playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Guardians of Justice ซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่ทุนต่ำแบบหนังคัลท์จนดูกากสุดๆ

สรุป

ซีรีส์แนวซูเปอร์ฮีโร่ที่ทุนต่ำสุดๆ แล้วพยายามทำในแนวคัลท์ แต่ผลลัพธ์ออกมาแย่เกินทน แม้จะอ้างความเป็นพาโรดี้ก็ไม่ได้ เพราะไม่มีอะไรคิดขึ้นใหม่เป็นของตัวเองเลย

Overall
2/10
2/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • คนแสดงผสมแอนิชั่นกับอื่นๆ
  • ทำสไตล์คัลท์แบบดาร์คๆ
  • สาวสปีดสวยน่ารัก

 

Cons

  • พยายามพาโรดี้ DC มาร์เวล แต่ดูแล้วเป็นการก็อปแบบชุ่ยๆ มากกว่า
  • เล่าแบบตัดฉากเร็วๆ ตลอดจนน่ารำคาญมาก
  • นักแสดงไม่เข้ากับตัวละครอย่างแรง
  • บทโครงเรื่องก็อป Watchmen มา
  • หักมุมแบบมั่วซั่ว
  • พยายามเล่นประเด็นเกย์แบบทื่อๆ

The Guardians of Justice ซีรีส์ Netflix แนวซูเปอร์ฮีโร่ 7 ตอนจบ ที่มาในแนวหนังคัลท์ด้วยการยำทั้งคนแสดงกับแอนิเมชั่นแหละรูปแบบอื่นๆ เต็มไปหมด

 The Guardians of Justice (2022) on IMDb

เรื่องย่อ

มาร์เวลลัสแมน ซูเปอร์ฮีโร่เก่งที่สุดในโลกผู้จบสงครามโลกครั้งที่ 3 ด้วยตัวคนเดียว เขากลับฆ่าตัวตายผ่านทีวีต่อหน้าคนทั้งโลกด้วยความหดหู่ท้อแท้ในชีวิต แต่เรื่องราวกลับไม่จบแค่นั้น เพราะกลายเป็นคดีฆาตกรรมที่มีผู้ต้องสงสัยคือกลุ่มฮีโร่ที่เขาก่อตั้งขึ้นมานั่นเอง

รีวิวThe Guardians of Justice

ซีรีส์แนวซูเปอร์ฮีโร่ที่ทุนต่ำสุดๆ แบบไม่เคยเห็นเรื่องไหนทุนต่ำขนาดนี้มาก่อน โดยการพยายามทำให้ออกมาเป็นแนวหนังคัลท์ ตั้งแต่การใช้คนแสดงสลับกับแอนิเมชั่น หุ่นฟิกเกอร์ ภาพนิ่ง และอะไรหลายๆ อย่างที่ช่วยลดคอสการสร้างลง เรื่องนี้หยิบจับมาเอาใช้หมด ซึ่งถ้ามองว่าเป็นแนวคัลท์จะทำไงก็ได้มันก็ใช่ แต่กับแนวซูเปอร์ฮีโร่ที่มันควรจะมีความคัลท์ในแบบใช้ทุนต่ำๆ อย่างหลายเรื่องๆ ที่ทำออกมาดีอย่างคิกแอสเป็นต้น จริงๆ มีแนวนี้ทุนต่ำเยอะแยะมากมายที่ทำออกมาได้สมกับงบการสร้างอยู่ แต่กับเรื่องนี้เป็นการใช้งบน้อยไปแบบผิดที่ผิดที่ทาง คือในส่วนคนแสดงก็ใช้โปรดักชั่นแบบง่อยๆ จนถึงขั้นชุดระดับละครเด็กในโรงเรียนเลยก็ว่าได้ แอนิเมชั่นก็ไม่ได้ดีอะไร ซ้ำร้ายยังหยิบเอาแนวอื่นๆ มาปนมั่วไปอีกเต็มไปหมดจนเกินบรรยายไม่ไหวจะเคลียร์ มันเลยทำให้ภาพที่ออกมาของเรื่องนี้ดูโลวเกรดสุดๆ จนเอาตรงๆ คนชอบแนวซูเปอร์ฮีโร่มากๆ ก็ยังอาจจะทนดูไม่ไหวเลยก็ได้

