playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Artemis Fowl (Disney+) หนังสร้างจากนิยายชื่อดังที่พังยับเยินอีกเรื่อง (ไม่สปอยล์)

สรุป

หนังแฟนตาซีผจญภัยวิทยาศาสตร์สร้างจากหนังสือชื่อดังของดิสนีย์ที่นอกจากคอนเซปต์เรื่องที่น่าสนใจ และเทคโนโลยีอาวุธที่ทันสมัยกับนักแสดงที่คุณภาพ ที่เหลือไม่มีอะไรดีเลย ไม่มีการผจญภัยหรือปริศนา ไม่มีความตื่นเต้น บทประหลาด การแสดงที่โอเวอร์แอ็คติ้งที่ทำให้ตัวละครน่ารำคาญ ซีจีลอยจนเข้าขั้นห่วย และดนตรีประกอบที่พยายามโหมความอลังการ แต่ระดับของหนังมันไม่ได้พาไปถึงจุดนั้นเลยทำให้ไม่รู้อินไปกับเรื่องราวในเรื่อง กลายเป็นหนังที่ดูผ่านตาได้อย่างยากเย็นเหลือเกิน

Overall
4/10
4/10
Sending
User Review
2 (2 votes)

Pros

  • คอนเซปต์ของเรื่องที่น่าสนใจ
  • นักแสดงพยายามเล่นและแบกเรื่องสุดแล้ว
  • มีเสียงพากย์ไทยที่พากย์ได้อารมณ์ดี
  • เทคโนโลยีในเรื่องน่าสนใจดี

Cons

  • บทของเรื่องเข้าขั้นประหลาด ไม่สนับสนุนกับเรื่องราวเลย
  • ดนตรีประกอบอลังการแต่ไม่เสริมเรื่อง ซีจีงานสร้างห่วยและลอยมาก
  • การแสดงที่ไม่เป็นธรรมชาติสักคน เข้าขั้นน่ารำคาญ
  • ไม่มีฉากที่น่าจดจำ ช่วยท้ายเข้าขั้นเละเทะ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
  • มีแต่ฉากกับตัวละครที่ไม่รู้ใส่มาทำไม ใส่มาก็ไม่ขยี้
  • คนดูหนังงง คนอ่านหนังสือโกรธแน่นอน

Artemis Fowl (ผจญภัยสายลับใต้พิภพ) ภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์แฟนตาซีผจญภัย ดัดแปลงจาก อาร์ทิมิส ฟาวล์ นิยายชุดในชื่อเดียวกันในปี 2001 โดยนักเขียนชาวไอริช ออย โคลเฟอร์ ที่ฉายไปแล้วยกเว้นประเทศไทยตั้งแต่ปีก่อน และโดนคำวิจารณ์ในแง่ลบอย่างยับเยินโดยเฉพาะกับคนที่อ่านหนังสือมาแล้วถึงการปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องบางส่วน และเป็นภาพยนตร์ที่ถูกโยกย้ายจากโรงภาพยนตร์มาลงในดิสนีย์พลัสอีกด้วย

