playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว A Love so Beautiful (Netflix) นับแต่นั้น…ฉันรักเธอ ซีรีส์รักใสๆ เกาหลีรีเมคจากซีรีส์จีนเรื่องดัง (จบ EP24)

สรุป

ซีรีส์แนวรักวัยรุ่นเบาสมอง รีเมคจากซีรีส์จีนออนไลน์ออนไลน์ที่เคยได้รางวัลยอดเยี่ยมประจำปีมาแล้ว เป็นแนวรักสามเส้าตามสูตร ดูได้เพลินๆ ฟินๆ นำเสนอแบบ Feel Good

Overall
6.5/10
6.5/10
Sending
User Review
5 (4 votes)

Pros

  • นักแสดงสาว โซจูยอน เล่นดี ชวนดึงดูดมาก
  • เหมาะกับคนชอบแนวฟินๆ ดูง่าย ไม่มีดราม่าหนัก
  • เซตติ้งกลุ่มวัยรุ่นได้ดี ดูแล้วเชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทกันจริงๆ
  • เดินเรื่องแนว Feel Good ได้ดี

Cons

  • พลอตเรื่องแนวการ์ตูนตาหวานไม่มีอะไรมากมาย
  • การเดินเรื่องเป็นแนวสูตรสำเร็จรักสามเส้า ไม่มีอะไรพลิกแพลงเท่าไหร่
  • การแสดงของพระเอกอย่างคิมโยฮานโดนกลบไปหน่อย
  • มิติตัวละครแบนมากๆ ด้านพัฒนาการตัวละครแทบไม่มีอะไรน่าติดตาม

A Love so Beautiful Netflix รีวิว นับแต่นั้น…ฉันรักเธอ ซีรีส์เกาหลี ที่รีเมคจากซีรีส์จีนเรื่องดังในชื่อเดียวกันที่เคยคว้ารางวัลสำหรับซีรีส์ฉายออนไลน์แห่งปีของจีนมาแล้ว

การรีเมคฉบับเกาหลีครั้งนี้ ได้นักแสดงสาว โซจูยอน และ นักแสดงนุ่ม คิมโยฮาน มารับบทพระเอกนางเอกของเรื่อง มีทั้งหมด 24 ตอนจบ รับชมได้แล้วใน Netflix (อัพเดทจบแล้ว 24 ตอน)
 A Love So Beautiful (2020) on IMDb

ตัวอย่าง A Love so Beautiful Trailer

A Love so Beautiful นับแต่นั้น ฉันรักเธอ เรื่องย่อ

 ซีรีส์เรื่องนี้ รีเมคมาจากต้นฉบับของจีน ที่สร้างจากนิยายดัง ซึ่งฉบับเกาหลีที่ดัดแปลงมานี้ก็ยังคงเก็บรายละเอียดหลักของฉบับจีนเอาไว้ แล้วดัดแปลงตามฉบับเกาหลี โดยฉายทางช่อง Web Drama ซึ่งฉายซีรีส์เกาหลีขนาดสั้น

เรื่องราวเกี่ยวกับสาวน้อยวัยใส ชินซลอี (แสดงโดย โซจูยอน) ที่มีนิสัยร่าเริงปนซุ่มซ่าม แต่เป็นคนมองโลกในแง่ดี เข้ากับคนเก่ง เธอหลงรัก ชาฮอน (แสดงโดย คิมโยฮาน) เด็กหนุ่มวัยเดียวกันที่รู้จักกันมานาน ซึ่งเธอแอบรักเขาถึง 17 ปี และก็ได้สารภาพรักอย่างเปิดเผยกับเขามาแล้ว แต่เขาก็ทำทีว่าไม่ได้สนใจมากนัก จนกระทั่งวันหนึ่งมีนักเรียนหนุ่มที่ย้ายเข้ามาใหม่คือ อูแดซอง (แสดงโดย ยอฮเวฮยอน) นักว่ายน้ำหนุ่ม รูปหล่อ นิสัยดี ที่เข้ามาหลงชอบชินซลอีอีกคนหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นเรื่องราวความรักสามเส้าแบบวุ่นๆใสๆเกิดขึ้น