ถึงตัดเรื่องภาพลักษณ์หน้าตาของเรื่องที่แย่ออกไปแล้วหันมาดูเนื้อเรื่องที่อาจจะดี แต่กลายเป็นว่าตัวเนื้อเรื่องก็กลับแย่ตามไปด้วยอีก โอเคเปิดเรื่องมาอาจจะดูลึกลับมีอะไรแปลกใหม่ เริ่มจากกำเนิดของกลุ่มนี้มีหัวหน้ามาจากต่างดาวมาหยุดสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่เกิดจากการปลุกชีพฮิตเลอร์ขึ้นมาในร่างไซบอร์ก แล้วก็กลายมาเป็นจุดพลิกประวัติศาสตร์โลก แต่เรื่องราวต่อจากนี้กลับมักง่ายโดยการก็อปไอเดียแนวนี้หลายๆ เรื่องมายำรวมกันจนมั่วไปหมด ที่เห็นชัดๆ ก็คือ Watchmen แน่ๆ ซึ่งไม่ใช่แค่ก็อปโครงเรื่องจุดสำคัญ แต่ในรายละเอียดแต่ละตอนก็ยังไปไล่ก็อปเนื้อหาซูเปอร์ฮีโร่ดังตัวอื่นๆ ทั่วไปหมดทั้ง DC กับมาร์เวล หรือนอกค่ายอย่างจูปิเตอร์เลกาซี่ก็โดน แต่ที่หนักหน่อยจะเป็น DC นี่แหละที่โดนก็อปทั้งคาแรกเตอร์ แบ็คกราวน์ปูมหลัง ความสามารถต่างๆ ของตัวเอกขาประจำจากจัสติสลีก โอเคผู้สร้างอาจจะตั้งใจทำเป็นพาโรดี้ล้อเลียนก็มองว่าแบบนั้นได้ แต่มันไม่ได้เหมือนพาโรดี้จริงๆ มันเหมือนงานก็อปชุ่ยๆ เอาของเขามาดัดแปลงบิดนิดหน่อยเท่านั้น ไม่เหมือนกับอย่างซีรีส์ The Boy ของ amazon prime  ที่อิงมาก็จริงแต่มีความแตกต่างในรายละเอียดเป็นของตัวเองทั้งหมด ซึ่งระหว่างดูไปถ้าเป็นแฟนตัวละครดั้งเดิมมาก่อนคงหงุดหงิดหลายครั้งที่เรื่องนี้ก็อปเอาไปใช้แบบชุ่ยๆ มาก

ตัวนักแสดงก็คัดมาแบบเอิ่ม… เหมือนดาราเกรดบีมากๆ มาเล่น คือไม่มีความเข้ากันกับคาแรกเตอร์ฮีโร่ที่เป็นอยู่เลย อย่าง มาร์เวลลัสแมน ตัวท็อปสุดก็ใช้คนเอเชียมาเล่น หรือตัวละครที่คล้ายชาแซมก็เอาคนหัวโล้นมาเล่น คือจะทำให้มันตลกหรือเปล่าก็ไม่เข้าใจ แต่มันไม่ได้เลยกับการแคสตัวนักแสดงในเรื่องนี้ มีดีอยู่คนเดียวคือสาวสปีดที่เหมือนแฟลช ที่เล่นโดย Sharni Vinson อันนี้หน้าตากับหุ่นให้กับตัวละครนี้อยู่ เรื่องนี้ยังมี Denise Richards เล่นด้วย อาจจะเอามาเป็นจุดขาย แต่ไม่ใช่บทฮีโร่ ก็เลยน่าจะไม่มีคนจำได้

นอกจากนี้การตัดต่อเล่าเรื่องยังทำออกมาน่ารำคาญสุดๆ ด้วยการเล่าเรื่องแบบตัดภาพไปมาไวๆ เหมือนจะเร่งรีบไปไหนก็ไม่ทราบ แต่คือทุกช็อตในเรื่องนี้ออกมาแบบผ่านๆ ไปไวตลอดเหมือนเรากำลังกรอวิดีโอเร่งความเร็วดู คือมันไม่ใช่ไม่รู้เรื่อง แต่มันดูแบบไม่ต่อเนื่อง ขาดความสมูธ ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเพราะเป็นงานทุนต่ำเลยต้องพยายามเล่นฉากไวๆ แบบนี้

นอกจากนี้ตัวเรื่องพยายามจะหักมุมหลายครั้ง แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เรื่องดูดีน่าจดจำอะไรเลย เพราะโครงมันคือ Watchmen ดีๆ นี่แหละ แค่เปลี่ยนตัวละครหลักกับอะไรนิดหน่อย ซึ่งผู้สร้างพยายามจะหักมุมมากเรื่อยๆ ในช่วงหลังจนถึงขั้นหักเพื่อจะให้มีประเด็นความหลากหลายทางเพศไปโน่นเลย แล้วก็มาหักตอนท้ายเพื่อจะทำให้มีต่อซีซั่นต่อไปได้อีก (แต่ผู้เขียนฟันธงเลยว่าไม่น่าจะรอด)

 

สรุป The Guardians of Justice สนุกและดีไหม

ไม่สนุกและแย่มากๆ แนะนำข้ามผ่านไปเลยอย่าเสียเวลาแม้แต่น้อย

 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!