playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Q-FORCE (Netflix) อนิเมชั่นสายลับผู้ใหญ่หัวใจเควียร์ (ไม่สปอยล์)

สรุป

อนิเมชั่นซีรีส์แบบผู้ใหญ่ที่มาพร้อมด้วยสูตรสำเร็จแบบสายลับ ที่ยังนำเสนอภาพของกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ที่ยังหาจุดลงตัวไม่ได้ของความเป็นเควียร์ แต่ยังมีมนต์เสน่ห์ของหนังสายลับ มุกตลกฮา 18+ การจิกกัดสังคม ประเด็นที่เป็นมิตรและลึกซึ้งกับทุกคน เพลงประกอบที่ใช้ได้และเสียงพากย์ที่เข้าขั้นฮาได้ใจ ถ้าเปิดใจก็จะได้อนิเมชั่นดูสนุกและได้เรียนรู้เพิ่มอีกหนึ่งเรื่องเลย

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
5 (3 votes)

Pros

  • เนื้อเรื่องสนุกแบบหนังสายลับ จบแบบทิ้งท้ายตอนไว้ตลอด
  • ตัวละครในเรื่องมีเสน่ห์ คาร์แร็กเตอร์น่าสนใจไม่ว่าจะเควียร์หรือไม่เควียร์
  • จิกกัดสังคมอเมริกันตั้งแต่วัฒนธรรมจนถึงความเป็นเควียร์
  • เพลงประกอบที่เสริมเรื่องราว
  • ประเด็นดีและลึกซึ้งกว่าที่คิด
  • การพยายามนำเสนอกลุ่มเควียร์ภายในสื่อที่ไม่แย่อย่างที่คิด และเข้าถึงง่าย
  • เสียงพากย์ไทย ฮาเป็นธรรมชาติได้ใจมาก

Cons

  • มุกตลกบางอันก็แป้ก บางอันก็เข้าข่ายล้อเลียนเควียร์ ซึ่งอาจให้ความจำผิด ๆ กับคนกลุ่มนี้
  • การนำเสนอตัวละครที่หลากหลายทางเพศยังไม่ดีแบบที่คาด ยังติดภาพจำเดิมบ้าง
  • ช่วงตอนแรกจะค่อนข้างจังหวะเล่ายังไม่ลงตัวเท่าไหร่ แต่ตอนหลัง ๆ จะดีขึ้น

Q-FORCE (สายลับพลังคิว) อนิเมชั่นคอเมดี้สำหรับผู้ใหญ่ที่นำเสนอเรื่องราวตัวละครหลักทั้งหมดเป็น เควียร์ (กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศโดยที่ปรากฏในเรื่องนี้ได้แก่ เกย์ หรือ เลสเบี้ยน) สร้างโดย เกบ ลีดแมน มินิซีรีส์ในเน็ตฟลิกซ์ 10 ตอน สร้างโดย NBCUniversal Syndication Studios ในเครือ Comcast เจ้าของบริษัทสื่อหลากหลายชื่อดังอย่าง ยูนิเวอร์แซล ที่ออกตัวอย่างมาก็โดนกระแสในแง่ลบ แม้ว่าจะได้นักพากย์ที่ผมรู้จักแค่ เดวิด ฮาร์เบอร์ เจ้าของบทจิม ฮอปเปอร์จากซีรีส์ Stranger Things แถมตอนฉายจริงก็ได้รับคะแนนวิจารณ์ที่ค่อนข้างแย่ จนผมสงสัยว่ามันแย่ขนาดนั้นจริง ๆ หรือเป็นเพราะตัวละครเหล่านั้นเป็นเควียร์ที่คนทั่วไปไม่ค่อยเข้าใจว่าพวกเขาเป็นยังไง และสื่อต่าง ๆ มักจะให้พวกเขาเป็นตัวละครที่มีปัญหาในการเปิดตัวในสังคม นอกจากเป็นตัวตลกในสื่อที่เล่นใหญ่ แต่ในซีรีส์เรื่องนี้พวกเขาคือตัวละครหลัก เป็นสายลับที่ทำภารกิจเพื่อปกป้องโลก และมีตัวละคร สเตรท (คนตรงเพศที่ชอบเพศตรงข้าม) เป็นตัวละครรอง ซึ่งก็น่าสนใจเพราะเน็ตฟลิกซ์ก็ขึ้นชื่อว่าให้ความหลากหลายอยู่แล้ว