นอกจากความรักของคนทั้งสามแล้ว ยังมีเรื่องความรักของกลุ่มเพื่อนคนอื่น รวมถึงมิตรภาพในกลุ่มเพื่อนฝูง และยังสะท้อนชีวิตในวัยรุ่นและวัยเรียนของสังคมเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นค่านิยมการแข่งขันเพื่อแย่งชิงความเป็นอันดับหนึ่งของวัยรุ่นเกาหลีที่ถูกบีบจากผู้ใหญ่ การกลั่นแกล้งในโรงเรียน ไปจนถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ในครอบครัวของคนเกาหลีด้วย เพียงแต่เรื่องนี้มีการนำเสนอในแบบ Feel Good ว่าทุกอย่างมันก็มีด้านที่สวยงามเหมือนกัน และบางครั้งในสังคมที่มีความเคร่งเครียดสุดโต่ง ก็มีมุมเบาๆ ดีๆ แง่บวก ในมิตรภาพของกลุ่มเพื่อนด้วย

A Love so Beautiful นับแต่นั้น ฉันรักเธอ รีวิว

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมเกาหลีจึงรีเมคซีรีส์เรื่องนี้จากของจีน เพราะปกติแล้ว เกาหลีใต้ค่อนข้างจะแอนตี้สื่อจากประเทศญี่ปุ่นและจีน ดังนั้นถ้าไม่ใช่ผลงานที่ยอดเยี่ยมหรือโด่งดังและได้รับความสนใจจริงๆ ก็จะไม่ค่อยซื้อมารีเมคเท่าไหร่ ซึ่งก่อนหน้านี้ซีรีส์เกาหลีก็เคยมีการรีเมคจากจีนและญี่ปุ่นมาบ้าง แต่ก็เพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น (ตัวอย่างเช่น F4 ที่ต้นฉบับมาจากมังงะญี่ปุ่น แล้วต่อมาถูกรีเมคไปเป็นซีรีส์ในหลายประเทศ)

เอาเข้าจริงแล้วพลอตเรื่องนี้ก็มีกลิ่นอายของความเป็นโชโจมังงะพอสมควร เรียกว่าครบองค์ประกอบเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวเดินเรื่องหลักอย่างนางเอกที่เป็นสาวน้อยตัวเล็ก สดใสร่าเริงแต่ออกโก๊ะๆ มาหลงรักพระเอกที่เป็นแนวเงียบขรึม รูปหล่อ เก่งเท่ แต่แล้วก็มีพระรองที่เป็นหนุ่มแสนดี อบอุ่น แทรกเข้ามา เพียงแต่ความสนุกของพลอตเรื่องสไตล์นี้อยู่ที่ว่า จะสามารถสร้างคาแรคเตอร์ตัวละครและโยงความสัมพันธ์ของตัวละครต่างๆในเรื่องให้น่าติดตามได้หรือไม่

ภาพจากต้นฉบับจีน สามารถหาดูได้ใน Netflix ในชื่อเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่ง ที่แม้ว่าพล็อตเรื่องจะมาแนวการ์ตูนผู้หญิงตาหวาน แต่ก็เน้นนำเสนอเรื่องในแบบ Feel Good ถึงจะมีกลิ่นอายดราม่าแทรกเป็นระยะ แต่ก็ไม่ได้บีบคั้นรุนแรงอะไรมาก แล้วยังมีการคลี่คลายเรื่องในแบบที่ชวนให้อมยิ้มเล็กๆ รวมถึงการเซตติ้งกลุ่มเพื่อนนางเอกในห้องเรียน ที่ค่อนข้างจะเป็นคนดีๆ ทำให้คนดูอาจจะรู้สึกเชื่อมโยงกับตนเองในสมัยเรียนหรือเป็นวัยรุ่นอยู่บ้าง

ส่วนการเดินเรื่องก็มาแนวย่อยง่าย เน้นชีวิตประจำวันของวัยเรียนวัยรุ่นที่พบได้ทั่วไป ตอนเรียนก็ซุบซิบคุยกับเพื่อนเรื่องความรัก มีแอบชอบหนุ่มหรือสาวที่เป็นเพื่อน มีเขียนกลอนรัก เลิกเรียนจับกลุ่มไปร้องคาราโอเกะ มีงานออกแคมป์ ฯลฯ เรียกว่าดูแล้วก็เพลินๆ แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก

แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้มีแต่การเดินเรื่องเบาๆ เสมอไป เพราะเรื่องยังมีการตั้งคำถามว่าจำเป็นด้วยหรือที่คนเราจะต้องแข่งขันชนะเป็นที่หนึ่งเสมอไป แบบที่พ่อแม่ผู้ปกครองและผู้ใหญ่เกาหลีปลูกฝังลงไปในเด็กรุ่นใหม่หรือไม่ แล้วการเป็นที่สองมันแย่หรือ ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในปมที่บีบและกดดันพระรองของเราอย่าง อูแดซอง อยู่เหมือนกัน

