รีวิว Fool Me Once ซีรีส์ ฮาร์ลาน โคเบน ที่แย่ช่วงกลาง แต่พลิกกลับมาดีตอนหลังได้สมชื่ออยู่

Fool Me Once อย่าหลอกกัน ซีรีส์ Original Netflix แนวคนหายอีกเรื่องของ ฮาร์ลาน โคเบน เรื่องราวของ อดีตทหารสาวที่เห็นสามีที่ถูกฆาตกรรมกลับมาในกล้องพี่เลี้ยงเด็ก เธอก็ค้นพบแผนการสมรู้ร่วมคิดที่ร้ายแรงซึ่งทอดยาวไปสู่อดีต

 

รีวิว Fool Me Once อย่าหลอกกัน (ไม่สปอยล์)

ซีรีส์ชุดแนวคนหายของฮาร์ลาน โคเบน ที่ Netflix ซื้อลิขสิทธิ์มาจำนวนมากแล้วกระจายให้ทีมงานหลายประเทศนำไปดัดแปลงสร้าง แต่เรื่องนี้ฮาร์ลาน โคเบนเป็นครีเอเตอร์เอง ซึ่งทุกเรื่องก็จะมีโครงสร้างคล้ายกันหมดคือการตามหาคนหาย ก่อนพาไปเจอเรื่องลึกลับในอดีตที่ใหญ่โตเกินคาด เรื่องนี้ก็ไม่ต่างกันและทำโดยทีมงานอังกฤษที่ทำ The Stranger  ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ดีอันดับต้นๆ ของนิยายชุดนี้ที่เอามาทำ และก็มีความยาว 8 ตอนจบปกติ ต่างกับเรื่องหลังๆ ที่มัก 6 ตอนทำให้ผลงานออกมาแย่ แต่ว่าตัวเนื้อหาในซีรีส์เองกลับไม่ได้ทำรายละเอียดให้เข้มข้นน่าติดตามทั้ง 8 ตอน จริงๆ นี่คือซีรีส์ที่สามารถดูแค่ตอน 1 แล้วข้ามมาดูตอน 6-8 เลยก็ยังเข้าใจและไม่ได้ตกหล่นอะไรไปมากด้วย เพราะเนื้อเรื่องในตอนที่ 2-5 แทบทั้งหมดเป็นแค่กลอุบายพาให้ผู้ชมหลุดออกนอกประเด็นจริงๆ ของเรื่องมากเกินไป เป็นช่วงหลอกให้ดูเท่านั้นไม่ได้มีความสำคัญจริงๆ กับเรื่อง หรือแม้แต่ความระทึกกดดันก็ไม่มีให้ครับ

ตอน 1 เนื้อเรื่องเปิดมาเป็นคดีคนหายที่กลับมาติดภาพในวิดีโอ และแม้ผู้ชมจะเห็นภาพนี้ร่วมกับตัวเอก แต่เธอคืออดีตทหารหญิงที่มีประสบการณ์เลวร้ายจากสงครามที่พลาดฆ่าผู้บริสุทธิ์ตายไป ทำให้เนื้อเรื่องค่อนข้างคลุมเครือว่านี่เป็นอาการทางจิตหรือไม่ ซึ่งผู้ชมที่ติดตามสไตล์ของฮาร์ลาน โคเบน ก็คงปักธงมั่นใจว่าไม่ใช่ และเนื้อเรื่องก็มีตัวละครอื่นที่เอา SD Card นั้นไปอีกทำให้ดูซ้ำไม่ได้ แต่เรื่องนี้มีความต่างตรงที่อาการทางจิตของเธอมีจริง และเธอเองก็ยืนยันว่าสามีตายไปจริงๆ แต่ที่ต้องการหาคือคำตอบว่าคลิปนี้มีจริงหรือไม่ เป็นปริศนาหนึ่งที่ทำให้ข้อสงสัยนี้มีผลอยู่ตลอดทั้งเรื่องว่ามันเกี่ยวข้องยังไง โดยมีตำรวจนักสืบที่เข้ามาไขคดีโดยสงสัยว่าการตายของสามีเธอจะเป็นการฆาตกรรม มากกว่าจะเป็นการปล้นชิงทรัพย์ตามที่เธอให้การไว้ และก่อนนี้พี่สาวของเธอเองก็ตายจากการถูกโจรบุกปล้นบ้านและยังจับคนร้ายไม่ได้เช่นกัน ซึ่งทำให้ทุกอย่างดูสอดคล้องพุ่งเป้าว่าเธอมีส่วนกับเหตุการณ์ทั้งหมดนี้