 Q-Force (2021) on IMDb

ตัวอย่าง Q-FORCE (สายลับพลังคิว)

รีวิว

หลังจากเปิดตัวว่าตัวเองเป็นเกย์หลังจบการศึกษาการเป็นสายลับ สตีฟ แมร์รี่เวทเทอร์ หนุ่มหล่อหุ่นแบบสไตล์เกย์อเมริกันและเจ้าหน้าที่สายลับมากฝีมือของ AIA หน่วยสายลับของอเมริกัน ที่ถูกกดให้อยู่แต่ในหน่วยย่อยที่ไม่เคยได้ออกภาคสนามท่ามกลางการเหยียดหยามทางเพศมาเป็นเวลากว่าทศวรรษ และถูกสั่งการประจำให้อาศัยอยู่ในเวสต์ ฮอลลีวู้ด โดยเขาได้รวบรวมเจ้าหน้าที่มากฝีมือที่ส่วนใหญ่ล้วนถูกมองข้ามเพราะพวกเขาเป็นเควียร์ และแอบแฝงตัวเองในฐานะคนธรรมดาทั่วไป ทว่า วันหนึ่งสตีฟกลับค้นพบข้อมูลลับที่เชื่อมโยงระหว่างกลุ่มผู้มีความหลากหลายระหว่างเพศและอาชญากรรมระดับโลก แมร์รี่จึงต้องนำทีมที่ถูกดูหมิ่นและมองข้ามออกทำภารกิจสำเร็จแม้แต่คนในทีมด้วยกันที่เป็นสเตรทอย่าง เอเจนท์ บัค เพื่อปกป้องโลก ด้วยเอเนอจี้ หล่อเท่ สวยเริ่ด เชิ่ดปัง และเปี่ยมด้วยความเป็นสายลับที่ไม่จำกัดว่าจะเป็นเพศไหน ๆ และพวกเขาจะทำให้โลกเห็นว่าเควียร์ก็เจ๋งไม่แพ้ใคร ๆ เหมือนกัน

ซีรีส์เริ่มมาด้วยตัวละครหลักได้โชว์ความสามารถเป็นของตัวเองจนเป็นที่ชื่นชมจากทุกคน แต่ทว่าเมื่อเขาเปิดตัวว่าเป็นเกย์ นี่แหละที่กลายเป็นเรื่องราวที่ช่วงแรกจะเป็นการปูตัวละครอย่างรวดเร็วและบทบาทของตัวละครที่เฉลี่ยความสำคัญอย่างดีเยี่ยม แต่ก็ถูกมองข้ามเพราะพวกเขาโดนสายตาคนทั่วไปมองว่าผิดเพศ เพียงเพราะพวกเขาดูแปลกแยกในสายตาของพวกเขา แต่เรื่องจะเล่าระหว่างมุกตลกแบบผู้ใหญ่  มุกตลกที่จิกกัดสังคมอเมริกันตั้งแต่วัฒนธรรมสื่อไปจนถึงระดับโลก หรือแต่ละตอนก็จะล้อสังคมสายลับ พร้อมฉากที่เต็มไปด้วยเหล้า เซ็กส์แบบเห็นชัดไม่มีตัด และความรุนแรงที่มีพอประมาณสำหรับซีรีส์การ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่ มันเลยสามารถทำหน้าที่ของมันได้อย่างสนุกสนานใช้ได้โดยไม่ต้องกั๊ก ด้วยฉากแอ็คชั่นสไตล์สายลับที่สลับกับแนวคิดแบบเควียร์ ๆ ที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องสนใจเสียงของใคร ๆ พวกเขาแค่ทำภารกิจ และมีคนที่ห่วงใย ทั้งเพื่อนฝูงและคนรัก พวกเขาก็ทำได้ดีทั้งแบบฟลุ๊ก ๆ และแบบมืออาชีพ และเรื่องราวที่ร้อยเรียงเหมือนภาพยนตร์ทั้ง 10 ตอน ที่ฉลาดในการทิ้งปมให้อยากดูต่อไปเรื่อย ๆ จากประเด็นเล็ก ๆ มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่อย ๆ แม้ว่าจะไม่มีอะไรแปลกใหม่ เพราะเอาฮาอย่างเดียว แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายหรือส่งเสริมภาพลักษณ์แย่ ๆ ให้กลุ่มเควียร์ แม้จะมีบ้างที่แอบมีปัญหา แต่ไม่ได้แย่แบบที่ตัวอย่างที่ปล่อยออกมาทำให้คนรู้สึกว่าเป็นการล้อเลียนแบบที่คิดไว้

