่า แม้จะพูดไม่ชัดแต่ก็ดูเหมาะสมกับบทบาทคนที่เป็นตัวกลางให้แรงงานเถื่อนทั้งหมด และก็ยังมีความรักกับสาวไทยที่ตายไป ซึ่งเป็นเหมือนพระเอกของเรื่องที่มีความสำคัญไปเลย (แต่ก็ไม่ใช่ตัวเอกเป็นบทสมทบสำคัญมากกว่า)

 

โดยรวมหนังทำส่วนของการสืบสวนไล่ล่าออกมาได้ดี โดยพ่วงปมปัญหาความรักของตัวละครเข้าไปกับคดีที่เกิดขึ้น แต่ช่วงหลังจากเฉลยตัวฆาตกรเนื้อเรื่องพยายามประดิษฐ์จัดวางสิ่งต่างๆ มากไปจนทำให้หนังดูล้มเหลวในการเคลียร์ปมความรักในตอนท้าย แต่สิ่งที่น่าสนใจคือเป็นหนังที่บอกเล่ามุมมองแรงงานเถื่อนคนไทยในไต้หวันเรื่องแรกแบบชัดๆ โดยใช้ภาษาไทยเป็นหลักในการพูดคุยกับตัวละครไต้หวันที่พูดไทยได้ (แต่ไม่ชัด) ซึ่งทำให้หนังก็ยังดูน่าสนใจแนะนำให้ลองดูกันครับ


including other English reviews

 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!