playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิวซีรีส์ Inhuman Resources พนักงานดีแตก พล็อตเรื่องแปลกแต่จริง

สรุป

พนักงานดีแตก กับพล็อตสุดแปลกแต่จริงชวนอึ้ง บทที่หักมุมพลิกไปพลิกมา แม้บางช่วงจะดูยืดยาด กับหักมุมเกินไปหลายตลบแบบซะงั้น และดำเนินเรื่องแบบไม่เป็นกลุ่มก้อน แต่โดยรวมคือดูสนุกในความคาดเดาไม่ได้ จนอยากจะรู้ว่า Season ต่อไปจะเอายังไงกันแน่

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • พล็อตเรื่องประมาณ Braking Bad แต่ไม่ปรุงยา มาเป็น HR แทน
  • บทหักมุมพลิกไปมาหลายตลบ Plot Twist บิดเกลียว
  • ฉาก Thriller ตื่นเต้นและลุ้นตาม
  • “ได้รับแรงบัลดาลใจจากเรื่องจริง”

Cons

  • ดำเนินเรื่องแบบไม่โฟกัสไปทางใดทางหนึ่ง
  • เอื่อยช่วงแรก
  • หักมุมเกินไปหลายตลบก็ใช่ว่าจะดี

Inhuman Resources พนักงานดีแตก Original Netflix Series สัญชาติฝรั่งเศส เรื่องราวของคนดีแตก พนักงานวัยใกล้เกษียณที่ถูกเลิกจ้าง หนี้สินท่วมตัว ปัญหาครอบครัวมากมายจนเขามีโอกาสหนึ่งที่เข้ามาทำให้เขามีงานทำ นั่นก็คือ กลับไปเป็นพนักงาน HR ในเหตุการณ์จับตัวประกันของบริษัทยักษ์ใหญ่!?

 Inhuman Resources (2020) on IMDb

ตัวอย่าง Inhuman Resources พนักงานดีแตก (Netflix)

รีวิว Inhuman Resources พนักงานดีแตก

เป็นซีรีส์ที่พล็อตเรื่องแปลก แต่น่าสนใจ แถมการดำเนินเรื่องไปสู่จุดจบของซีซั่นแรกที่มีเพียง 6 ตอนนั้นแปลกยิ่งกว่า ทำให้น่าติดตามว่าจากจุดแรก ไปสู่จุดจบมันเป็นอย่างไร และที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ เรื่องราวที่ดูเหมือนจะเวอร์ ไม่เป็นจริงพวกนี้ กลับกลายเป็นว่าได้รับแรงบัลดาลใจมากจากเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2005 ด้วย!

Inhuman Resources พนักงานดีแตกพนักงานดีแตก ว่าด้วยเรื่องราวของ อาลอง ดูล็องบร (แสดงโดย เอริค ก็องโตนา ใครเป็นแฟนฟุตบอลทีมผีแดงน่าจะรู้จักกันดี กับตำนานที่ทำให้ Manchester United ขึ้นสู่จุดสูงสุด) อดีตพนักงาน HR ที่ถูกเลิกจ้างเพราะอายุมาก เขาตกงานมากว่า 6 ปี และอายุก็ปาเข้าไป 57 แล้วทำให้การหางานทำเป็นเรื่องที่ยากมาก จึงต้องจำใจเข้าไปทำงานในโรงงานเล็กๆ และถูกกดขี่ข่มเหงทุกวันจนบัลดาลโทสะ ซัดหน้าหัวหน้างานเข้าใจจนถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหลายตังค์ แถมที่บ้านต้องผ่อนค่าอพาร์ตเมนต์ เงินเดือนก็น้อย เงินเก็บไม่มี หนี้สินก็ท่วมหัว ภรรยาที่อยู่ข้างกายก็เอือมระอา กลายเป็นชีวิตบัดซบของชายวัย 57 ที่ดิ่งลงเหวแบบสุดๆ

