playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Midnight Diner Tokyo Stories ร้านอาหารเที่ยงคืน ความอร่อยของคนเหงา

สรุป

ซีรีส์ญี่ปุ่นน้ำดี ใน Netflix มีทั้งสองเวอร์ชั่น คือต้นฉบับของ TV Asahi และที่เอามาสร้างต่อเอง แนวให้กำลังใจ ฟีลกู้ด ปนบรรยากาศแบบชีวิตเหงาๆในตอนกลางคืนผ่านทางเมนูอาหารและผู้คนในแต่ละตอน

Overall
8.5/10
8.5/10
Sending
User Review
5 (3 votes)

Pros

  • ซีรีส์ญี่ปุ่น แนวดราม่า ให้กำลังใจชีวิต ที่ควรต้องดู
  • นักแสดงเล่นดีมาก
  • เพลงประกอบเพราะ เข้ากับเรื่องในธีมเหงาๆแบบสุดๆ
  • ร้านอาหารเที่ยงคืนนำเสนอได้ดีและสมจริง เชื่อว่าคนดูวัยผู้ใหญ่จะอยากให้มีร้านแบบนี้ใกล้บ้านบ้างแน่ๆ

Cons

  • ไม่มีเนื้อเรื่องหลัก ดราม่าหลายตอนก็ไม่ได้รุนแรงเข้มข้นอะไรนัก แนวชีวิตทั่วไป บางคนอาจไม่ชอบ
  • เรื่องนี้ไม่ใช่ซีรีส์รัก ไม่มีฉากคู่พระนาง ถึงบางตอนจะมีเล่าเรื่องคู่รักบ้าง แต่เป็นแนวชีวิตจริง

Midnight Diner Tokyo Stories รีวิว ซีรีส์ญี่ปุ่น Netflix เรื่องราวของ ร้านอาหารเที่ยงคืน เรื่องแนวฟีลกู้ด ให้อารมณ์ของผู้คนในบรรยากาศเหงา นำเสนอชีวิตดราม่าคนกลางคืน สีเทา ผ่านทางเมนูอาหารในแต่ละตอนที่ไม่ซ้ำกัน

Midnight Diner ซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องนี้ เป็นการกลับมาสร้างใหม่ของ Netflix หลังจากที่ฉบับออริจินอล ในชื่อเดียวกันเคยออกฉายตั้งแต่ปี 2011 และได้รับความนิยมอย่างมาก โดยทาง TV อาซาฮี

Midnight Diner Tokyo Stories Netflix Trailer ตัวอย่าง

Midnight Dinner Tokyo Stories Netflix ร้านอาหารเที่ยงคืนMidnight Diner Tokyo Stories เรื่องย่อ

เรื่องราวบอกเล่าผ่าน “ร้านอาหารเที่ยงคืน” ที่จะเปิดร้านตั้งแต่เวลา 24.00-07.00 น. เป็นร้านอาหารเล็กๆที่ก็ตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ ภายในย่านแสงสีกลางคืนของเมืองใหญ่ในญี่ปุ่นอีกทีหนึ่ง

ร้านอาหารนี้มีเจ้าของและเชฟประจำเพียงคนเดียว คือ มาสเตอร์ ของร้าน และเป็นตัวเอกของเรื่อง มีเมนูประจำคือ ซุปหมู ทานกับข้าวสวย และเสิร์ฟ เบียร์ แบบจำกัดแก้วต่อคน แต่มาสเตอร์ยังมีนโยบายอีกอย่างคือ ลูกค้าทุกคนสามารถสั่งเมนูอะไรก็ได้ ถ้าเขาทำได้ หรือเขามีวัตถุดิบอยู่ในวันนั้นเขาก็จะทำให้ หรือถ้าอยากให้เขาทำเป็นพิเศษ ลูกค้าจะซื้อวัตถุดิบมาให้เขาก็ยังได้เหมือนกัน

