playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Je Suis Karl (Netflix) เราคือคาร์ล เมื่อคนรุ่นใหม่ปฏิวัติยุโรป (ไม่สปอยล์)

สรุป

ภาพยนตร์ดราม่าสะเทือนขวัญผ่านเรื่องราวโศกนาฏกรรมและเรื่องราวสะเทือนใจ แต่ดันขาดมิติร่วม การใส่ใจต่อเรื่องราวที่สามารถขยี้ได้มากกว่านี้ ความสมเหตุสมผล และตัวละครที่ทำให้เราเข้าใจในจุดประสงค์และอินไปกับเรื่องราวในโลกของหนังได้ มิหนำซ้ำ ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนหรือบทสรุปที่จบลงแบบดื้อ ๆ ส่วนที่ดีมาก ๆ ก็คือนักแสดงที่แสดงออกมาได้ดีและประเด็นเรื่องที่ชวนคิดและตั้งคำถาม นอกนั้นคือความหงุดหงิดตลอดทั้งเรื่อง

Overall
5/10
5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • เรื่องราวที่ใจกล้าและบ้าบิ่นเรื่องการเมือง
  • การแสดงที่ดีมาก นักแสดงมีเสน่ห์
  • ความสมจริงของสถานการณ์ที่น่าติดตาม
  • ประเด็นทางการเมืองและสังคมที่ชวนวิพากษ์วิจารณ์
  • มุมกล้องที่มอบบรรยากาศที่แตกต่างตามสถานการณ์

Cons

  • บทไม่มีอะไรเลย เล่าเรื่อย ๆ ไม่มีความน่าสนใจ คาดเดาง่าย
  • ตัวละครน่าหงุดหงิด น่ารำคาญ
  • เน้นความรุนแรงและสมจริง จนขาดความสมเหตุสมผล
  • ไม่มีการขยี้เรื่องราวในส่วนที่ควรขยี้
  • บางตัวละครอื่น ๆ โผล่มา แต่ไม่ได้รับการใส่ใจมากพอ

Je Suis Karl (เราคือคาร์ล) ภาพยนตร์ดราม่าทริลเลอร์สะเทือนขวัญสัญชาติเยอรมันที่สะท้อนภาพของปัญหาการเมืองและสังคมคนยุคใหม่ ด้วยโศกนาฏกรรมที่ทำลายชีวิตของผู้คนบริสุทธิ์ และไร้ซึ่งจุดจบที่สวยงาม โดยสะท้อนผ่านสัญญะของตัวละครคาร์ล ที่เป็นผู้ร้ายในสายตาของผู้คน แต่อุดมการณ์ของเขานั้นสูงส่งและเสี่ยงได้แม้กระทั่งชีวิต ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการคัดเลือกให้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลินครั้งที่ 71 ในเดือนมีนาคม การันตีความเข้มข้นแบบไม่กั๊กโดยผู้กำกับ คริสเตียน ชโวโชว์ ที่กำกับ THE CROWN SEASON 3 ตอนที่ 5 Coup ก่อนที่หนังจะถูกซื้อมาฉายในเน็ตฟลิกซ์ มีแค่ซับไทยและซาวด์แทร็ค

 Je Suis Karl (2021) on IMDb

ตัวอย่าง Je Suis Karl เราคือคาร์ล

รีวิว Je Suis Karl เราคือคาร์ล

ชีวิตของเด็กสาวที่สดใสอย่าง แม็กซี่ ต้องจบลงหลังโศกนาฏกรรมการระเบิดก่อการร้ายที่คร่าชีวิตของครอบครัวไปจนเกือบหมด เหลือแต่ผู้เป็นพ่อที่ห่างเหินกันเพราะยังเชื่อว่าครอบครัวยังไม่ตายราวกับคนเสียสติ เธอได้แต่เฝ้าหวังว่าเธอจะมีความหวังในการใช้ชีวิตเพื่อประคับประคองกับครอบครัวที่เหลืออยู่ จนกระทั่งเธอได้พบกับชายหนุ่มปริศนานามว่า คาร์ล ที่หยิบยื่นโอกาสให้เธอได้ค้นพบสังคมใหม่แห่งการปฏิวัติเพื่อต่อสู้กับรัฐบาลที่เมินเฉย และคืนความยุติธรรมของครอบครัวเธอ โดยไม่รู้เลยว่า กลุ่มสังคมใหม่ฟาว ของคาร์ลที่เธอกำลังจะเข้าไปพัวพันนั้นกำลังวางแผนการก่อการร้ายใหญ่ที่จะสั่นคลอนทั้งทวีปยุโรปโดยที่เธอไม่รู้ตัว ความรักที่ผลิบานท่ามกลางเชื่อใจกับชายหนุ่มปริศนาที่น่าหลงใหลและน่าศรัทธา จะฉุดรั้งให้เธอต่อสู้ หรือร่วมมือกับพ่อในการยับยั้งแผนการร้ายได้มั้ย หรือสุดท้ายแล้วการปฏิวัติยุโรปใหม่จะต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และคนที่เดือดร้อนที่สุดอาจจะเป็นคนรอบตัวหรือแม้แต่ตัวเธอเอง

