playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Wandering Earth ปฏิบัติการฝ่าสุริยะ หนังไซไฟ ความภูมิใจของชาวเอเชีย

สรุป

หนังคุณภาพ พล็อตอลังการ เทียบชั้น Hollywood ถ้าไม่ดูถือว่าพลาดสำหรับคอหนังไซไฟ โปรดักชั่นระดับฮอลลีวูด พล็อตอลังการ และนักแสดงคุณภาพ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

Overall
8.5/10
8.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • งาน CG อลังการ ถ่ายทำดี
  • พล็อตอลังการและน่าสนใจ
  • ไม่เทความสำคัญไปที่ตัวละครใดตัวหนึ่งมากเกินไป

Cons

  • เนื้อเรื่องตรงกลางช่วงนึงแอบหน้าเบื่อไปนิด
  • CG บางจุดไม่ค่อยเนียน แต่ในบางจุดกลับดูเนียน

รีวิว The Wandering Earth หรือชื่อไทยว่า ปฏิบัติการฝ่าสุริยะ หนังไซไฟทุนหนาจากจีน ที่จะมาเปลี่ยนมุมมองวงการภาพยนตร์จากแดนมังกรไปตลอดกาล

ป็นหนังที่ผมเฝ้ารอดูหลังจากได้เห็นเทรลเลอร์แรกและรู้ว่าเป็นหนังที่มาจากจีน แถมเป็นหนังที่ทำรายได้ถล่มทะลาย มีการพูดถึงในสื่อต่างประเทศหลายๆสื่อ หลังจากนั้น Netflix ได้เข้าซื้อสิทธิในการเผยแพร่แต่เพียงผู้เดียว

เมื่อดวงอาทิตย์กำลังขยายขนาดและกลืนกินระบบสุริยะของเรา มนุษย์จำเป็นต้องรีบเร่งหาระบบใหม่แทนระบบสุริยะโดยการติดเครื่องยนต์ให้กับโลกและผลักดันให้โลกเราหนีออกจากระบบสุริยะไปยังระบบ Alpha Centuari ก่อนที่จะสายเกินไป โดยที่จำเป็นจะต้องใช้แรงส่งจากแรงดึงดูดของดาวพฤหัสอีกที แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ทำให้ทีมกอบกู้โลกต้องทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยให้โลกรอดพ้นจากการพุ่งชนดาวพฤหัส


The Wandering Earth ความภูมิใจของชาวเอเชีย

ความเคยชินที่ถูกปลูกฝังมากับหนังไซไฟที่ตัวละครเป็นชาวตะวันตก ผมทอง พูดภาษาอังกฤษ แต่วันนี้ The Wandering Earth เข้ามาลบภาพเหล่านั้นออกจากผมไปหมดสิ้น และนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันที่ดุเดือดของวงการภาพยนตร์โลกระหว่างตะวันตกและตะวันออกก็เป็นได้ครับ

[bs-quote quote=”มันแปลกตาที่เห็นหนังไซไฟแบบนี้เต็มไปด้วยคนเอเชีย” style=”default” align=”left” author_name=”NiCK” author_job=”Reviewer”][/bs-quote]

ทุนสร้างของ The Wandering Earth อยู่ที่ 1,600 ล้านบาท แต่ทำรายได้ถึง 22,300 ล้านบาท เรียกได้ว่าคุ้มค่าลงทุนอย่างมาก และผลงานที่ออกมาก็ถือว่าไม่ธรรมดานะครับ แม้ว่ามันอาจจะยังสู้หนังไซไฟหลายๆเรื่องจาก Hollywood ไม่ได้ แต่มันคือการพัฒนาแบบก้าวกระโดด และเห็นได้ว่าจีนเริ่มพยายามแหกกฏเกณฑ์การทำหนังของตัวเองออกมาแล้ว แถมกล้าที่จะทำหนังนอกเหนือจากที่ถนัดและสุ่มเสี่ยงจะไม่ดังได้

เรายังคงมองว่าถ้าเป็นหนังไซไฟจะต้องเป็นหนังที่มาจาก Hollywood เท่านั้นถึงจะดี แต่เรื่องนี้จะเปลี่ยนมุมมองของเราไปโดยสิ้นเชิงเลยก็ว่าได้ครับ

คอมพิวเตอร์กราฟฟิคและเทคนิคการถ่ายทำถือว่าดีมาก แม้ว่าบางจุดอาจจะยังดูไม่เนียนนัก ต้องบอกก่อนว่าแนวทางในการถ่ายทำ ทั้งมุมกล้อง เทคนิค ในหลายส่วนจะมีความแตกต่างจากสไตล์ของตะวันตกอยู่นะครับ CG ในบางฉากจะให้ความรู้สึกเหมือนเกมมากกว่าหนัง โดยรวมทำออกมาเทียบกับ Hollywood ได้สบายเลยครับ เป็นการพัฒนาจาก Animal World ไปอีกขั้นที่น่าสนใจ