Inhuman Resources พนักงานดีแตก

ในขณะเดียวกัน บริษัทอิเล็คโทรนิคชั้นนำของฝรั่งเศส กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงระบบภายในบริษัท เลิกจ้างคนมากมาย ให้ AI เข้ามาทำงานแทนที่ แต่การจะเลิกจ้างผู้บริหารระดับสูงๆ ไปดื้อๆ นั้นมันทำไม่ได้ง่ายๆ หัวหน้าบริษัท อเล็กซานเดอ ดอร์ฟแมน จึงได้วางแผนจัดฉากจับตัวประกัน โดยจะจับพวกผู้บริหารในบริษัทมาทดสอบในสถานการณ์ที่ตึงเครียด ดูว่าพวกเขาจะทนกับสถานการณ์ได้หรือไม่ และจะยอมขายข้อมูลบริษัท เพื่อรักษาชีวิตตัวเองไหม เรียกง่ายๆ คือทดสอบความจงรักภักดีของลูกน้องด้วยการจำลองด้วยการจับเป็นตัวประกัน โดยใช้ทหารรับจ้างฝีมือเยี่ยมสามนาย และพนักงาน HR ที่มีความสามารถเพื่อที่จะเค้นเอาข้อมูล และประเมินบุคลากรได้

หวยก็ดันไปตกที่อาลอง เมื่อเขากำลังมองหางานอยู่พอดี และดันสมัครสอบผ่าน แต่ยังไม่ได้งานชัวร์ๆ ด้วยความอยากได้งานจนตัวสั่นของอาลอง แม้จะต้องทำผิดหลายอย่าง ทั้งทรยศภรรยา ขโมยเงินลูกสาว ทำจมูกลูกเขยหักเขาก็ไม่สน เพราะเป้าหมายคือการกลับไปมีงานทำให้ได้ ทำให้เขาต้องงัดความรู้ทุกอย่างที่สั่งสมมาใช้เพื่อให้เขาได้งานที่บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้ แต่แล้วเหตุการณ์มันกลับไม่เป็นไปตามคาด และเกิดเรื่องราววุ่นวายหลายตลบตามมาจนมันไปสู่จุดจบของเรื่องที่พลิกไป พลิกมาแบบเดาทางไม่ถูกเลยทีเดียว

ในช่วงแรกๆ ซีรีส์จะเริ่มอธิบายชีวิตของ อาลอง ว่าเป็นยังไงบ้าง ผ่านตัวเขาเองในพาร์ทอนาคตที่โกนหัว แล้วก็แฟลชแบคกลับไปดำเนินเรื่องในอดีตที่เล่าถึงชีวิตวัยใกล้เกษียณห่วยๆ ปัญหารุมเร้า ซึ่งจะคล้ายๆ กับเรื่อง Braking Bad ที่พล็อต และโทนเรื่องจะคล้ายๆ กัน จากวัยใกล้เกษียณ ทำยังไงถึงจะมีเงินเยอะๆ ได้ จะเรียกว่าเป็น BB เวอร์ชั่น HR แทนที่จะปรุงยาบ้าก็ได้ แต่ก็ไม่ได้ทำดีเท่าและเล่าเรื่องต่างกันมากพอตัวเลย

สองตอนแรกจะดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ แต่น่าติดตามว่า ชีวิตของชายคนนี้มันจะไปทางไหน เพราะอีกด้าน บริษัทเจ้าปัญหาในเรื่องก็กำลังวางแผนลงมือจับคนในบริษัทตัวเองเป็นตัวประกันเพื่อพิสูจน์ความภักดี ในสามัญสำนึกของคนปกติคงคิดว่านี่เป็นเรื่องที่บ้ามากและไม่มีใครทำ เหมือนเรื่องที่แต่งขึ้นและแฟนตาซี แรกๆ ทำให้เกือบจะไม่อิน แต่พอหาข้อมูลจริงๆ แล้วน่าตกใจยิ่งกว่าเมื่อซีรีส์จั่วหัวว่า “ได้รับแรงบัลดาลใจจากเรื่องจริง” จนต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมา

เรื่องจริงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2005 เมื่อกรรมการผู้จัดการของสถานีโทรทัศน์ฝรั่งเศส Phillipe Santini อยากจะทดสอบพนักงานในบริษัทว่าพวกเขาจะรับแรงกดดันและความเครียดได้มากแค่ไหน โดยให้พนักงานมาประชุมสัมนาและส่งชายชุดดำพร้อมอาวุธครบมือ 9 คน เข้ามาจับตัวประกันในห้องประชุมทุกคน คลุมหัวและมัดมือเอาไว้ สร้างความหวาดกลัวให้กับคนในที่นั้นอย่างมาก