ซึ่งร้านของเขาเปิดตอนเที่ยงคืนไปแล้ว ดังนั้นลูกค้าทุกคนที่เข้ามาแวะเวียนในร้าน ทั้งขาประจำและขาจร จึงมักเป็นคนที่ทำงานในสังคมกลางคืนในเมืองใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น พนักงานออฟฟิศ ที่เลิกงานดึก เจ้าของคลับกลางคืน สาวนักเต้น นักร้อง นักพนัน โฮสต์ ยากูซ่า ฯลฯ แต่หลายครั้งที่เขาก็มีคนทำอาชีพทั่วๆไปที่แวะเวียนมาบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น นักเขียน นักศึกษา นักธุรกิจ นักกีฬา โปรแกรมเมอร์ นักบัญชี ศิลปิน ผู้กำกับหนัง โปรดิวเซอร์ ดีเจ เจ้าของร้านอาหาร ฯลฯ

เรื่องราวจะเป็นการบอกเล่าจบในตอนผ่านชีวิตของตัวละครประจำตอน ที่เป็นลูกค้าของเขาที่แวะเวียนกันมา ที่บางครั้งเรื่องราวแสนธรรมดาๆของผู้คนเหล่านี้กลับน่าติตตามดูอย่างประหลาด

Midnight Diner Tokyo Stories รีวิว สนุกไหม

ก่อนอื่นเลย ต้องบอกว่าการดูซีรีส์เรื่องนี้ ห้ามดูตอนกลางคืนเด็ดขาด!!! ถ้าคุณไม่อยากน้ำหนักขึ้น

คำแนะนำ ห้ามดูตอนกลางคืน เพราะเรียกน้ำย่อยคุณแน่นอน

สาเหตุเพราะทุกเมนูอาหารในเรื่องนี้ แม้ว่าจะเป็นเมนูอาหารที่เรียบง่าย พื้นๆ บ้านๆ แต่ก็มีการนำเสนอกระบวนการทำ และจัดแต่งในแต่ละจานที่ดูน่ารับประทานเอามากๆ แถมแต่ละตอนก็ช่างคิดช่างสรางสรรค์เอามากๆ ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ที่มีเกือบ 60 ตอน แทบจะไม่มีเมนูซ้ำกันเลย (มีซ้ำแค่ 2-3 ตอนเท่านั้น)

ตัวอย่างของเมนูอาหาร ที่โดดเด่น ชวนน่ากิน ก็เช่น ข้าวดงคัตสึ ข้าวหน้าปลาโอ ไส้กรอกเวียนนาทอด แซลมอน แฮมเบิร์กหมู เต้าหู้สับ ซุปปลา ปลาทอด หมูทอด ไก่คาราเกะ ไก่ย่าง นัตโตะ ไข่ปลาค็อด ปลาทูน่า ปลาซาบะ สลัดมันฝรั่ง ไข่หวาน  ฯลฯ และยังมีบางเมนูที่เชื่อว่าคนไทยเราคงไม่เคยกินในร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีอยู่แน่นอน แต่เป็นเมนูอาหารที่คนญี่ปุ่นทั่วไปเขากินกันจริงๆก็มี เช่น ขนมปังไส้เส้นสปาเก็ตตี้ ข้าวราดน้ำชา เป็นต้น

การนำเสนอในเรื่องนี้ ยังต้องคารวะทีมสร้างหลายจุด เพราะมีความโดดเด่นมากในแง่ของ การนำเสนอเรื่องราวชีวิตดราม่าของตัวละครที่แวะเวียนผ่านเข้ามาในร้านอาหารเที่ยงคืนในแต่ละตอน รวมถึงทีมนักแสดง เพลงประกอบที่มีส่วนมากในการช่วยขับเน้นบรรยากาศเหงาๆในสังคมหลังช่วงเวลาเที่ยงคืน

จุดแข็งอย่างหนึ่งของเรื่องคือ นักแสดง โดยเฉพาะ มาสเตอร์ เจ้าของร้าน ที่แสดงโดย โคบายาชิ คาโอรุ ดารารุ่นใหญ่ที่เคยมีผลงานมาแล้วมากมาย เล่นในบทนี้ได้ชนิดที่ต้องบอกว่า หาคนอื่นมาแทนไม่ได้อีกแล้วจริงๆ

การเล่าเรื่อง ก็เป็นจุดแข็งอีกอย่างของซีรีส์ คือแม้ว่าแนวทางการเล่าเรื่องแบบ ตัวละครประจำตอน จะดูซ้ำซาก เพราะเรื่องนี้ไม่มีเส้นเรื่องหลักอะไรทั้งนั้น เป็นแนวดูชิลๆไปเป็นตอนๆ แต่ซีรีส์ก็ยังหาวิธีการเล่าเรื่องในแต่ละตอนให้น่าสนใจได้เรื่อยๆ

