playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

โซนี ปะทะ ดิสนีย์ ใครผิดใครถูกในศึกแย่งชิงสไปเดอร์แมน ?

นับว่าเป็นข่าวที่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว กับการแยกทางกันระหว่างมาร์เวลและโซนีในการทำภาพยนตร์ สไปเดอร์แมน 3 ที่จะปิดไตรภาคของสไปดี้คนใหม่ล่าสุดนี้ พร้อมกับการหมดสัญญาลงของทอม ฮอลแลนด์ 

สไปเดอร์แมน 3

ทอม ฮอลแลนด์เหลือสัญญาอีกเพียง 1 เรื่อง

 

หลังจากที่ Spider-Man : Far From Home ขึ้นแท่นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดอันดันหนึ่งของ Sony ได้ไม่นานและข่าวคราวที่ Sony เข้าซื้อ Insomniac Games ผู้ผลิตเกม Spider-Man สุดปังบน PS4 ทุกคนก็ต้องช็อคไปกับข่าวคราวนี้อย่างรุนแรง

Spider-man game sony

Spider-Man บน Playstation 4 ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

แล้วการแยกทางของ Marvel กับ Sony เกิดขึ้นได้อย่างไร ?

Deadline รายงานว่า เควิน ไฟกี ประธาน Marve Studios นั้นจะไม่ได้มานั่งแทนอำนวนการสร้างภาพยนตร์ของโซนีอย่าง Spider-Man อีกแล้ว เนื่องด้วยเพราะข้อตกลงกันระหว่าง Disney กับ Sony นั้นไม่ลงตัว ซึ่งข้อตกลงที่ว่านั้นก็คือการที่ Disney ต้องการให้ Sony แบ่งรายได้และการลงทุนของ Spider-Man 3 กัน 50/50 ซึ่งเป็นเหตุให้ Disney ดึง Feige ออกจากการทำงานร่วมกันกับ Sony ไปโฟกัสที่ Fantastic Four และ X-Men ที่เพิ่งได้มาจาก Fox แทน โดยทาง Sony มี Tom Rothman ที่หาทางแบ่งเค้กกันในแบบอื่น แต่ Disney กลับไม่พอใจและเป็นฝั่งถอยออกไป

Sony Disney Spiderman 3
สองค่ายยักษ์ใหญ่ดิสนีย์และโซนีในศึกชิงมนุษย์แมงมุม

ดีลเดิมและดีลใหม่ต่างกันอย่างไร

Marvel เคยได้ 5% จากยอดรายได้ภาพยนตร์ก่อนหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด

จากที่ Marvel เคยตกลงทำสัญญาขายลิขสิทธิ์การถ่ายทำภาพยนตร์ Spider-Man นั้นคือมาร์เวลจะได้ส่วนแบ่งจากรายได้หนังทั้งหมด 5% และส่วนแบ่งการขายของเล่นด้วย ซึ่งในตอนหลังก็มีการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่หลักๆแล้วคือ 5 เปอร์เซนต์ของรายได้หนังทั้งหมด  ซึ่งในตอนนั้น Spider-Man และหนังฮีโร่ยังทำรายได้ไม่มากถึงขนาดยุคนี้ ในยุคที่ Avengers : Endgame ผงาดขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก และภาพยนตร์ที่หลายคนกังขาอย่าง Captian Marvel ยังขึ้นถึงยอด 1 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐได้

 

ลง 50/50 แบ่งกัน 50/50 แฟร์ดีไหม ?