ในแต่ละตอนก็จะเป็นประเด็น ๆ ไป แต่ปัญหาระหว่างดูคือ กลุ่มเควียร์เหล่านี้ยังติดภาพของอดีตอยู่ว่ามีแค่เกย์ เลสเบี้ยนแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ทั้งที่ความจริงยังมีกลุ่มผู้หลากหลายมากมาย ทั้ง ไบเซ็กชวล (กลุ่มคนที่รักได้ทั้งชายหญิง) แอสเซกชวล (กลุ่มคนที่ไม่สนใจความรักในเชิงความใคร่จากเซ็กส์) หรือ แพนเซ็กชวล (กลุ่มคนที่รักได้หมดไม่ว่าจะเป็นเพศใด ๆ) ซีรีส์ตีความแค่ไม่กี่กลุ่มและการออกแอ็คชั่นค่อนข้างที่ค่อนข้างตกยุคสมัยแบบตัวละครเกย์สมัยก่อนที่ชอบเล่นใหญ่ พูดจาแปลก ๆ เพื่อใช้เป็นมุกตลกแบบสูตรสำเร็จ แต่พอดูไปเรื่อย ๆ ซีรีส์จะนำเสนอ เฉลยปมและให้เหตุผลมากขึ้นจนลืมปัญหาเหล่านี้ไปเลย เพราะมันสนุกมากด้วยเคมีของตัวละครที่มีเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นสตีฟ เกย์หนุ่มเสน่ห์แพรวพราว ผู้มีความสามารถแบบสายลับแต่ต้องพยายามดิ้นรนทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากผู้คน เดบ เลสเบี้ยนร่างยักษ์ที่มากฝีมือในด้านงานช่างพยายามแยกโลกระหว่างโลกสายลับและโลกของภรรยาที่เธอพยายามรักษา สแต๊ท แฮ็คเกอร์เกลียดสังคมที่สามารถเจาะเข้าระบบความมั่นคงได้และมักทำตัวแปลกๆ ทั้งรสนิยมความชอบ ทวิงค์ แดร๊กควีนหนุ่ม (ผู้ชายที่สามารถแต่งตัวเป็นเพศหญิงได้) ชอบเล่นใหญ่ไฟแรงเฟอร์ที่มีปมปัญหาทางจิตใจเพราะร่างกายที่ไม่เหมือนใคร ๆ ทำให้สามารถแปลงโฉมเป็นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง และ ริค บั๊ค ชายตรงเพศคนเดียวในทีมที่เป็นตัวแทนของสายลับสไตล์หนังเจมส์บอนด์ที่มักใช้ความเป็นชายกดหัวคนอื่นด้วยอคติทางเพศ จนกระทั่งได้เรียนรู้และมองพวกเขาในแง่ที่แตกต่าง วี เจ้าหน้าที่หญิงที่มีความลับซ่อนอยู่ แต่ก็คอยช่วยเหลือหน่วยคิวฟอร์ซให้ทำภารกิจได้อย่างลุล่วง และตัวละครรับเชิญที่เหมือนจะเป็นการล้อเลียนสังคมอเมริกาที่มีทั้งฮาบ้างและแป้กบ้าง แต่ทั้งสิบตอนมันจะมีเคมีของตัวละครเหล่านี้ช่วยทำให้เรื่องราวสนุกแบบนอนสต๊อปเลยสำหรับผม

