playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Day Of The Lord วันปราบผี หนังผีสุดเข้มที่ทำให้ผู้ชมต้องฮาเฉย?

The Day Of The Lord วันปราบผี

สรุป

เป็นหนังผีที่พยายามจะเล่นใหญ่ผ่านมุมกล้อง แต่พอยิ่งดูไปยิ่งพบว่าไม่มีอะไรน่าสนใจและน่ากลัวเลยแม้แต่น้อย มีแต่บทพูดตลกที่จะมอบให้ผู้ชมเท่านั้น ถ้าจะแสวงหาความน่ากลัวให้ผ่านไปได้เลย แต่ถ้าคิดว่าดูเป็นหนังตลกถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (2 votes)

Pros

  • มุมกล้องพยายามเล่นใหญ่เหมือนมีผีตลอดเวลา
  • บรรยากาศบ้านดูลึกลับดี
  • ช่วงแรกปูเรื่องดีมาก

Cons

  • บทพูดที่ตลกกลบความน่ากลัวไปทั้งหมด
  • ซีจีลอย
  • เนื้อเรื่องแทบไม่มีอะไรเลย เมื่อเฉลยปมทั้งหมด

สุขสันต์วันฮาโลวีนประจำปี 2020!! ในวันนี้เองเน็ตฟลิกซ์ได้ปล่อยซีรีส์และหนังผี เพื่อต้อนรับเทศกาลวันคืนปล่อยผีเพื่อให้ทุกคนได้ดูหนังผีร่วมกับครอบครัวกันอย่างสุขสันต์ โดยในวันนี้เราก็จะมาแนะนำหนังผีสัญชาติสเปนที่มีชื่อว่า The Day Of The Lord วันปราบผี ตัวหนังจะเป็นอย่างไรมารับชมตัวอย่างกันเลย

ตัวอย่าง The Day Of The Lord วันปราบผี

เรื่องราวของอดีตบาทหลวงคริสเตียนที่มีชื่อว่า เมเดนเนส ที่สามารถกำจัดปีศาจภายในร่างของเด็กคนหนึ่งได้ แต่มันแลกมาด้วยความตายของเด็กคนนั้น มันจึงทำให้เขาต้องชดใช้ในสิ่งที่เขาทำและกลายเป็นตราบาปของเขาตลอดชีวิต จนเมื่อเวลาผ่านไป เพื่อนเก่าของเมเดนเนส มาขอร้องเขาให้กำจัดปีศาจที่สิงสถิตอยู่ในลูกสาวเขา แต่ความเจ็บปวดจากการที่ทำให้เด็กตายยังคงฝังอยู่ในหัวเขา นี้จึงเป็นอีกหนึ่งบททดสอบว่าเขาจะสามารถแสดงให้เห็นว่าเขามีความศรัทธาต่อพระเจ้ามากแค่ไหน?

นี้เป็นหนังแนว เอ็กซอร์ซิสต์ ในความเชื่อของศาสนาคริสต์ว่าด้วยปีศาจเข้ามาแฝงกายในร่างมนุษย์เพื่อทำเรื่องที่ชั่วช้าเกิดขึ้น การดำเนินเรื่องในช่วงแรกของเรื่องนี้ถือว่าทำได้ดีมากที่มีปริศนาค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาทีละนิด ด้วยการเล่าความลึกลับของบาทหลวงที่เราไม่รู้ว่าเขาเป็นผู้ที่มีญาณจริง ๆ หรือเพียงแค่ความเชื่อผิด ๆ เท่านั้น ตัวเรื่องพยายามเล่าเหมือนว่า เมเดนเนส อาจจะเพียงแค่หลอนไปเองและจำภาพติดตาจากการขับไล่ผีครั้งก่อน ยิ่งการสลับเล่าเรื่องผ่านลูกสาวที่เข้ามาอาศัยอยู่ในบาทหลวงด้วย ทำให้บาทหลวงดูน่าสงสัยสุด ๆ ทำให้การเล่าเรื่องช่วงแรกมีความลึกลับมาก ตัวละครแต่ละคนเป็นใครมีความเป็นมาอย่างไร? แต่มันน่าผิดหวังมาก เมื่อสิ่งที่ทำในตอนแรกกลับพังกลางเรื่องจนถึงท้ายเรื่องจนกู่ไม่กลับ การที่ปูเนื้อหาหนัก ๆ ไว้ช่วงต้นเรื่อง ถูกเฉลยที่มาทั้งหมดภายในไม่กี่นาที ซ้ำร้ายยังไม่มีผลต่อเนื้อเรื่องอะไรอีก การเล่าเรื่องที่เหมือนจะเจ๋ง แต่กลับทำให้หนังแย่ลง ตัวละครที่เหมือนจะเป็นตัวละครหลัก ก็กลายเป็นตัวประกอบคั่นเวลาไปเพื่อให้เต็มชั่วโมงเท่านั้น

