playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Raincoat Killer (Netflix) ฆาตกรเสื้อกันฝน สารคดีล่าฆาตกรต่อเนื่องเกาหลีสุดเหี้ยม

สรุป

ถือว่าเป็นสารคดีเรื่องหนึ่งที่ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว กับการนำเสนอในแบบที่เล่าจากปากหลายๆ ฝ่ายขนานกันไป จนมาบรรจบกันที่ร่วมมือกัน ตามล่าหาฆาตกรตัวจริงที่ทำเอาป่วนทั้งกรุงโซล แถมยังมีการตีแผ่เรื่องราวด้านเทาๆ ที่ค่อนข้างเข้าถึง แต่น่าเสียเล็กน้อยที่สารคดีไม่ได้โฟกัสหรือนำเสนอ Fact ที่น่าสนใจของตัวฆาตกรให้มากกว่านี้ แต่จะเน้นไปที่อารมณ์ต่างๆ ของผู้คนที่เกี่ยวข้องมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยจำนวนตอนที่ไม่มาก กับคุณภาพและความรู้ที่ได้รับ สารคดีเรื่องนี้คุ้มมากที่จะเปิดดูเพื่อเพิ่มรอยหยักในสมอง

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • เรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องคนแรกของเกาหลีใต้
  • การนำเสนอในแบบที่ เล่าไม่เป็นเส้นตรง ดำเนินเรื่องขนานกัน ทำให้เหมือนไม่ได้ดูสารคดี
  • เจาะลึกจากปากของคนที่เกี่ยวข้อง พร้อมตีแผ่สังคมด้านเทาๆ ของเกาหลีในยุค 2000
  • โปรดักชั่นดี เหตุการณ์จำลองประกอบยิ่งทำให้เราอินและน่าติดตาม
  • 3 ตอนจบสั้นๆ
  • มีเสียงพากย์ไทย

Cons

  • ไม่ได้นำเสนอ Fact ที่น่าสนใจเกี่ยวข้องกับตัวฆาตกรมากเท่าไหร่ จะเน้นไปในด้านอารมณ์จากปากของผู้เกี่ยวข้องหลายๆ ฝ่ายแทน

The Raincoat Killer ฆาตกรเสื้อกันฝน ล่าฆาตกรต่อเนื่องเกาหลี สารคดีจาก Netflix กับการตามล่าฆาตกรต่อเนื่องคนแรกในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ยุคใหม่ กับการสังหารโหดด้วยค้อนทำมือ ฆ่าคนเท่าที่นับได้กว่า 21 คน และอาจจะเคยลงมือถึง 100 คน สารคดีเรื่องนี้จะพามาดูการทำงานของฝ่ายต่างๆ และตีแผ่เรื่องราวในด้านต่างๆ ของสังคมว่ากว่าที่จะจับฆาตกรคนนี้ได้ ต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง

 The Raincoat Killer: Chasing a Predator in Korea (2021) on IMDb

ตัวอย่าง The Raincoat Killer

รีวิว The Raincoat Killer

ยูยองชอล หรือ Raincoat Killer ฆาตกรต่อเนื่องที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาหลี ผู้หันเหจากเส้นทางของการเป็นศิลปินสู่อาชญากรรมที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ลงมือก่อเหตุช่วงปี 2003-2004 ในสารคดีชุดนี้ก็จะค่อยๆ เล่าถึงเรื่องราวต่างๆ ทั้งฝ่ายสืบสวน การตามหาเบาะแส เชื่อมโยงต่างๆ เพื่อจับคนร้าย แต่บอกเลยว่าฆาตกรรายนี้ ทำเอาปั่นป่วนไปทั่วทั้งกรุงโซล

ตัวสารคดีเองจะเริ่มจากการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่นฝ่ายนิติเวชหญิง ที่ได้เริ่มเข้าไปทำคดีฆาตกรรมในย่านคนรวย แต่แล้วก็ดันเกิดเหตุฆาตกรรมที่คล้ายๆ กันนี้ไปทั่วทั้งกรุงโซล และจะค่อยๆ มีตัวละครที่เกี่ยวข้องโผล่เข้ามาเรื่อยๆ ทั้งฝ่ายสืบสวน หรือตัวของผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหยื่อ