 Artemis Fowl (2020) on IMDb

ตัวอย่าง Artemis Fowl Disney+

รีวิว Artemis Fowl

เรื่องราวของอาร์ทิมิส ฟาวล์นั้นบอกเล่าถึงมหาสงครามระหว่างมนุษย์ แฟร์รี่ และพิกซี่ผ่านตัวละครของอาร์ทิมิส ฟาวล์ที่ 2 เด็กหนุ่มผู้ฉลาดเกินวัยที่ครอบครัวนั้นเป็นจ้าวแห่งอาชญากรรมที่ชั่วร้าย และดูเหมือนว่าการหายตัวไปของพ่อเขาบีบบังคับให้อาร์ทิมิส ฟาวล์โอบรับมรดกของครอบครัวด้วยการลักพาตัวกัปตันฮอลลี่ ชอท แฟร์รี่สาวอายุเกือบร้อยปีที่บังเอิญมาอยู่ในพื้นที่ของคฤหาสน์ของเขา ก่อนจะพบความลับครั้งยิ่งใหญ่ที่สามารถทำลายโลกทั้งใบได้ ทำให้เขาต้องกลายเป็นจอมวายร้ายเพื่อต่อกรกับเหล่าศัตรูที่หวังเข้ามาทำลายชีวิตเขาและคนรอบตัว  โดยหนังสือชุดนี้ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกว่าเป็น ดายฮาร์ด ผสม แฮร์รี่พอตเตอร์ จนมีค่ายหนังมากมายสนใจที่จะดัดแปลงนิยายชุดนี้ให้เป็นภาพยนตร์แต่ก็ต้องพบกับปัญหามากมายจนในที่สุดดิสนีย์ก็รับไม้ต่อปลุกชีพภาพยนตร์โดยได้ผู้กำกับมือฉมังอย่าง เคนเนธ บรานาห์ ที่ฝากผลงานมาแล้วในทุกด้าน ทั้งหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่าง ธอร์: เทพเจ้าสายฟ้า, หนังแอ็คชั่นอย่าง แจ็ค ไรอัน: สายลับไร้เงา หนังเจ้าหญิงดิสนีย์ทำเงินสูงอย่าง ซินเดอเรลล่า หนังสืบสวนที่ดีจนมีภาคต่ออย่าง ฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส มาถ่ายทอดเรื่องราว โดยรวมนำนักแสดงใหม่และเก่ามาปะทะกันอย่าง เฟอร์เดีย ชอว์, ลาร่า แมคดอนเนลล์, จอช แกด, คอลิน ฟาเรล และ จูดี้ เดนช์ ดาราดังฝีมือจัดจ้านแห่งฮอลลีวู้ดที่หลายคนคุ้นหน้าจากหนังคุณภาพมากมาย เรียกได้ว่าทีมงานสร้างก็คุณภาพสุด ๆ แล้ว ไม่มีทางเลยที่หนังเรื่องนี้จะออกมาแย่เลย จนกระทั่งผมได้เปิดดู

ความดีงามนั้นพังทลายลงเมื่อมาเจอกับการเล่าเรื่องที่โคตรสูตรสำเร็จหนังผจญภัยแฟนตาซี พยายามที่จะยัดคำคม ปริศนาแบบเท่ ดูมีอะไรจนดูไม่เป็นธรรมชาติ ด้วยการเล่าเรื่องแบบรวบรัดก่อนจะเข้าสู่เหตุการณ์ใหญ่ที่แทบสัมผัสไม่ได้ถึงการผจญภัยอะไรเลย แถมบางอย่างก็มาแบบดื้อ ๆ ไม่มีคำอธิบายอะไร แถมพอจะอธิบายรายละเอียดก็งงอีก เหมือนหนังไม่เข้าใจว่าหนังต้องการจะสื่ออะไร การปูเรื่องที่เหมือนใส่เข้ามาเพื่อบอกว่าตัวละครเอกอย่างอาร์ทิมิส ฟาวล์เป็นคนที่ฉลาดมาก ๆ แต่ดันใส่มาด้วยการอธิบายว่าเขาเล่นหมากรุกได้ด้วยไม่กี่ก้าว หรือสามารถออกแบบงานสถาปัตยกรรม อ่านหนังสือหรือฟังบทกวีของพ่อ แต่พอเข้าตาจนเจอปัญหาใหญ่ ไอ้เด็กตัวเอกคนนี้ดันกลายเป็นเด็กเบียวตื่นตูมที่พยายามจะต่อกรกับสงครามด้วยวิธีแบบเด็ก ๆ และไม่เห็นความฉลาด มิหนำซ้ำการร้องเรียกหาพ่อตัวเองที่หายตัวเกิดความจำเป็น ยิ่งตอกย้ำความไร้ราศีหรือเสน่ห์ของความเป็นตัวเอกหลักของเรื่อง จนโดนตัวละครอื่นแย่งซีนไปเลย