เรื่องราวก็ประมาณนี้การเล่าเรื่องก็จะเป็นเส้นตรงสลับกับเฉลมปมว่าเหตุการณ์ร้าย ๆ เกิดขึ้นได้ยังไง โดยบอกเล่าผ่านตัวละครหลายมุมมองที่เชื่อมโยงกันในท้ายที่สุด ไม่มีจุดหักมุม ไม่มีอะไร มันคือดราม่าเพรียว ๆ ที่สะท้อนถึงชีวิตของตัวละครที่พันผูกด้วยความต้องการจะปฏิวัติในหลายรูปแบบ โดยไม่ได้รับรู้ถึงผลที่ตามมาในภายหลัง หนังเฉลยปมแล้ว เดาเรื่องออกแล้ว แต่เราก็ทำได้แค่มองเรื่องราวไปข้างหน้า เห็นชีวิตของตัวละครเอกหญิงอย่างแม็กซี่ค่อย ๆ ด่ำดิ่งกับความรัก เซ็กส์ และความหวัง ความสัมพันธ์กับตัวละครแบบผิวเผินที่ชวนอึดอัดจนอยากจะกรีดร้องว่า ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย ทั้งน่าอึดอัดและน่าโมโห ที่มันพยายามสะท้อนเหตุการณ์จริง ๆ ของกลุ่มนักปฏิวัติหัวรุนแรงในยุโรปที่ใช้ความทันสมัยใหม่หลอกล่อคนให้เข้าร่วม แม้แต่กระทั่งกับเหยื่อที่ได้รับผลกระทบก็ยังจะดึงเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งเพื่อให้จุดประสงค์นั้นสัมฤทธิ์ผล ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหนังต้องการจะสะท้อนอะไรนอกจาก อุดมการณ์อันสูงส่งของผู้ก่อการร้ายฝั่งขวาและบทสรุปของเรื่องที่จบแบบดื้อ ๆ ไร้ซึ่งคำตอบ ไร้ซึ่งเหตุผล ราวกับจะทิ้งคำถามมากมายให้คนดูตอบเอาเอง แต่ด้วยความที่มันเล่าเรื่องแบบเนือย ๆ ไม่น่าสนใจให้เห็นตัวละครโลดแล่นไปเรื่อย ๆ และสาดใส่ความรุนแรงในช่วงท้ายที่เหมือนจุดติดก็ยังทำให้รู้สึกแค่ อ๋อ ทำได้แล้ว แล้วยังไงต่อล่ะ หนังเน้นความสมจริงมากจนลืมใส่รายละเอียด ความหมายหรือจุดประสงค์ของตัวละครนั้น ๆ จนเราไม่รู้สึกร่วมอะไรเลย เหมือนโดนผลักออกมา ทั้งที่หนังดราม่ามันควรจะทำให้เราเข้าใจ หรือรู้สึกตาม