ในส่วนนี้ ตัวของสารคดีจะไม่ได้ดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรง แต่จะค่อยๆ พาเราไปทำความรู้จักกับสังคมของเกาหลี และการทำงานของตรวจสมัยนั้น เหมือนกับนำเสนอสองด้านที่ขนานกันไป จนมันมาบรรจบกันที่คดีที่น่าจะคล้ายคลึงกัน และหลายๆ ฝ่ายก็ต้องร่วมมือกันหาตัวคนร้ายตัวจริงให้ได้

ความน่าสนใจมันอยู่ที่ว่า นอกจากตัวคนร้ายจะเป็นฆาตกรต่อเนื่องคนแรกในเกาหลี เขายังมีวิธีการฆ่าและลงมือได้โหดเหี้ยม ฆ่าไปหลายศพ ในอีกด้านหนึ่งก็เป็นการตีแผ่สังคมในมุมเทาๆ ของเกาหลีในยุคนั้น จากปากของผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดี ทำให้เราได้เห็นมุมมองหลายๆ มุมและพบว่าเขากล้าที่จะนำเสนอ เช่นการสัมภาษณ์นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของเกาหลี ที่ประณามการทำงานของตำรวจในยุคนั้นแบบตรงๆ ว่าไร้น้ำยา หรือการไปสัมภาษณ์ผู้กำกับตำรวจหญิง ที่ดูแลคดีและต้องการจะช่วยเหลือหญิงบริการทางเพศ แต่ต้องมาเจอกับคดีฆาตกรต่อเนื่อง

และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือผู้ให้ข้อมูลสัมภาษณ์ โปรไฟเลอร์คนแรกของเกาหลีใต้ ซึ่งโปรไฟเลอร์นั้น ถ้าเคยดูหนังสืบสวนก็จะคุ้นเคยกันดี คนที่ทำงานตำแหน่งนี้จะทำหน้าที่วิเคราะห์สิ่งต่างๆ เพื่อสร้างโปรไฟล์ที่น่าจะเป็นและตรงกับฆาตกรมากที่สุดจนจับคนร้ายได้ และการทำงานในฐานะโปรไฟเลอคนแรกแห่งเกาหลีใต้ก็น่าสนใจ ในยุคที่เทคโนโลยี กับวัฒนธรรมยังไม่ทันสมัยเท่าปัจจุบัน

The Raincoat Killerนอกจากจะเป็นการสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องฝ่ายต่างๆ เอามาเรียงร้อยกันแบบไม่ได้เป็นเส้นตรงมาก ประกอบกับฉากจำลองที่ทำขึ้นมาใหม่ มันเลยเหมือนกับการที่เราดูซีรีส์แนวสืบสวน ไม่ค่อยรู้สึกว่าเรากำลังดูสารคดีอยู่ แถมจำนวนตอนมีเพียง 3 ตอน เผลอแปบเดียวก็สามารถดูจนจบแล้ว

สิ่งที่ทำได้ดีมากในสารคดีชุดนี้เลยก็คือ การสื่อถึงอารมณ์ของผู้ที่ประสบมาแบบเรียลๆ จนเรารู้สึกขนลุก และยิ่งดูจนจบเราก็จะเห็นถึงพัฒนาการของเจ้าหน้าที่ในเรื่อง อย่างฝ่ายนิติเวชหญิงที่เธอต้องทำการนำนิ้วของศพที่กำลังเละ มาหาลายนิ้วมือ จนในตอนท้ายเธอได้กลายเป็นหัวหน้าหน่วยและผู้เชี่ยวชาญด้านลายมือ หรือตลกร้ายที่เกิดขึ้นกับหัวหน้าหน่วยสืบสวนเคลื่อนที่ที่ตั้งใจทำคดี แต่กลับถูกลดขั้นเพราะสื่อ