ซีรีส์เล่าเปิดเรื่องด้วยประเด็นความลึกลับของตัวเอกที่ทำออกมาดีเลย แล้วยังมีตัวละครตำรวจที่อยู่ๆ ก็เกิดอุบัติเหตุปริศนาขับรถชนรั้วโดยไม่รู้ตัว ซึ่งปริศนานี้ก็ถูกนำมาให้เรื่องดูลึกลับซับซ้อนเข้าไปอีกว่าอาการทางสมองของเขาเป็นอะไร หรือเป็นแค่พล็อตดราม่าเสริมเรื่องแค่นั้น? ซึ่งเนื้อเรื่องในตอน 2-5 คือการพยายามหาคำตอบของตัวเอกอดีตทหารหญิงกับนักสืบที่ดำเนินไปคู่ขนานกัน และต่างก็มีปัญหาส่วนตัวทางจิตใจด้วยเช่นกัน แต่เนื้อเรื่องมันกลับเป็นการเล่าแบบไปเรื่อยๆ เป็นการสืบสวนแบบเดินทางไปสอบถามผู้คนเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ไม่มีประเด็นใหญ่ให้รู้สึกน่าติดตาม ไม่มีเหตุการณ์ตื่นเต้นมาคั่นเรื่องในแต่ละตอน การเล่าเรื่องดูชักจูงไปคนละทิศละทาง ออกแนวเคว้งคว้างไม่มีเป้าหมายชัดเจน เหมือนหลอกให้ผู้ชมดูปมปริศนาอะไรที่ไม่เข้าใจ ขาดความต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน และผู้ชมก็คงไม่อยากจะคิดตามไปด้วย จนทำให้การดำเนินเรื่องค่อนข้างน่าเบื่อมากถึงมากที่สุด  

 

แต่พอตอน 6 เนื้อเรื่องถูกตบกลับมาเข้าทางที่ควรจะเป็น มีการเฉลยเหตุการณ์สำคัญบางส่วน ทำให้เนื้อเรื่องได้กลับมาสู่แกนหลักของเรื่องราวจริงๆ ซึ่งแทบจะเป็นหนังคนละม้วนกับช่วงก่อนหน้านี้ โดยค่อยๆ ไต่ยกระดับการดำเนินเรื่องที่ดีขึ้นมาเรื่อยๆ มีฉากแอ็กชั่น มีเหตุการณ์ใหญ่โตที่เกี่ยวข้องกับตัวละครในตระกูลของสามีนางเอกมาตั้งแต่อดีต มีการเฉลยเหตุการณ์จริงทางทหารของนางเอก ความลับของโรคหมดสติของตำรวจ ซึ่งฮาร์ลาน โคเบน ก็ยังเก่งที่ผูกมัดเรื่องราวที่ดูเป็นคนละทิศละทางนี้เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างแนบเนียน ก่อนจบลงด้วยฉากจบหักมุมที่ส่งผลสะเทือนใหญ่โตมาก และก็เคลียร์ปมทุกอย่างได้แปลกกว่าเรื่องอื่นๆ มีกระทั่งฉากในโลกต่อไปอีก 18 ปีข้างหน้า เพื่อเคลียร์ปมบางตัวละครให้จบสวยงามแบบแฮปปี้เอนดิ้งเลยด้วยครับ 

ในส่วนตัวละครที่ทำได้ดีเลยคือ ตัวนางเอก Maya Stern (เล่นโดย Michelle Keegan) เป็นตัวละครที่สวยมีเสน่ห์ในแบบทหารหญิงที่ดูจริงจัง มีมุมมืดความเป็นทหารที่ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาติดตัวอยู่เสมอ ในเรื่องจะได้เห็นตัวละครหญิงแกร่งที่พร้อมฆ่าคนได้ตลอดเวลา ซึ่งช่วยทำให้สมมุติฐานของเรื่องว่าเธออาจจะเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมในเรื่องได้จริงๆ  ส่วนตัวเอกตำรวจนักสืบ (เล่นโดย Adeel Akhtar) ดูค่อนข้างอ่อนแอกับความแก่ชรา โรคร้ายปริศนา และการแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นในสภาพแบบนี้ทำให้จิตใจซ้ำร้ายขึ้นไปอีก ตัวเรื่องจึงให้มีตำรวจคู่หูที่อายุน้อยกว่ามากคอยมาช่วยซัพพอร์ท และเป็นคาแรกเตอร์แบบเด็กหนุ่มสดใสมีมุมกวนๆ แต่อบอุ่น ทำให้เนื้อเรื่องฝั่งนี้ดูเป็นแนวดราม่าการก้าวข้ามผ่านพ้นปัญหาชีวิตช่วงวัยกลางคนที่ดีเลย

 

สรุปเป็นซีรีส์จากนิยายฮาร์ลาน โคเบน ที่เริ่มสตาร์ทตอนแรกดีมากกับปมปริศนามากมายต่างๆ ก่อนที่จะเดินเรื่องแย่ลงจนถึงขั้นน่าเบื่อมากขึ้นเรื่อยๆ ในตอน 2-5 ที่การเล่าเรื่องดูเคว้งคว้างไม่มีเป้าหมายชัดเจน ก่อนตอน 6-8 กลับมาแกนหลักของเรื่องได้อย่างน่าติดตามและก็ผูกปมเรื่องราวทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกันเป็นอย่างดี เป็นซีรีส์ที่จบแบบหักมุมเล่นใหญ่โตมีความแปลกในตอนจบที่แตกต่างจากเรื่องอื่นในชุดเดียวกัน โดยเป็นการจบแบบแฮปปี้ที่ลงตัวมาก แนะนำว่าให้ทดลองดู แม้จะมีช่วงน่าบื่อแบบที่บอกไป แต่ตอนหลังก็ยังเป็นซีรีส์จากฮาร์ลาน โคเบน แท้ๆ ที่ทำได้ดีเลยครับ

 

---

including other English reviews