ตัวละครในเรื่องก็มีไม่มากแต่ก็ไม่ได้มีความลึกซึ้งหรืออะไร มีมิติเดียวที่น่ารำคาญมาก ไม่ว่าจะ แม็กซี่ ที่บทปูมาว่าเธอเป็นเด็กสาวสดใส แต่พอเจอเรื่องร้าย ๆ เธอก็กลายเป็นสาวหัวกบฏ ฟังดูเหมือนจะไม่มีอะไรใช่มั้ย แต่หนังมันไม่ได้ปูเลยว่าเธอเปลี่ยนไปยังไง เราแทบไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย นอกจากความกลัวของเธอที่ตอนต้นเป็นยังไง ตอนจบก็ยังเป็นแบบนั้น แถมเข้าขั้นรักผู้ชายจนแทบไม่เห็นความจริงอันโหดร้ายและสุดท้ายทำให้เธอต้องเดือดร้อน คาร์ล ตัวละครศูนย์กลางของเรื่องที่เปิดตัวมาด้วยอุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่มาก แต่เราไม่รู้เลยว่าเขาเป็นมายังไง จู่ ๆ ก็อยากจะปฏิวัติเพื่อสู้กับรัฐ ก็เริ่มแผนการที่เรียกได้ว่าระยำอย่างทำร้ายคนบริสุทธิ์แบบไม่รู้สึกผิด แถมยังมีความลุ่มหลงในตัวเองสูง จนแอบคิดว่าเขาไม่ได้รักใครจริง ๆ นอกจากตัวเอง อุดมการณ์ที่เขาทำไปไม่ใช่เพื่อประชาชน แต่เป็นเพราะความหลงระเริงที่อยากจะเปลี่ยนแปลงและสุดท้ายมันก็กลายเป็นความวุ่นวายที่หาจุดสิ้นสุดไม่ได้ และตัวละครอีกตัวอย่าง อเล็กซ์พ่อของแม็กซี่ที่ดูมีพัฒนาการสุด จากพ่อคนที่สุขสันต์กลายเป็นพ่อที่ทุกข์ทนจากการมีชีวิตรอดและหลอนว่าครอบครัวยังอยู่จนห่างเหินกับลูกสาว ก่อนที่สุดท้ายเขานี่แหละที่กลายเป็นคนที่ช่วยลูกสาวที่ไม่ต้องการเขามากที่สุด นอกนั้นก็ตัวละครวอนนาบียุคใหม่ที่คิดการใหญ่ในการร่วมมือกับคาร์ลและพร้อมถวายชีวิตอย่างไม่ลืมหูลืมตา ซึ่งตัวละครเหล่านี้ก็ออกมามีปฏิสัมพันธ์แล้วก็หาย ไม่มีความสำคัญอะไรเลย หนังจึงทำให้เราเห็นแค่คาร์ลกับแม็กซี่ที่ค่อย ๆ พากันดิ่งลงสู่ความวุ่นวายจนถึงที่สุด เนื้อเรืองนั้นมีความรุนแรงมากโดยเฉพาะช่วงท้าย ๆ

ประเด็นของเรื่องนี้ค่อนข้างจะสะท้อนการเมืองยุโรป จิกกัดสังคมทุนนิยม เสรีนิยมแบบคาร์ล มาร์กซ (ไม่รู้ว่าบังเอิญมั้ย แต่ชื่อตัวละครหลักมันเหมือนแยกชื่อกับนามสกุลออกเลย คาร์ล ก็ คาร์ล แม็กซี่ ก็ มาร์กซ) แต่ถูกเล่าออกมาด้วยความรุนแรงเพราะความเคลือบแคลงใจของประชาชนต่อรัฐบาลในเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ถูกเมินเฉย และไม่ได้รับความยุติธรรมและไม่ได้ตามที่ตัวเองต้องการ จนต้องลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างด้วยอุดมการณ์ที่ขาดความประนีประนอมและพร้อมทำได้ทุกอย่างเพื่อให้สามารถกระตุ้นให้ผู้คนก่อจราจลได้ แต่ถึงกระนั้นมันก็สะท้อนให้เห็นว่าความรุนแรงนั้นไม่ได้ทำให้อะไรมันดีขึ้นมา โดยเฉพาะหากมันถูกใช้อย่างผิดวิธี หรือแม้แต่เราต้องมีวิจารณญาณในการวิเคราะห์และรับฟังหลาย ๆ ทาง มากกว่าแค่ทางใดทางหนึ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้ว ทางไหนที่ถูกที่สุด ทางไหนที่ผิดที่สุด เหมือนในการเมืองที่กลายเป็นเครื่องมือให้คนมากมายใช้มันชักนำและจูงพาผู้คนไปในทิศทางที่ต้องการและหากเราใจไม่แข็งและขาดวิจารณญาณมากพอ เราก็จะกลายเป็นเหยื่อเหมือนกับตัวละครในเรื่องที่ต้องตกอยู่กับความสิ้นหวังมากกว่าความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ที่ถูกหยิบยื่นให้จากคนที่มีจุดประสงค์ที่ไม่ดี