พล็อตหนังต้องบอกว่าแปลกกว่าหนังไซไฟอื่นๆทีโลกต้องเจอกับภัยคุกคามจากดาวดวงอื่น เนื่องจากว่าถ้าเป็นเรื่องอื่นที่เคยดูมา มนุษย์มักจะพยายามหนีโดยการสร้างยานและหาโลกใหม่ เพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ แต่ในเรื่องนี้ มนุษย์เลือกที่จะย้ายโลกทั้งใบไปอยู่ในระบบอื่นแทนระบบสุริยะ

มนุษย์จึงทำการสร้างเครื่องยนต์จำนวนมหาศาลบนผิวโลกเพื่อเป็นตัวขับเคลื่อนโลก ให้นึกภาพว่า โลกนี่แหละคือยานอวกาศที่จะใช้ในการหนีไปยังสถานที่ใหม่ และด้วยเหตุนี้มนุษย์จำเป็นต้องย้ายลงไปอยู่ปราการใต้ดิน เวอร์วังดีมั้ยล่ะครับ แต่หนังมีทฤษฎีรองรับไว้พอสมควรนะครับ ไม่ใช่ว่าคิดพล็อตขึ้นมาแบบสุดโต่งไปเลย ถึงแม้ว่าในความเป็นจริงมันอาจจะทำไม่ได้เลยก็ตาม แต่หนังมีการให้เหตุผลในหลายส่วนที่คุณอาจจะสงสัยไว้แล้ว

สิ่งหนึ่งที่ผมชอบเลยก็คือแนวคิดของหนังที่มนุษยชาติโดยรวมคือผู้ที่จะช่วยกอบกู้โลกในครั้งนี้ ถ้าใครดูจะรู้ว่าหนังไม่ได้อวยจีนว่าเป็นมหาอำนาจ เก่งไปหมด แต่หนังนำเสนอการช่วยกันของทุกฝ่ายทุกประเทศ แต่ที่แน่ๆ อเมริกามีบทบาทน้อยมากในเรื่องนี้

บทนักแสดงโดยรวมผมถือว่าดีเลย แม้ว่าจะมีจุดให้หงุดหงิดอยู่บ้าง แต่หนังก็ไม่ได้โยนดราม่าครอบครัวให้เราต้องเครียดมากเกินไป ให้เราได้ดื่มด่ำกับหายนะที่มนุษย์กำลังจะเจอได้เต็มที่

ปฏิบัติการฝ่าสุริยะ กลายเป็นหนังจีนที่ผมชอบและอยากแนะนำให้คนอื่นได้ดู ด้วยโปรดักชั่นที่ขึ้นแท่นไปแข่งกับ Hollywood ได้ รวมถึงการนำเสนอสิ่งใหม่ๆและไม่มีการแฝงแนวคิดอะไรเข้ามา ทั้งศาสนา ความเชื่อ เป็นหนังที่ทุกคนดูได้และสามารถสนุกไปกับมัน


วงการภาพยนตร์โลกกำลังเปลี่ยนแปลง

The Wandering Earth ทำให้เราได้เห็นถึงศักยภาพของวงการภาพยนตร์จีน ที่จะกลายมาเป็นแหล่งผลิตหนังคุณภาพให้เราได้ดูกันจากนี้เป็นต้นไป ถึงแม้ว่าเราอาจจะยังไม่ได้เห็นหนังเทียบชั้น The Avenger หรือ Avatar ในเร็ววันนี้ แต่นี่คือจุดเริ่มต้นที่ดี เราจะได้เห็นการแข็งขันที่ดุเดือดขึ้น นั่นหมายถึงคอนเทนต์หรือการนำเสนอที่จะดีขึ้นเมื่อไม่มีการผูกขาดอีกแล้ว

และด้วยยุคนี้ที่เรามี Netflix ทำให้คนดูทั่วโลกสามารถเข้าถึงหนังหรือภาพยนตร์ชุดคุณภาพจากหลายประเทศทั่วทุกมุมโลกได้ง่ายขึ้นเยอะ มันคือยุคทองสำหรับคอหนังและซีรีส์ เราเข้าถึงของคุณภาพในราคาที่ไม่แพงนัก และผู้ผลิตสามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้ง่ายกว่าโรงภาพยนตร์ทั่วไป เพราะพวกเขามีโรงหนังขนาดย่อมอยู่ในกระเป๋ายังไงล่ะ

 
  • ทางทีมงานหวังว่า รีวิว The Wandering Earth ปฏิบัติการฝ่าสุริยะ จะมีประโยชน์กับผู้อ่าน ใครดูแล้วมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ที่คอมเมนต์ด้านล่างหรือแฟนเพจนะครับ
  • ความเห็นจากเรา: STREAM IT 

รีวิวหนังและซีรีส์อื่นคลิก

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!