โดยในช่วง 5-6 ตอนสุดท้าย จะเป็นเรื่องราวชีวิตรักของตัวละครหลังจากเรียนจบ เริ่มค้นหาตนเอง การหางานทำ และอื่นๆ แต่การนำเสนอก็ยังออกมาในแบบเบาๆ ไม่หนักไป

ส่วนจุดด้อยของเรื่องนี้ก็มีอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน โดยเฉพาะความที่ตัวเนื้อเรื่องหลักของมันแทบจะไม่มีเนื้อหาหลักอะไรมากมายเลย นอกจากรักวัยว้าวุ่นของนางเอก ที่พลอตหลักคือการไล่ตามจีบพระเอก แล้วก็มีพระรองมาแทรก กับมีคู่ของเพื่อนนางเอกที่พอให้ลุ้นหน่อยว่าจะเข้าวินไหม การเดินเรื่องทั่วไปก็ค่อนข้างตามสูตรแนวรักวัยรุ่น ซึ่งถ้าใครอยากดูแนวที่มีเนื้อเรื่องเข้มข้นหรือตัวละครที่มีมิติสูงๆ อาจจะข้ามไปก่อนก็ได้ ซึ่งในส่วนนี้เองต้นฉบับของจีนทำไว้ดีกว่าพอสมควร อาจเพราะความยาวของแต่ละตอนที่ของจีนยาวกว่าด้วย

อีกจุดด้อยก็คือ แม้ว่าการแสดงของ คิมโยฮาน ในบทพระเอกจะไม่ได้แย่อะไรนัก แต่ต้องยอมรับว่าการแสดงของนางเอกสาว โซจูยอน มีออร่าที่เด่นมากทุกครั้งเวลาออกมา จนทำให้ตัวพระเอกอาจจะดูดรอปลงเวลาเข้าคู่กัน แล้วไม่รู้ทำไม ฝ่ายคอสตูมถึงทำให้ปากของคิมโยฮานดูเป็นสีแดงออกชมพูซะขนาดนั้น จนบางฉากมันดูตลกๆ

จุดด้อยอย่างหนึ่งที่น่าเสียดายคือ มิติตัวละคร ค่อนข้างต่ำ นางเอกของเรื่องไม่ได้มีมิติหรือปมน่าสนใจของตัวละครให้น่าติดตามค้นหาอะไรมากมายนัก ในขณะที่ปมตัวละครของพระเอกและพระรองก็ออกแนววัยรุ่นที่เจอปัญหาชีวิตแล้วเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ที่นำเสนออกมาแบบแบนๆ ตรงนี้ถือว่าน่าเสียดายเอามากๆ ถึงแม้ว่าตอนสุดท้ายของซีรีส์จะมีการนำเสนอมุมมองฝั่งของพระเอก ว่าเขามาเริ่มรักนางเอกของเราตั้งแต่เมื่อไหร่กันแน่ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้ช่วยตัวเรื่องให้ดูมีมิติมากขึ้นเท่าไรนักเลย

ในภาพรวมแล้ว เรื่องนี้เป็นซีรีส์แนวรักวัยรุ่นเบาสมอง แม้จะมีปมดราม่าของตัวละครอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีปมดราม่าให้ขยี้รุนแรงอะไรนัก เป็นแนวดูเพลินๆชวนอมยิ้มในความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มเพื่อนและรักสามเส้าของพระนางตามสูตรยอดฮิต ราวกับกำลังดูการ์ตูนโชโจตาหวาน ซึ่งต้องยอมรับว่าทีมนักแสดงในเรื่องเอาอยู่มาก ทำให้เรื่องนี้ชวนดูได้เพลินดีครับ

ล่าสุดเรื่องนี้ฉายใน Netflix แล้วทั้งหมด 24 ตอนจบ แต่ละตอนก็สั้นๆ แค่ 22 นาทีกว่า แนะนำว่าใครชอบแนวรักวัยรุ่น ฟินๆ มีดราม่าเรื่องรักสามเส้าและชีวิตวัยรุ่นกับช่วงชีวิตหลังเรียนจบที่ต้องค้นหาตัวตน ในแบบดราม่าหน่อยๆไม่หนักเกินไป ก็ดูกันได้เลย แล้วจะได้อัพเดทต่อไปครับ

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference Website

en.wikipedia.org/wiki/A_Love_So_Beautiful_(2020_TV_series)

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!