นักแสดงคงเป็นส่วนที่ชมได้อย่างเต็มปากเพราะนอกจากบทที่ไม่มีอะไร ก็ได้การแสดงที่ทำให้ดูมีอะไรขึ้นมาบ้างอย่าง ลูน่า เวดเลอร์ นักแสดงสาวเจ้าของบทนำจาก Biohackers ซีรีส์อีกเรื่องจากเน็ตฟลิกซ์ที่โชว์ความเป็นเด็กสาวที่ค่อย ๆ เติบโตเป็นคนหัวขบถและก้าวผ่านความกลัวเพื่อยืนหยัดในจุดยืนของตัวเองจนหลงลืมผลที่ตามมา เธอต้องแบกรับความรู้สึกแย่ที่สะสมผ่านสีหน้าที่ดูมีความกระตือรือร้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีความไร้เดียงสาและไม่รู้อะไรเลย เธอนั้นทั้งสวยและมีเสน่ห์มาก แต่บทดันทำให้เธอเป็นเพียงตัวละครหนึ่งที่ขาดอารมณ์ร่วมและไม่มีความน่าสนใจและน่ารำคาญ ในขณะที่บทคาร์ลจอมโฉดชั่วของ ยันนิส นีเวอเนอร์ ก็มีความหล่อและมีเสน่ห์แถมยังมีมุมนิ่ง ๆ ออกไปทางจิต และเรารู้ทันทีว่าเขานั้นไม่ใช่คนดี และหนังก็ไม่ได้ทำให้เราเห็นใจหรือรู้สึกเข้าใจอะไรเขา ในขณะที่หนังไม่ได้มีองค์ประกอบอะไรโดดเด่น นอกจากมุมกล้องที่พยายามเล่าสลับระหว่างฉากหนัง กับ มุมภาพจากมือถือที่ใช้เล่าเรื่องอย่างสมจริง หรือในช่วงท้ายที่มุมกล้องกลายเป็นแบบสารคดีเอาชีวิตรอด ก็ดูจะไม่มีอะไรน่าจดจำเลยสักเท่าไหร่

สรุป

เราคือคาร์ลอาจเป็นจินตนาการที่สมจริงของผู้กำกับที่ตีความว่ายุโรปจะปฏิวัติตัวเองอย่างไรผ่านโศกนาฏกรรมและเรื่องราวสะเทือนใจ แต่ขาดมิติร่วม การใส่ใจในเรื่องราวที่น่าสนใจ ความสมเหตุสมผล และตัวละครที่ทำให้เราเข้าใจและอินไปกับเรื่องราวในโลกของหนังได้เลย มิหนำซ้ำยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนหรือบทสรุปที่จบลงแบบดื้อ ๆ ส่วนที่ดีมาก ๆ ก็คือนักแสดงที่แสดงออกมาได้ดีและประเด็นเรื่องที่ชวนคิดและตั้งคำถามเกี่ยวกับสังคมโลกปัจจุบัน บรรยากาศของเรื่องที่สมจริง เราจะทำยังไงไม่ให้เกิดเรื่องแบบในหนัง หรือหาทางรับมือหากมันเกิดขึ้นจริง ๆ เราจะอยู่ทางไหน คงไม่ใช่หนังสำหรับทุกคนที่คาดหวังดราม่าเข้มข้น ถ้าข้ามได้ก็ข้ามไป แต่จะดูก็ได้มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่เนื้อเรื่องมันต้องตีความสัญญะค่อนข้างขึ้นอยู่กับผู้ชม ซึ่งออกไปในทางความรุนแรงและชวนสับสน และมีฉากเซ็กส์ที่ไม่เห็นหมดแต่ผู้ชมอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ

ชมได้แล้ววันนี้ใน เน็ตฟลิกซ์ 

  • ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจในแวดวงเกม รีวิวภาพยนตร์ ซีรีส์ และ อนิเมะ ได้ ที่นี่
  • ติดตามผลงานของผม Thousand Mar ได้ ที่นี่
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!