แต่ด้วยความที่ Spider-Man ได้รับอิทธิพลอย่างสูงจาก MCU ทำให้ Disney ที่เห็นรายได้ของ Far From Home ซึ่งมีเนื้อเรื่องหลักๆต่อเนื่องจาก Avengers : Endgame โดยตรง สามารถทำรายยได้สูงสุดของ Sony และเห็นสิ่งที่ Marvel Studios ได้สร้างให้แก่ Sony อาจจะคิดได้ว่านั่นคือ MCU นั่นคือสิ่งที่พวกเราทำลงไป แต่เรากลับได้มาแค่ 5% Disney จึงเสนอให้ Sony ว่า เรามาร่วมลงทุนกันคนละครึ่ง แล้วแบ่งรายได้กันคนละครึ่งแบบนี้สิแฟร์ดี เพราะเรื่องต่างๆเราผูกมาให้หมดแล้ว งานสร้างสรรค์ก็ของเราเกือบทั้งหมด นายไม่มีเรานายไปไม่ไหวหรอกนะ ดูโปสเตอร์นายสิ ดูดาราแต่ละคนที่เราหามาให้สิ ตัวละครบิ๊กๆที่เราจัดมาใส่ดูสิ นายต้องการเรานะ มาหารกันเถอะ

อนาคตของ สไปเดอร์แมน 3

แล้วอนาคตของสไปดี้จะเป็นอย่างไร เมื่อหัวเรือใหญ่โดนดึงตัวออกไปแล้ว ซึ่งการดึง Kevin Fiege ออกไปนั้นเป็นความสูญเสียอย่างมาก เพราะนอกจากเขาจะเป็นแฟนตัวยงของซุปเปอร์ฮีโรแล้วเขายังเป็นโปรดิวเซอร์ที่สามารถทำลายสถิติหนังทำเงินสูงสุดของโลก และหนังทำเงินสูงสุดของ Sony ได้ในปีเดียวกันก็คือ Avengers : Endgame (อเวนเจอร์ : เผด็จศึก) และ Spider-Man : Far From Home ที่ทะยานขึ้นแซง Skyfall ตระกูลเจมส์ บอนด์ขึ้นเป็นที่หนึ่งในบรรดาภาพยนตร์ของโซนี  ซึ่งมันจะเป็นผลพวงตามที่ Deadline ได้รายงานว่าตอนนี้ Sony เองมีโปรเจ็คต์ที่เดินเครื่องกันแล้ว

เควิน ไฟกี
เควิน ไฟกี หัวเรือใหญ่แห่งมาร์เวลถูกถอดออกไปจากโปรเจ็กต์ภาคต่อไป (สไปเดอร์แมน 3)

เควิน ไฟกีหัวเรือใหญ่แห่งมาร์เวล

Spider-Man 3 จะเป็นยังไง ?

เนื่องจากโซนีมี 2 โปรเจคที่เดินหน้าไปแล้ว หนึ่งในนั้นต้องมีสไปเดอร์แมน 3 แน่ๆ ซึ่งเนื้อเรื่องของสไปดี 3 นี้น่าจะเป็นผลพวงจาก Far From Home ที่ถูกเปิดเผยตัวจริงโดย Mysterio และ J Jonah Jameson ผ่านสื่อ Daily Bugle และอาจจะกลายเป็นที่ต้องการตัวจากทางการ เพราะจากการใส่ไฟของ JJ Jameson และหลักฐานปลอมที่ถูกสร้างขึ้นโดยแก๊ง Mysterio นั้นมันมีผลและเห็ดกันอย่างเต็มตาเอามากๆ ซึ่งการตามล่าตัวฮีโรทรงพลังแบบนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อาจจะดึง Kraven The Hunter มาเพื่อล่าแมงมุมตัวนี้ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดแก๊ง Sinister Six ขึ้นมาอีกก็ได้ รวมถึงจาก Homecoming ก็มีคนแค้น Spider-Man ของเราหนักๆอยู่แล้วอย่าง Scorpion