อีกทั้งเนื่องจากเป็นเรื่องของตัวละครจบในตอน เรื่องนี้จึงเป็นแนว ดูได้เรื่อยๆ เป็นซีรีส์ที่ดูแล้ว ไม่เครียด แล้วถึงแม้ว่าเรื่องจะเป็นแนวดูได้เรื่อยๆ แต่เชื่อว่าคนดูก็เดาทางของแต่ละตอนได้ลำบากเหมือนกัน ว่าเรื่องราวมันจะไปในทางไหน

ที่สำคัญคือ ในหลายตอนชีวิตของตัวละครอาจจะดูดราม่าบีบคั้นหัวใจไปบ้าง แต่บทสรุปของแต่ละตอนก็มักจะมาแนว “Life go on” คือชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป ไม่ว่าทางดีหรือร้าย เหมือนที่ในชีวิตจริงของเรามันก็ไม่ได้มีสรุปตายตัว เรื่องนี้ก็มีรสชาติที่หลากหลาย อีกทั้งยังมักนำเสนอในแง่ Feel Good, Healing ช่วยให้กำลังใจคนดูที่กำลังท้อแท้หรือเหนื่อยกับชีวิต แล้วอยากหาที่พักพิงชั่วคราว ก่อนจะกลับไปสู้ต่อ

จุดนี้จะว่าไป ก็เสมือนกับร้านอาหารเที่ยงคืนในเรื่อง ที่ก็เหมือนเป็นพื้นที่เล็กๆสำหรับคนที่เหนื่อยล้าจากการทำงานในชีวิตประจำวันได้มาผ่อนคลายกับอาหารง่ายๆ เบียร์เย็นๆ ในรอบดึก พบเจอมาสเตอร์ และลูกค้าบางคนที่อาจจะคุ้นเคยกันบ้างในร้าน พูดคุยทักทายกันบ้าง ก็ช่วยผ่อนคลายได้บ้างแล้ว จนบางทีเชื่อว่าคนดูก็อยากจะให้มีร้านอาหารเล็กๆทำนองนี้ในซอยแถวบ้านหรือใกล้ที่ทำงานของเราเหมือนกัน

ในเครดิตแต่ละท้ายตอน ยังมีการนำตัวละครประจำตอนนั้นมามีส่วนร่วมในกระบวนการทำอาหารของตอนนั้นแบบสั้นๆ ยิ่งเรียกน้ำย่อยย้ำเข้าไปอีก

แต่ข้อด้อยก็มีอยู่บ้าง เช่น ความที่ซีรีส์เรื่องนี้มีความเป็นผู้ใหญ่สูง เพราะฉายภาพของสังคมคนกลางคืนในเมืองใหญ่ชัดเจนมาก เป็นเรต 18+ ในแง่ของการเล่าเรื่อง ดังนั้นไม่แนะนำสำหรับเด็ก อีกทั้งการเดินเรื่อง จะเป็นญี่ปุ่นแท้เลยคือ บางครั้งเดินเรื่องแบบให้ดูบรรยากาศของสถานการณ์นั้นๆ ที่บางครั้งก็ไม่มีบทพูดให้ตัวละครแสดงความคิดออกมาตรงๆ

อีกทั้งคนที่อยากดูเรื่องแนวที่มีเส้นเรื่องหลัก เรื่องนี้ไม่แนะนำ เพราะเป็นแนวจบเป็นตอนๆไป ไม่มีเรื่องราวหลักอะไร

สรุปแล้ว นี่เป็นซีรีส์ญี่ปุ่นน้ำดี ที่สมควรรับชม ดูได้เพลินๆ ซึ่งทาง Netflix เอามาสร้างต่อหลังจากต้นฉบับที่ฉายทางช่อง TV Asahi ไปแล้ว 3 ซีซัน (เพิ่งเข้ามาให้ดูได้ใน Netflix เช่นกันส่วนฉบับ Original Netflix จะมี 2 ซีซันล่าสุด (และอาจจะสร้างต่ออีกก็ได้) และยังมีฉบับเกาหลีที่นำเรื่องนี้มารีเมค แต่ยังสู้ต้นฉบับญี่ปุ่นไม่ได้

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference

https://www.imdb.com/name/nm0462006/?ref_=tt_cl_t1

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!