รีวิว Ultraman อุลตร้าแมน เวอร์ชั่น Netflix – ฮีโร่ หรือ ผู้ทำลายล้าง

หลังจากก่อนหน้านี้มีกระแสดราม่าเรื่อง อุลตร้าแมน บวกกับทางผู้เขียนก็ดูเรื่อง Ultraman Netflix ที่ฉายซีซันแรกจบไปสักพักใหญ่แล้ว ก็เลยอยากนำเสนอบทความเรื่องนี้สักหน่อยครับ

ตัวอย่าง Ultraman อุลตร้าแมน ฉบับ Netflix

ถ้าอิงจากงานศิลปะที่กำลังเป็นดราม่า แล้วมีการนำเสนอว่า อุลตร้าแมนเป็นฮีโร่ ในขณะที่พระพุทธเจ้า ก็เป็นผู้โปรดสัตว์โลก แสวงหาหนทางช่วยผู้คนให้พ้นทุกข์ ก็เปรียบเสมือนฮีโร่ก็ว่าได้ แต่ที่จริงแล้ว อุลตร้าแมนเป็นฮีโร่ หรือว่าผู้ทำลายล้างกันแน่ ซึ่งประเด็นนี้ถูกนำเสนอให้ ซีรีส์อุลตร้าแมน ที่ฉายทาง Netflix มากพอสมควร

เพราะในขณะที่ อุลตร้าแมนเข้าต่อสู้กับสัตว์ประหลาดประจำตอน เมื่อต้องสู้กันในเมือง ก็จะทำให้บ้านเรือน และสถานที่ต่าง ๆ พังพินาศไปด้วย แถมเราจะเห็นน้อยมากที่อุลตร้าแมนแต่ละตัวพยายามเปลี่ยนสนามรบ บินเอาสัตว์ประหลาดไปสู้ในที่รกร้าง เรียกว่าแทบไม่มีเลย ซึ่งตรงนี้ถ้าตอบในแง่ ผู้กำกับ ก็คือ เนื่องจากเดิมที ทางค่ายซึบุราย่า สร้างอุลตร้าแมนขึ้นมาในฐานะของหนังยอดมนุษย์สู้กับสัตว์ประหลาด ซึ่งการต่อสู้กันในเมือง ทำลายสถานที่ต่าง ๆ ก็จะทำให้ดูอลังการ ระเบิดภูเขาเผากระท่อม (เสมือนหนังสไตล์ไมเคิลเบย์) ซึ่งนี่ก็เป็นจุดขายอันหนึ่งของซีรีส์อุลตร้าแมนที่ฉายกันมากว่า 60 ปี

สำหรับประเด็นในแง่ของการเป็น ฮีโร่ ที่ก็มีความเป็น ผู้ทำลายล้าง ไปในตัวด้วย ก็เริ่มมีการพูดถึงบ้างในซีรีส์บางตอน ซึ่งดูเหมือนว่าจะพยายามเน้นมากขึ้นในอุลตร้าแมนเน็กซัส และ เมบิอุส แต่ก็ยังไม่ถึงขึ้นเป็นปมประเด็นหลักของเรื่องเท่าไหร่นัก

จนกระทั่ง ซีรีส์ อุลตร้าแมน Netflix ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ดัดแปลงมาจากมังงะ เขียนเนื้อเรื่องโดย Eiichi Shimizu และวาดโดย Tomohiro Shimoguchi ผู้เคยมีผลงานจากเรื่อง Linebarrels of Iron fame ซึ่งดูเหมือนว่าซีรีส์อุลตร้าแมนชุดนี้ มีความพยายามที่จะขยี้ปมประเด็นดังกล่าวมากขึ้น รวมถึงการทำให้ผู้คนในเรื่องเริ่มตั้งคำถามว่า อุลตร้าแมนคือฮีโร่ที่ช่วยเหลือผู้คนจริง ๆ หรือเป็นมนุษย์ต่างดาวอีกตัวที่ทำลายบ้านเมืองและทำลายชีวิตผู้คนเพิ่มกันแน่ เพราะในทุกการต่อสู้กับสัตว์ประหลาด สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือความพังพินาศของสถานที่และชีวิตคน