แต่ถ้า Peter Parker ทำตามกฏหมายเขาก็จะต้องอาศัยทนาย นั่นก็จะเป็นที่มาของตัวละครอื่นที่มีทักษะในการว่าความเช่น Daredevil หรือ Matt Murdock แต่ที่เป็นไปได้มากกว่านั้นอาจจะเป็น Jenifer Walters หรือที่ทุกคนรู้จักกันในนาม She-Hulk ทั้งนี้แล้วตัวละครทนายต่างๆลิขสิทธิ์นั้นอยู่กับ Marvel หากในอนาคตตกลงกันไม่ได้จริงความเป็นไปได้ของการคามล่า Spider-Man อาจมีมากกว่า และอาจจะทำให้ Venom ได้โผล่เข้ามา Cameo ด้วย! เพราะ Venom เวอร์ชัน Tom Hardy นั้นค่อนข้างเป็น Anti-Hero ที่เน้นความยุติธรรมที่กินเฉพาะคนไม่ดี นี่ยังไม่รวมว่า Venom ตัวนี้ไม่ได้มุ่งร้ายต่อสไปดี้อีกด้วยนะ

Amy Pascal กับชะตาที่มิอาจหลีกเลี่ยง

เอมี พาสคาลอดีตผู้กุมบังเหียนหนังสไปดี้มามากกว่าทศวรรษได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อถูกถามถึงสัญญาที่จะหมดลงหลังจาก Spider-Man/Tom Holland นั้นหมดสัญญาที่ได้เซ็นไว้ 

“ฉันคิดแล้วจะร้องไห้ ฉันได้แค่หวังว่าในอนาคตพวกเขาจะตกลงกันได้ ฉันรู้จักเควิน (ไฟกี) ตั้งแต่เขายังเป็นผู้ช่วยของ Avi (Avi Arad-อาวิ อารัด) ที่แสนเงียบที่คอยนั่งฟังแต่อย่างเดียวมาหลายปี แต่ยังฉลาดกว่าพวกเราจะรู้ได้ ฉันพูดเลยว่าการที่ได้ทำงานร่วมกับมาร์เวลนั้นเป็นหนึ่งในจุดสูงสุดของอาชีพของฉันเลย”

Pascal ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนที่ Far From Home จะเข้า ในช่วงเดียวกันกับที่ Into the Spider-Verse จะเข้าฉาย กระนั้นแล้วเธอก็ไม่สามารถพูดแทน Sony ได้  ต่อมาเธอได้ออกจาก Sony ในเดือนพฤษภาคม 2019 ก่อนที่ Far From Home จะเข้าได้ 2 เดือน ดังนั้นแล้วสุดท้ายเธอก็ตกที่นั่งเดียวกันกับเหล่าแฟนๆ ที่ทำได้เพียงแค่นั่งมองให้สองค่ายใหญ่ตกลงกันให้ได้

 

เอมี พาสคาล ผู้กุมบังเหียนหนังสไปดี้ และอนาคตต่อไปของ Spider-Man 3

เอมี พาสคาลอดีตหัวเรือใหญ่ของโซนี 

ดังนั้นแล้วสรุปใครผิด

ใช่หนูตัวใหญ่ที่กระหายในกำไรหรือเสือใหญ่นอนกินที่ไม่ยอมปล่อยปลาตัวใหญ่สุดในมือไป ในฝั่งของ Disney นั้น ด้วยการลงแรงและอิทธิพลที่หนังเดี่ยว Spider-Man ได้อิทธิพลมาจากจักรวาลหลักของ MCU แบบเต็มๆ จะยอมนั่งจิบ 5% จากรายได้ขนาดพันล้านต่อไป หรือฝั่ง Sony ที่มี 2 แฟรนชายส์หลักๆ ทำเงินคือ Spider-Man และ James Bond (ที่กำลังอยู่ในช่วงปลายทางกับ Daniel Craig) แล้วจะให้ปล่อยไอ้แมงมุมไปครึ่งนึงไปแบบนี้ ? แต่ละฝั่งก็จำเป็นต้องปกป้องผลประโยชน์ของตน จะตัดสินแบบดำขาวได้หรือไม่ แต่ก็ได้มีการเริ่มบอยคอตโซนีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มาโหวตกันดีกว่า คุณคิดว่าใครเป็นคนผิดในเรื่องนี้!

อนาคตในภาคต่อไปของ Spider-Man 3 จะเป็นอย่างไร โปรดติดตาม…

ติดตามผลงานของผู้เขียนได้ที่นี่

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!