ประเด็นแต่ละตอนจะเกี่ยวกับการที่ตัวละครได้เรียนรู้ มากกว่าที่จะจมปลักอยู่กับความผิดหวัง ไม่ว่าเราจะเป็นอะไร จงทำมันให้เต็มที่ และ อย่าลืมเรียนรู้จากสิ่งที่เป็นประสบการณ์ นอกจากนี้ยังสอนให้คนได้เห็นว่ากลุ่มเควียร์ก็ไม่ต่างอะไรกับพวกเรา พวกเขามีชีวิต มีครอบครัว มีความรัก มีหน้าที่การงาน และมีความสามารถแต่อาจจะไม่ได้ดีในโลกที่ปิตาธิปไตย (ความเป็นชายเป็นใหญ่) ครอบงำตั้งแต่สังคม โดยซีรีส์ให้ภาพสะท้อนว่า เจ้าขององค์กรสายลับเป็นผู้ชายที่ดูหมิ่นและเหยียดหยามกลุ่มคนเหล่านี้ และพยายามจะทำทุกอย่างเพื่อให้พวกเขาไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงบนโลก รวมไปถึงการพยายามบังคับเปลี่ยนแปลงให้พวกเขาเป็นแบบที่พวกเขาต้องการ ทั้ง ๆ ที่ความจริง เราจะเป็นอะไรก็ได้ มันเป็นสิทธิ์ อิสระของเราที่จะเป็นหรือทำในสิ่งที่เราชอบหรือเรารัก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม หรือ ปัญหาที่เกิดจากความเป็นชายที่บีบบังคับให้ผู้ชายต้องรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองว่าเป็นคนเข้มแข็ง ต้องเจ๋ง ต้องกร่างอยู่เสมอ ทั้งที่ความจริงก็สามารถร้องไห้และเจ็บปวดกับปัญหาได้ มันไม่ผิดเลย สังคมชอบมองว่าผู้ชายอ่อนแอ แต่ในซีรีส์ทำให้เห็นว่า ไม่ ใคร ๆ ก็อ่อนแอได้ และไม่ควรมีใครที่คอยมานิยามว่าเราต้องเป็นยังไง เราต้องเป็นตัวของเราเอง และภูมิใจในตัวเองเสมอ ไม่ว่าเราจะเป็นใคร

สำหรับงานอนิเมชั่นก็อาจจะไม่ได้สวย เพราะเป็นการ์ตูนผู้ใหญ่ความสำคัญจึงอยู่ที่สีและการนำเสนอซึ่งก็ทำออกมาตามมาตรฐานของอนิเมชั่นประเภทนี้ ตัวละครจะมีความเป็นการ์ตูนแต่จะทำอะไรห่าม ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเก็บรายละเอียดพอสมควร เพราะจากที่ไปเห็นมาคือนักเขียนวาดมือผสมกับงานกราฟิกแบบพอดิบพอดีด้วย ดนตรีประกอบก็ให้อารมณ์แบบสายลับ ชวนให้ลุ้นระทึก หรือเพลงประกอบที่มาในแนวดีว่าหรือป๊อบติดหู แต่ที่ยกเครดิตจริง ๆ คือพากย์ไทยที่ได้ มนัสวิน มลิวงค์ หนึ่งในกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศที่ได้มาคุมงานพากย์อนิเมชั่นเวอร์ชั่นภาษาไทยให้ งานนี้น่าจะเข้าทางเขาพอดี เพราะพากย์ไทยก็จัดเต็มมาก กับประโยคที่แปลออกมาได้ฮา ได้อารมณ์ จนแอบคิดว่านักพากย์น่าจะสนุกกับงานนี้โดยสมควรและนี่น่าจะเป็นส่วนที่ว้าวเพราะนี่เป็นทีมนักพากย์ที่มีชื่อของเน็ตฟลิกซ์ แต่มาพากย์มุกตลกล้อเลียนสื่อ ล้อเลียนอเมริกันแบบคล่องปากนักพากย์มาก ก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับคนที่ดูหนังเน็ตฟลิกซ์แล้วได้เห็นพวกเขาปล่อยของ ปล่อยฮาและเป็นธรรมชาติไม่รู้สึกขัดหูอะไรเลย แนะนำว่าควรดูพากย์ไทยเทียบกับพากย์อังกฤษดู อารมณ์แทบไม่ต่างกันเลย

