Tencent ยักษ์ใหญ่เกมออนไลน์จีน เสียผลกำไรสูงสุดในรอบทศวรรษ!!!
เป็นสถิติและการจัดอันดับที่เชื่อว่าคงไม่มีบริษัทไหนในโลกอยากได้นัก เมื่อ บริษัท Tencent ขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 ของโลก ที่เสียผลกำไรเป็นมูลค่าสูงสุด “ในรอบทศวรรษ”
สถิติที่ไม่น่าจดจำ
มีรายงานจากหลายสำนักข่าว เช่น Reuter CNBC Bloomberg เกี่ยวกับผลประกอบการในปี 2018 ที่ผ่านมาของ บริษัทเทนเซ็นต์ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่อันดับต้น ๆ ของจีน แต่กลับสร้างสถิติที่ไม่ค่อยน่าจดจำเท่าไหร่ขึ้นมาในปีก่อน นั่นคือการเป็นบริษัทที่ต้องเสียผลกำไรไปมากกว่า 178,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และถือว่าเป็นบริษัทที่ครองแชมป์ด้านการเสียผลกำไรสุงสุดในรอบทศวรรษจากทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม เทนเซ็นต์ก็เคยสร้างสถิติเป็นบริษัทที่ผลกำไรและส่วนแบ่งการตลาดพุ่งสูงสุดเช่นกัน จากในช่วงไตรมาสแรกของปี 2018
ผลกระทบจากภายนอก
ปัจจัยที่ทำให้เทนเซ็นต์เสียผลกำไรสูงสุด ไม่ได้มาจากปัจจัยภายในเสียทีเดียว แต่ปัจจัยหลักที่วิเคราะห์กันพบว่ามาจากภายนอกเป็นหลัก โดยอันดับแรกคือ ความตึงเครียดเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ ซึ่งทางเทนเซ็นต์ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย จากการเป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซและ E-Wallet ที่ต้องการเจาะตลาดตะวันตกให้ได้
และปัจจัยสำคัญอีกข้อคือ ธุรกิจเกม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสายธุรกิจที่ทำให้เทนเซ็นต์เติบโตในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการพบว่าเข้าสู่ช่วงชะลอตัว เนื่องจากรายได้จากยอดขายเกมบนสมาร์ทโฟนมีการลดลงต่ำสุดในรอบ 13 ปี
นอกจากนี้เทนเซ็นต์ยังรับผลกระทบโดยตรงจากการสั่งแบนของรัฐบาลจีนกับ Content นำเข้าจากต่างประเทศ นั่นคือกรณีที่รัฐบาลจีนสั่งแบนเกม Monster Hunter : World ไม่ให้ทำการจำหน่ายภายในประเทศจีน ในขณะที่หลังจาก Tencent ได้เจรจาขอลิขสิทธิ์จากบริษัท Capcom เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายในจีน แต่เมื่อกระทรวงวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของจีนสั่งห้ามจำหน่าย Monster Hunter: World ในประเทศ ก็ส่งผลกระทบใหญ่หลวงที่ทำให้บริษัทต้องคืนเงินกับผู้สั่งซื้อเกมผ่านทาง Wechat นี่จึงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้พวกเขาเสียรายได้อย่างมหาศาล
ถึงกระนั้น ปัญหาเรื่องการชะลอตัวของธุรกิจเกมก็ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในวงจรทางธุรกิจที่ต้องเผชิญหน้า และน่าจะกลับคืนมาได้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี หรือพฤติกรรมของผู้บริโภค
เทนเซ็นต์ เสียผลกำไรสูงสุดแซงหน้า Netflix
ถ้าหากเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นจากทั่วโลกซึ่งเสียผลกำไรสูงสุดในอันดับรองลงมา ได้แก่ Netflix ผู้ให้บริการวีดีโอสตรีมมิ่งรายใหญ่ของโลก อยู่ที่ 142,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และอันดับถัดมาคือ Goalman Sach อยู่ที่ 86,600 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับสถานการณ์ของ Netflix ก็ถูกมองว่าน่าเป็นห่วง หลังจากมีจำนวนผู้ใช้งานลดลงในปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้ ซึ่งก็คงต้องรอดูว่า Netflix จะแก้ไขสถานการณ์ได้หรือไม่ ในขณะที่ บริษัทเทนเซ็นต์ยังมีข้อได้เปรียบใหญ่คือบริการแอพลิเคชั่น Wechat ที่ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของบริษัท ยังสามารถต่อยอดบริการและการเชื่อมต่อกับบริการอื่น ๆ ต่อไปได้อีกมาก
Wechat ของ Tencent ยังแข็งแกร่ง
บริการหลักของเทนเซ็นต์อย่างแอพลิเคชั่น WeChat ยังถือว่าเข้มแข็ง และได้รับความนิยมสุงสุดในประเทศจีน มีรายงานจากปีก่อนว่า จำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือนนั้นมีอัตราส่วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และปัจจุบันอยู่ที่ 1,058 ล้านคน
ที่สำคัญคือ บริการทางด้าน Offline ของบริษัทเทนเซ็นต์ก็มีอัตราการเติบโตขึ้นกว่าร้อยละ 280 ในปีก่อน
โดยสรุป
แม้ว่าเทนเซ็นต์จะเสียผลกำไรสูงสุดในรอบทศวรรษ แต่ก็ถือว่าบริการหลักเช่น WeChat และ Mobile Payment ยังคงมีรากฐานแข็งแกร่งในประเทศจีน ซึ่งคาดว่าเทนเซ็นต์คงต้องปรับเปลี่ยนและพัฒนา Content ใหม่ ๆ เพื่อปรับตัวกับการตลาดต่อไป โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจเกม
ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่
อ้างอิงบทความบริษัท เทนเซ็นต์ จาก gamesindustry.biz