playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Totally Killer ย้อนเวลาหาฆาตกรแบบ Back to the Future + Screem ที่ทำได้ดีพอตัวเลย

Totally Killer

Summary

สรุปเป็นหนังแนวย้อนเวลาที่อิงสไตล์ Back to the Future + Screem ได้ค่อนข้างดีเลย เพียงแต่มันไม่ได้ลึกและไปให้สุดแบบที่ทั้งคู่ทำได้เท่านั้น แต่ถ้าใครชอบนักแสดงอย่าง Kiernan Shipka ก็ห้ามพลาดเลยครับ

Overall
6.5/10
6.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • นักแสดง Kiernan Shipka
  • แนว Back to the Future + Screem
  • ล้อเลียนหนังหลายเรื่อง
  • เสียดสีมุกในสมัยเก่าเทียบสมัยใหม่

 

 

Cons

  • หนังไม่ได้ไปสุดทางมาก
  • ไอเดียเครื่องย้อนเวลาดูง่ายเกินไปมาก
  • ช่วงเฉลยอธิบายแบบรวบรัดไวมาก

 

Totally Killer ย้อนเวลาหาฆาตกรนัง amazon prime แนววัยรุ่นฆาตกรรมที่มาแปลก โดยให้นางเอกย้อนเวลาไปตามหาฆาตกรในอดีต เพื่อช่วยชีวิตแม่ที่ถูกฆ่าในปัจจุบัน
Totally Killer (2023) on IMDb

 

รีวิว Totally Killer ย้อนเวลาหาฆาตกร (ไม่มีสปอยล์)

หนังที่ได้นักแสดงดัง Kiernan Shipka หรือนางเอกจากซีรีส์ Sabrina มาเป็นตัวเด่นชูโรงกับพล็อตไอเดียผสมผสานแนวไซไฟย้อนเวลาเข้ากับแนวฆาตกรต่อเนื่องใส่หน้ากาก ซึ่งไอเดียนี้ก็จัดว่าใช้ได้อยู่ มีปมที่อยากเล่าแบบหนังวัยรุ่นย้อนอดีตไปเจอพ่อแม่ยังไม่ได้รักกันอย่าง Back to the Future ด้วย (ย้อนไปปี 1987) ซึ่งตัวเรื่องก็พยายามผสมสูตรสำเร็จพวกนี้เข้ากัน โดยปรับให้นางเอกพยายามทำให้สองนี้รักกันในเวลาที่เหมาะสมคือตอนเรียนมหาวิทยาลัย เพราะพ่อแม่เคยเล่าไว้ว่าคบกันตอนนั้น แต่ทั้งคู่กลับเป็นหนุ่มสาวใจแตกบ้าเซ็กส์ซะนี่ ทำให้เธอต้องเหนื่อยกับการแยกทั้งคู่ออกจากกันตลอดเรื่อง ซึ่งก็เป็นมุกตลกฮานิดๆ แบบเดียวกับ Back to the Future เลย และก็มีเส้นทางเล่าเรื่องคลี่คลายบทสรุปสุดท้ายที่ต่างออกไปได้ดีพอตัว

อีกด้านคือการตามหาว่าใครคือคนร้ายที่ไล่ฆ่าเพื่อนในแก๊งสาววัยรุ่นของแม่ 3 คน ซึ่งตอนเริ่มเรื่องจะมีการเล่าตำนานคดีฆาตกรรมเด็กสาววัยรุ่น 3 คนด้วยรอยมีดแทง 16 แผล และก็ยังจับฆาตกรไม่ได้มาจนถึงปัจจุบัน ก่อนที่แม่ของเธอจะเป็นเหยื่อคนล่าสุดในปัจจุบัน ซึ่งเครื่องย้อนเวลานี่มาจากเพื่อนสนิทของเธอเป็นคนสร้างเป็นโครงงานวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน ซึ่งก็คือไอเดียของเล่นไว้กระโดดย้อนเวลากลับไปแค่นั้น ไม่ได้เป็นเนื้อหาหลักการไซไฟจริงจังอะไร ทำนองเดียวกับ Back to the Future ที่เป็นรถ และกฎของการย้อนเวลาในเรื่องนี้ก็ใช้แบบเดียวกัน คือทำอะไรไว้ในอดีต อนาคตก็จะเปลี่ยนแปลงไป ไม่ได้เป็นแนวแบบเส้นเวลาแตกแขนงเหมือนมาร์เวลใน Endgame (มีหยิบมุกนี้มาแซวด้วย) ทำให้ภารกิจของนางเอกคือการหยุดยั้งการตายของเหยื่อทั้ง 3 คนให้ได้ และในเวลาปัจจุบันก็มีการนำเสนอควบคู่ไปด้วยว่านางเอกเปลี่ยนแปลงอะไรไปผ่านเพื่อนสนิทนางเอก หนังจึงเป็นการเล่าสองเหตุการณ์อดีตกับปัจจุบันคู่กันไปเรื่อยๆ 

ฉากฆ่าทั้งหลายในเรื่องนี้ก็ใช้สูตรสำเร็จมาจากหนังดังแนวนี้อย่างการไล่ล่าในบ้านตอนแรกแบบ Screem หรือฉากกระท่อมร้างที่วัยรุ่นไปมั่วสุมกันแบบเจสัน มีการหลอกล่อชวนให้คิดว่าฆาตกรเป็นใครในเรื่องแบบ Screem รวมถึงแรงจูงใจของฆาตกร ซึ่งหนังดึงเอามุกพวกนี้มาใช้ได้ค่อนข้างดี แม้ตัวจริงของฆาตกรจะไม่ถึงกับเซอร์ไพรซ์มากเพราะมีจำกัดไม่กี่คนที่เป็นไปได้ 

หนังค่อนข้างดูสนุกและตลกจิกกัดแนวทางทั้งหมดที่หยิบมาใช้ โดยเฉพาะพวกมุกในอดีตที่มักบูลลี่เพื่อนในโรงเรียนก็จะโดนนางเอกที่เป็นเด็กสาวสมัยใหม่สอนว่าสิ่งนี้ผิด ซึ่งหนังแทรกประเด็นพวกนี้มาตลอดเรื่องได้ดี แต่หนังก็ไปไม่สุดจากการหยิบจับหลายประเด็นด้วยเช่นกัน 

สรุปเป็นหนังแนวย้อนเวลาที่อิงสไตล์ Back to the Future + Screem ได้ค่อนข้างดีเลย เพียงแต่มันไม่ได้ลึกและไปให้สุดแบบที่ทั้งคู่ทำได้เท่านั้น แต่ถ้าใครชอบนักแสดง Kiernan Shipka ก็ห้ามพลาดเลยครับ

including other English reviews

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!