คอนเซปต์เนื้อเรื่องก็ดูดีใช้ได้เลยนะ การตามล่าสิ่งมหัศจรรย์เพื่อช่วยเหลือพ่อของตัวเองจนต้องเปิดศึกกับแฟร์รี่ มีปมของตัวละครแต่ละคนว่าเป็นมายังไง ขัดแย้งยังไง แต่ก็นั่นแหละมีแค่นั้นจริง ๆ แถมบางตัวละครก็ไม่รู้ใส่เข้ามาทำไม ไม่มีประโยชน์กับหนังแล้วยังทำให้หนังน่าเบื่อเข้าไปอีก คาร์แร็คเตอร์ก็เสียของ เอานักแสดงดังมาทำอะไรก็ไม่รู้ มีความสำคัญก็จริงแถมบทก็น้อย เอานักแสดงระดับฝีมือดีมาเล่นในหนังเรื่องนี้ทำไม ถ้ามาเล่นแค่นี้ ยิ่งฉากตอนท้ายคือความวิบัติของวงการภาพยนตร์ด้วยงานซีจีที่โคตรเผา และการต่อสู้ที่ระดับบ้านระเบิดแต่ก็ชวนให้งงอย่างไม่มีเหตุผล ความดราม่าตอนตัวละครเจอสภาวะคับขันก็มีแค่ชั่วขณะแล้วก็กลับมาเหมือนเดิม เหมือนดิสนีย์ไม่กล้าทำให้มันไปไกลได้กว่านี้ แถมมุมกล้องยังเสียสายตามาก ๆ ไม่มีความโดดเด่นหรือตื่นตาอะไรเลย คือถ้าจะดูแบบเอาเพลิน ๆ ในดิสนีย์พลัสมันก็ได้ แต่ถ้าเอาไปฉายโรงไทย ผมว่าคงมีสวดยับแน่ ๆ หนังไม่ตอบโจทย์อะไรเลยสักอย่าง ทั้งในด้านการผจญภัย คาร์แร็คเตอร์ที่ขาดมิติไม่น่าสนใจทั้งฝั่งตัวดีฝั่งตัวร้าย แถมคนไม่เคยอ่านหนังสือคงงง คนอ่านหนังสือก็อาจจะคลั่งได้เลยก็ได้ เสียของสุด ๆ

ประเด็นความเชื่อมั่นของตัวเองที่เน้นย้ำตลอดทั้งตอนปกติ ตอนดราม่า ตอนแอ็คชั่น ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าใส่เข้ามาเพื่ออะไร ไม่มีอิมแพ็คยังชวนน่ารำคาญอีกตะหาก แถมสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ในเรื่องก็ถูกออกแบบได้ดูตลกและแปลกประหลาด ไม่เข้ากับความล้ำสมัยทางเทคโนโลยีที่เผ่าพันธ์เหล่านี้มี ยิ่งความฉลาดยิ่งแล้วใหญ่ เชื่อว่าเห็นชื่อเรื่องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษคนคงคาดหวังการผจญภัย ไขปริศนา ระทึกสุดตื่นเต้น แต่หนังเดินเรื่องสลับไปมาระหว่างแฟร์รี่กับตัวละครเอก กับตัวร้ายที่โผล่มาแบบไม่ถึงสิบนาทีแถมดูลิเก๊ลิเกมาก ตัวร้ายใส่ผ้าคลุม ลึกลับจัง เหมือนไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วพูดจาแต่คำเดิม “ฉันจะทำลายทุกสิ่งที่แกรัก” ให้ดูน่ากลัว ดูน่าเกรงขามแต่ดูตลกมากกว่า แบบมันตลกไม่ได้ตั้งใจ แถมตัวละครก็วนเวียนอยู่แต่ในบ้านหลังเดียวแม้ว่าจะเข้าเรื่องมานานประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วจู่ ๆ ก็ตัดเข้าสู่ความโกลาหลรอบคฤหาสน์มีฉากหันหลังสู้กับแฟร์รี่เท่ ๆ และดนตรีที่พยายามอัดแน่นความอีพิคก็ไม่ช่วยเสริมให้เรื่องราวดูจริงจังขึ้นเลยสักนิด หนำซ้ำมีแต่จะรำคาญมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะหนังไม่ยอมทำหน้าที่ให้อินหรือชวนให้ลุ้นอะไรเลย เราเดาทางออกหมดว่าหนังจะไปทางไหน แถมยังเหมือนเขียนเรื่องไม่จบตั้งใจจะให้ไปต่อแบบเท่ ๆ แต่ดูแล้วไม่น่าจะมีโอกาส