 

สำหรับในเนื้อเรื่องเวอร์ชั่นที่ฉายใน Netflix มาจากความพยายามดัดแปลงอุลตร้าแมนให้เข้ากับสมัยใหม่ จนบางคนที่ดูอาจจะอดคิดไม่ได้ว่า มันเหมือนกับการเอา คาเมนไรเดอร์ + Ironman + Spiderman แต่ทางผู้เขียนเองก็มีความพยายามที่จะเก็บเอกลักษณ์เก่า ๆ เอาไว้ เช่น

• ท่าร้องประจำตัว
• ลำแสงสเปสเซียม
• ท่ากงจักรแสง
• ไอซ์สลักเกอร์ของเซเว่น
• ชื่อร่างมนุษย์ของแต่ละคน
• คู่ชายหญิงที่เป็นร่างของอุลตร้าแมนเอช

แล้วยังมี Easter Egg ของเรื่องราวอุลตร้าแมนในยุคเก่า ๆ เอาไว้มากเหมือนกัน ซึ่งถ้าเป็นแฟนยุคเก่าจะจำกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการจนเอาสัตว์ประหลาดและมนุษย์ต่างดาวชื่อดังกลับมาใช้ เช่น เซตต้อน มนุษย์ดาวบัลตั้น เอสคิลเลอร์ ฯลฯ หรือฉากบางอัน เช่น การตรึงกางเขนพี่น้องอุลตร้าในศึกของอุลตร้าแมนเอช

แต่ปัญหาคือ สำหรับแฟนรุ่นใหม่ ก็อาจจะไม่ได้รู้สึกร้องว้าวอะไรนัก

ส่วนในตอนจบของเวอร์ชั่น Netflix แม้ว่าจะยังไม่ได้คลี่คลายประเด็น ฮีโร่ หรือ ผู้ทำลายล้าง ของอุลตร้าแมนแบบ 100% แต่ก็ถือว่าเป็นซีรีส์อุลตร้าแมนเรื่องแรกที่กล่าเล่นประเด็นนี้แบบเต็มตัว ไม่ว่าจะเป็นการที่ประชาชนตั้งข้อสงสัยอุลตร้าแมนว่าตกลงพวกแกมาช่วยหรือมาทำลายกันแน่ และพวกตำรวจเองก็ไม่ได้เชียร์อุลตร้าแมนทุกคน ซึ่งนี่คือเรื่องตัวเอกในเรื่องก็พยายามที่จะหาคำตอบอยู่เหมือนกัน แล้วคำตอบที่ ฮายาตะ ชินจิโร่ ตัวเอกของเรื่องได้มา ถึงจะดูเรียบง่าย แต่ก็เป็นคำตอบที่อาจจะเข้ากับสถานการณ์ของโลกและชีวิตจริง ๆ ที่ไม่มีดำขาว แต่เป็นสีเทา

ซึ่งคำตอบของเขาก็คือ ถ้าคุณมีพลัง แต่ไม่ยอมลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อต่อสู้กับความอยุติธรรมและต่อสู้กับคนที่ทำร้ายคนอื่น นั่นอาจจะเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุด และเป็นผู้ทำลายตัวจริงก็ได้

สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดู แนะนำว่า เป็นอีกเรื่องที่ดูได้สนุกครับ ส่วนแฟนระดับเดนตาย ก็ไม่ควรพลาด และก็ต้องมารอดูว่าจะมี Season 2 ตามมาไหม แต่ดูเหมือนว่ากระแสตอบรับในต่างประเทศก็ใช้ได้อยู่ครับ คลิกรับชม Ultraman ได้ที่นี่

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference Website

Ultraman_Netflix_series