กลับกัน ในการนำเสนอทางด้านของฝั่งฆาตกรหรือคดีที่เกิดขึ้น ก็มีความละเอียดและน่าติดตามในระดับหนึ่ง ยิ่งเรารู้เรื่องของฆาตกรคนนี้ยิ่งทำให้คิดว่าน่าเหลือเชื่อ ยังกับเซ็ตฉากในซีรีส์ แต่มันดันเป็นเรื่องจริง แต่ทว่าน่าเสียดายที่ตัวสารคดี ไม่ได้ลงลึกไปถึงก้นบึ้งจิตใจฆาตกร ไม่ได้นำเสนอใแง่ของมุมมองด้านจิตวิทยา หรือประวัติส่วนตัว แถมหน้าของฆาตกรในสารคดียังถูกปิดอีกด้วย คาดว่าสาเหตุที่ต้องทำแบบนี้ เพื่อป้องกันทางด้านการฟ้องร้องทางกฏหมาย เพราะปัจจุบัน ตัวฆาตกรคนนี้ก็ยังมีชีวิตอยู๋ในคุก รอวันประหารอยู่

รายละเอียดอื่นๆ ที่น่าสนใจของฆาตกร นอกจากจะใช้อาวุธค้อนทำมือ ฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยม ทุบจนสมองไหล หรือการลงมือล่อเหยื่อโสเภณีมาเชือดที่ห้องแล้วหั่นศพ พวกข้อมูลที่ว่าฆาตกรกินเนื้อคน อะไรพวกนี้ กลับไม่ถูกหยิบมานำเสนอเท่าไหร่ ค่อนข้างน่าเสียดาย จะเน้นไปที่อารมณ์ ความรู้สึก และข้อมูลจากคนฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือได้รับผลกระทบกับคดีมากกว่า

เราจะไม่ได้เห็นฉากฆาตกรรมจากเหตุการณ์จริง ไม่มีฉากโหดๆ หรือภาพศพแหวะๆ ถ้าหากใครกังวลเกี่ยวกับฉากพวกนี้ก็สบายใจหายห่วง และเรตผู้ชมของสารคดีชุดนี้อยู๋ที่ 16+ ไม่ได้รุนแรงมาก เพียงแค่มีฉากประกอบให้เข้ากันกับเรื่องราวที่คนต่างๆ เล่าออกมาเท่านั้น แต่แค่นี้มันก็ทำให้เราจิตนาการภาพได้แล้วก็คิดว่า ดีแล้วล่ะที่มันไม่ให้เราได้เห็นฉากพวกนั้น เพราะการลงมือของฆาตกรมันโหดเหี้ยมจริงๆ

และความดีงามอีกอย่างหนึ่งของสารคดีเรื่องนี้คือ มีพากย์ไทยให้รับชมกันด้วย ใครไม่อยากเปิดอ่านซับ เปิดเสียงไทยก็โอเคเลย

ถือว่าเป็นสารคดีเรื่องหนึ่งที่ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว กับการนำเสนอในแบบที่เล่าจากปากหลายๆ ฝ่ายขนานกันไป จนมาบรรจบกันที่ร่วมมือกัน ตามล่าหาฆาตกรตัวจริงที่ทำเอาป่วนทั้งกรุงโซล แถมยังมีการตีแผ่เรื่องราวด้านเทาๆ ที่ค่อนข้างเข้าถึง แต่น่าเสียเล็กน้อยที่สารคดีไม่ได้โฟกัสหรือนำเสนอ Fact ที่น่าสนใจของตัวฆาตกรให้มากกว่านี้ แต่จะเน้นไปที่อารมณ์ต่างๆ ของผู้คนที่เกี่ยวข้องมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยจำนวนตอนที่ไม่มาก กับคุณภาพและความรู้ที่ได้รับ สารคดีเรื่องนี้คุ้มมากที่จะเปิดดูเพื่อเพิ่มรอยหยักในสมอง

รับชม The Raincoat Killer ฆาตกรเสื้อกันฝน ล่าฆาตกรต่อเนื่องเกาหลี ได้ทาง Netflix แล้ววันนี้

อ่านรีวิวหนัง/ซีรีส์เรื่องอื่น ได้ที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!