ในส่วนของนักแสดง ไม่รู้ว่าเพราะบทที่ห่วยหรือเปล่า แต่ส่วนตัวนักแสดงทุกคนทำหน้าที่ตามบทแหละ แต่มันขาดความความเป็นธรรมชาติของตัวละคร กลายเป็นแสดงไม่ดีเลยสักคน อย่างตัวเอกหลักที่ เฟอร์เดีย ชอว์ก็ตะโกนโหวกเหวกตลอดทั้งเรื่อง ไม่เห็นอารมณ์อะไรอื่น นอกจากหน้านิ่ง ๆ ตื่นตัวตลอดเวลา ไม่มีความสุขุมเหมือนที่หนังพยายามชู ตัวละครพ่อบ้านผิวดำที่พยายามจะเท่เป็นฮีโร่ผู้ช่วยของอาร์ธีมิส หลานสาวของเขาที่ออกมาทำอะไรไม่รู้นอกจากบทพูดจาทื่อ ๆ ไม่กี่บทกับฉากแอ็คชั่นอย่างงง ๆ คอลิน ฟาเรลที่แสดงดีเกินกว่าหนัง และจูดี้ ดินซ์ที่ดูดีมากและสง่า แต่บทไม่ส่งอะไรเลยสักนิด ส่วนนักแสดงที่มองว่าโอเคสุดคงเป็น ลาร่า แมคดอนเนลล์ ที่สวมบทสาวแฟร์รี่ผู้กุมความลับที่บทหนังไม่ได้ทำร้ายเธอมากนะ เธอยังมีฉากเด่นมากกว่าตัวเองหลักซะอีก แถมด้วยการเซ็ตติ้งโลกในเรื่องนั้นก็ดูโดดไปโดดมาด้วยฉากของหนังที่เหมือนงบหมด มีฉากซีจีแบบลอย ๆ โผล่มาให้เห็นในเรื่อง วนเวียนอยู่แค่ฉากเมืองไม่กี่เมือง ฉากเมืองแฟร์รี่ใต้ดิน และฉากคฤหาสน์เป็นเซ็ตติ้งหลัก ผสมกับอาวุธสุดไฮเทคที่ไม่มีความตื่นตา น่าสนใจ ซึ่งก็เห็นความพยายามจะเล่าเรื่องการขับเคี่ยวทางจิตวิทยาระหว่างแฟร์รี่กับเหล่าตัวเอก แต่ปัญหาที่หนักที่สุดคือบทคำพูดประหลาด ๆ สไตล์หนังดิสนีย์ที่ชอบพูดจาอะไรเท่ ๆ  พาตัวละครทุกตัวโอเวอร์แอ็คติ้งกันหมด พอมาอยู่ในฉากจริงจังกลายเป็นหนังตลกแบบไม่ได้ตั้งใจด้วยซ้ำ ทั้งฉากแอ็คชั่นที่ดูหนังทุนต่ำไม่สมกับสมญานามของภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายขายดีคำวิจารณ์เยี่ยม

สรุป Artemis Fowl

เป็นหนังแฟนตาซีที่หนีไม่พ้นคำสาปหนังสร้างจากหนังสือขายดีของดิสนีย์ พูดได้เต็มปากเลยว่านอกจากหนังที่ใช้ทรัพยากรจากตัวเองอย่างมาเวลและดิสนีย์ ดิสนีย์ไม่มีอะไรดีเลยในการสร้างงานดัดแปลงหรืองานออริจินัล ด้วยความพังแบบไม่เป็นท่าของหนังเรื่องนี้คือตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่า ถึงองค์ประกอบหนังเรื่องนี้จะดีมากแค่ไหน แต่เมื่อมันมาเจอกับบทหนังที่แสนซ้ำซาก จำเจ ตัวละครที่ทำตัวประหลาดและน่ารำคาญ ไม่สมกับการตีความโลกของหนัง ช่วยเพิ่มความขาดความน่าสนใจจากคอนเซปต์ที่ดูดีมีความน่าติดตามให้กลายเป็นความน่าเบื่อ คงมีแค่นักแสดงเท่านั้นที่แบกหนังให้ผมยังทนดูได้จนมาจนจบ ถ้าคิดว่าจะเป็นหนังผจญภัยสุดตื่นตาตื่นใจ ตื่นเต้น และครบทุกอารมณ์ อย่ามาดูเรื่องนี้เลยครับ นักวิจารณ์ต่างประเทศว่ายังไง ผมว่าแบบนั้นแหละ สคิปได้ สคิปเลย อย่าเสียเวลาดูเลย ดูแล้วหงุดหงิดใจเปล่า ๆ ยิ่งคนที่เคยอ่านหนังสือ ผมบอกได้เลย ถ้าคุณได้ดูเรื่องนี้จบ คุณสาปแช่งหนังเรื่องนี้แน่ แต่ถ้าไม่คิดมากอยากหาอะไรดูผ่าน ๆ ให้มันมีอะไรในชีวิตก็ลองได้ครับ

ฉายแล้ววันนี้ทางสตรีมมิ่ง Disney+Hotstar  

ราคาปีละ 799 บาท สำหรับลูกค้าทั่วไป แต่เฉพาะลูกค้า AIS สมัครแพ็กเกจ Disney+ Hotstar เพียง 49 บาท/เดือน (จาก 99 บาท) หรือ ราคาปีละ 499 บาท

  • ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจในแวดวงเกม รีวิวภาพยนตร์ ซีรีส์ และ อนิเมะ ได้ ที่นี่
  • ติดตามผลงานของผม Thousand Mar ได้ ที่นี่

 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!