การจับตัวประกัน “เล่นๆ” นั้น กินเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที แต่ตัวของผู้จัดการเองมองว่ามันเป็นเรื่องตลก แค่อยากจะทดสอบพนักงานเล่นๆ หลังจากเหตุการณ์นั้นพนักงานทุกคนอกสั่นขวัญแขวน และขวัญเสียจนเป็นโรค PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder หรือโรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง)

แต่น่าแปลกที่ กว่าพนักงานจะลุกขึ้นมาฟ้องตัวการที่คิดทำบ้าๆ นี้ก็ปาเข้าไปปี 2009 ทำให้สื่อ ไม่ได้จับตาคดีใหญ่นี้อีกต่อไป และเรื่องก็เงียบจนนิยายของ Pierre Lemaitre ที่เป็นต้นแบบของซีรีส์เรื่องนี้ ซึ่งได้แรงบัลดาลใจมาจากเหตุการณ์จริงอีกที วางแผงไปเมื่อปี 2010

กลับมาที่ตัวซีรีส์กันต่อ ทีแรกดูเหมือนพล็อจะแปลก เวอร์ แต่กลายเป็นเรื่องจริงน่าตกใจ ทำให้ในตอนที่ 3 ของซีรีส์กลายเป็นฉากทริลเลอร์ที่คาดเดาไม่ได้ มันลุ้นและกดดัน เป็น Plot Twist ที่บิดไปบิดมา และมันจะไม่บิดแค่ตอนนี้ตอนเดียว มันจะทำให้เราเดาไม่ได้ไปจนจบซีซั่นเลยล่ะ ทีแรกเรื่องราวของซีรีส์จะเป็นเรื่องของคนมืดแปดด้าน ทำทุกอย่างเพื่อเงิน และครอบครัว จนนำไปสู่การจับตัวประกันในบริษัทที่วุ่นวาย และหักมุมแบบทวีคูณไปเรื่อยๆ ซึ่งมันทำได้ทั้งดี และแย่ ในเวลาเดียวกันซะอย่างนั้น

สิ่งที่ดีในการหักมุมคือ มันทำให้คนดูว้าวได้ตลอดว่า เฮ้ย เล่นงี้จริงๆ เหรอ วางแผนที่ดูเหมือนไม่วางแผน แต่กลับกันมันหักมุมแล้วหักมุมอีก จนเรื่องมันไม่โฟกัสไปทางใดทางหนึ่ง ไม่มีองค์ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเท่าที่ควร เลยทำให้เราไม่รู้ว่าเรื่องมันจะโฟกัสไปทางใดกันแน่ ซึ่งมันจะมีทั้งการเสียดสีระบบ สังคมผู้สูงวัย สวัสดิการประชาชนในฝรั่งเศสนั่นนู่นที่ ที่ลากยาวไปได้หลายอย่างมาก ทั้งๆ ที่แรกเริ่มคือชายแก่ตกงานหัวร้อนคนหนึ่ง แทนที่จะดีแต่มันดันทำให้บางอย่างดูดรอปลงไป และเรื่องราวมันไม่สามารถเกาะกลุ่มเอาไว้ได้แน่นพอจนทำให้เราอินได้ กราฟความสนุกมันจะขึ้นๆ ลงๆ เหวี่ยงหนัก ต้องทำใจก่อนดูหน่อยนึง

แต่โดยรวมแล้ว มันก็ทำให้เราสนุกไปกับตัวเอกของเราได้มาก หลายช่วงดูยืดยาด บางช่วงดูแล้วก็งงว่า ทำไมมันกลายเป็นเรื่องแบบนี้ไปได้ เรียกได้ว่า แปลกตั้งแต่พล็อต การดำเนินเรื่อง บทที่หักมุมพลิกไปพลิกมา ตัวเอกที่นิสัยเอาแน่เอานอนไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาเก่งจริงไหม หรือดวงดีสุดๆ และจบแบบปลายเปิดแบบมีภาคต่อแน่ๆ ถ้าหากใครชอบเรื่องราวแปลกแต่จริง พนักงานดีแตก คือซีรีส์ไม่ธรรมดาที่คุณควรหามาชม

รับชม Inhuman Resources พนักงานดีแตก ได้ทาง Netflix แล้ววันนี้

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!