สรุป

ตัวอย่างที่ปล่อยออกมาไม่ได้ทำหน้าที่เสนอหรือขายสิ่งที่ซีรีส์เป็นอย่างแท้จริง แม้ช่วงตอนแรก ๆ จะนำเสนอออกมาได้อย่างเรียบง่ายและสูตรสำเร็จ แต่มันก็คือซีรีส์อนิเมชั่นสายลับผู้ใหญ่แบบเดียวกับ Archer ที่ผมไม่ได้เห็นมานาน หลังจากที่เลิกดูไปเพราะรู้สึกว่าเรื่องมันตัน ก็มีเรื่องนี้แหละที่ให้ความสดใหม่โดยไม่มีอคติทางเพศ ถ้าไม่ติดภาพว่าตัวละครหลักสายลับควรเป็นผู้ชาย หรือเพราะตัวละครหลักเป็นซีรีส์เควียร์แบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ มันก็ยังสนุกและให้อารมณ์สายลับเติมด้วยจริตเป๊ะปังอลังการงานเวอร์ มุกตลกที่ดีบ้างแป้กบ้าง และบทสรุปก็อิ่มใจมาก จนผมอยากให้มีซีซั่นสองเลยเหมือนที่คนต่างประเทศที่ได้ดู แต่พอเห็นกระแสตอนนี้ก็คงทำได้แค่ฝันแล้วโดนวิจารณ์ยับซะขนาดนั้น แม้ว่าจะเป็นการนำเสนอกลุ่มผู้มีความหลากหลายผ่านสื่อสตรีมมิ่งแบบยังไม่ตรงเป้าหมาย แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่เราจะได้เห็นสื่อประเภทนี้ได้โลดเล่นในยุคสมัยใหม่ในอนาคตอย่างแน่นอน ก็อยากให้ทุกคนลองเปิดใจดูสักตอนสองตอน คิดซะว่ามันเป็นซีรีส์ที่จะเป็นประตูสู่ความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศ แต่อย่าลืมว่าเป็นซีรีส์การ์ตูนผู้ใหญ่ มีฉาก 18+ ที่ควรให้คำแนะนำและเนื้อหาค่อนข้างรุนแรง เพราะงั้นก็เป็นหูเป็นตาด้วยถ้าจะดูกับคนที่อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ ดูและทำให้คนรุ่นหลานเข้าใจว่า เควียร์ไม่ใช่สิ่งแปลกแบบที่คนอย่างเราเชื่อ ๆ  แต่พวกเขาคือคนที่มีรสนิยมทางเพศที่แตกต่างและมีความสามารถเฉพาะที่รอโอกาสมาหาพวกเขา แต่ถ้าคุณไม่ให้เขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาจะเข้าหาโอกาสนั้นเอง

อนิเมชั่นเรื่องนี้ได้รับการเข้าชิงให้เป็น Critics’ Choice Super Awards ของปีนี้ด้วย

ชมได้แล้ววันนี้ใน เน็ตฟลิกซ์ 

  • ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจในแวดวงเกม รีวิวภาพยนตร์ ซีรีส์ และ อนิเมะ ได้ ที่นี่
  • ติดตามผลงานของผม Thousand Mar ได้ ที่นี่

 

 

 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!