ซ้ำร้ายไปกว่านี้คือบทพูดเป็นอะไรที่ทำให้หนังสยองขวัญเรื่องนี้กลายเป็นหนังตลกได้ การพูดของตัวละครที่แซวกันระหว่างผีเข้า การใช้เสียงประกอบพร่ำเพื่อแถมยังไม่เข้ากับบรรยากาศภายในเรื่อง และซีจีลอย มันทำให้หนังเรื่องนี้เปลี่ยนโทนจากหนังผีกลายเป็นหนังตลกไปจริง ๆ นี้ยังไม่รวมปีศาจภายในเรื่องที่ทำให้ต้องผู้ชมต้องอึ้งอีกนะ ตลอดชีวิตมาไม่เคยดูหนังผีจริงจังที่มันตลกแบบนี้มาก่อนเลย ถ้าให้เทียบคงเหมือนเรื่อง The nun ที่หนังไม่มีความน่ากลัวอะไรเลย แถมยังตลกรั่วอีกด้วย และการแสดงของตัวละครเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ไม่รู้ว่าผู้กำกับสั่งหรือ นักแสดงเล่นไม่ดีกันแน่ การแสดงของตัวเอกอย่าง เมเดนเนส การแสดงสีหน้าท่าทางไปคนละทางกับบทพูดเลย ใจบอกไม่อยากทำ แต่ยิ้ม สักพักก็ออกมาเศร้าข้างนอก ทำให้คนดูปรับอารมณ์ไม่ทัน แต่ลูกสาวในเรื่องสวยมาก น่ารัก ส่วนนี้จึงให้อภัยได้

แต่ต้องยอมรับจริงว่าปีศาจภายในเรื่องอาจจะเปลี่ยนมุมมองใหม่ให้กับหนังผีแนวนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งปีศาจภายในเรื่องไม่ได้ต้องการให้คนเจ็บทางกายเพียงอย่างเดียว แต่ยังดึงกิเลสและตัณหามาเย้ายวนมนุษย์ด้วย ไม่ใช่จะฆ่าเพียงอย่างเดียว แต่ดึงมนุษย์ให้มาอยู่ฝ่ายตนลุ่มหลงในกิเลสเพื่อให้เกิดปีศาจตนใหม่ขึ้นมา และการเล่นสูงแบบนี้แหละที่ทำให้หนังเรื่องนี้พัง เพราะฉากที่ควรจะทำให้น่ากลัว หรือให้ผู้ชมได้เข้าใจว่าปีศาจอาจจะไม่ต้องการฆ่าเสมอไป กลายเป็นหนังตลกที่ทำให้ขำตลอดเวลาได้ ใครจะไปคิดว่าหนังที่ทำโทนซีเรียสขนาดนี้มาจะฮามาก ๆ

โดยรวมแล้วเรื่องนี้เป็นหนังที่ไม่แนะนำให้ดูเท่าไหร่ถ้าจะหาความน่ากลัวจากเรื่องนี้ แต่ถ้าดูเอาฮาแนะนำให้ดูเลยเพราะมันเหมือนปูเนื้อเรื่องเข้ม ๆ มาเพื่อฉากฮาตอนท้ายนี้แหละ ตอนนี้ยังไม่เข้าใจเลยว่าตกลงมาดูหนังอะไรกันแน่?

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่

 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!