playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว You’ve Got This คุณพ่อตัวสำรอง หนังรักจากเม็กซิกัน

You've Got This

สรุป

You’ve Got This หนังรักจากเม็กซิโกที่มาในประเด็นความเห็นขัดแย้งระหว่างสามีที่อยากมีลูก กับภรรยาที่ยังคงมุ่งมั่นกับงาน น่าเสียดายที่มันนำเสนออย่างขาดชั้นเชิง

Overall
5.5/10
5.5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • หนังโรแมนติคจากเม็กซิโก ที่นำเสนอประเด็นร่วมสมัยในครอบครัวยุคนี้ ว่าด้วยการอยากมีลูก และไม่ต้องการมีลูก
  • สองนักแสดงที่แสดงกันได้อย่างเข้าขาตรงกัน

Cons

  • ประเด็นมีลูก ถูกยกมาบ่อยพร่ำเพรื่อ
  • บทสรุปที่พยายามทำให้ทุกอย่างลงเอยอย่างง่ายดาย
  • แต่ผลลัพธ์กลับขาดชั้นเชิง และความสมเหตุสมผล

เมื่อกล่าวถึงวงการภาพยนตร์จากเม็กซิโก ชื่อที่มักถูกยกมาเสมอย่อมไม่พ้น 3 ผู้กำกับที่โด่งดังระดับโลกในช่วงไล่เลี่ยกัน ทั้งสามต่างมีสไตล์ที่โดดเด่นแต่ก็ให้คำปรึกษากันในฐานะเพื่อน มุ่งมั่นที่จะพัฒนาวงการหนังเม็กซิโกให้เป็นที่ยอมรับ ก่อนจะคว้ารางวัลสำคัญอย่างออสการ์ทั้งสามคน ได้แก่ อเลฮานโดร กอนซาเลส อินาร์ริตู(Birdman), อัลฟองโซ คัวรอน(Gravity และ Roma) และ กุยเลอร์โม เดล โทโร่(The Shape of Water) แต่ในอีกด้านตลาดหนังเม็กซิโกส่วนใหญ่ก็เป็นหนังที่เข้าถึงคนวงกว้าง ดูง่ายเช่นเดียวกับ Ahi te Encargo หรือ You’ve Got This และในชื่อไทยว่า “คุณพ่อตัวสำรอง” หนังออริจินอล เน็ตฟลิกซ์ แนวโรแมนติคจากเม็กซิโกเรื่องนี้

 You've Got This (2020) on IMDb

ตัวอย่างภาพยนตร์ You’ve Got This คุณพ่อตัวสำรอง

เม็กซิโก เป็นตลาดภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ในทวีปอเมริกาเหนือ และใหญ่ที่สุดในแถบละตินอเมริกา ที่สำคัญคือการสร้างหนังเม็กซิโกยังเจาะตลาดในสหรัฐอเมริกาได้ด้วย เนื่องจากประชากรชาวเม็กซิโกที่อพยพเข้ามาเริ่มกลายเป็นกลุ่มผู้ชมกลุ่มหนึ่งในประเทศ หนังที่เจาะตลาดคนดูกลุ่มนี้อย่าง How to Be a Latin Lover(2017) หรือ Dora and the Lost City of Gold(2019) ต่างประสบความสำเร็จทั้งในสหรัฐฯ และเม็กซิโกได้อย่างน่าพอใจ ซึ่งอย่างที่กล่าวไว้ว่าหนังกลุ่มนี้ขายคนดูวงกว้าง เน้นความบันเทิง และขายเสน่ห์นักแสดงนำทั้งชายหญิงได้ดี ผ่านประเด็นที่เป็นสากล ทว่าขาดชั้นเชิงที่เพิ่มความลึกให้กับเรื่องราวไปอย่างน่าเสียดาย

อเลฮานโดร(มอริซิโอ อ๊อกมานน์) ครีเอทีฟหนุ่มและ ซิซิเลีย(เอสเมอรานด้า พิเมนเทล) ทนายความที่กำลังประสบความสำเร็จ คบหาและแต่งงานกันเป็นเวลา 7 ปี พวกเขากำลังคู่รักที่กำลังใช้ชีวิตกันอย่างหวานชื่น แม้จะมีความเห็นเรื่องการมีลูกที่ไม่ตรงกันสักนิด คนหนึ่งต้องการเป็นพ่อคนโดยเร็ว เขารักเด็ก และเชื่อว่าตนทำหน้าที่เลี้ยงลูกได้ดี ผิดกับฝ่ายหญิงที่ไม่เคยคิดถึงเรื่องดังกล่าว เธอแต่งงานเพราะรักอเลฮานโดร แม้จะไม่ได้ใส่ใจเรื่องเหล่านี้ แต่ก็พบว่ามีความสุขกันดี ยกเว้นทัศนคติดังกล่าว

วันหนึ่งความอยากมีลูกของฝ่ายชายก็ก่อปัญหาใหญ่ เมื่อเขาเคยรับปากอลิเซีย สาวเสริ์ฟในบาร์แห่งหนึ่งที่ยังเป็นสาวรุ่นอายุไม่ถึง 20 ปี แต่ต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกน้อยอายุเพียง 1 ขวบเพียงลำพัง แล้วเธอก็ยกอลัน ลูกน้อยให้เขาทำหน้าที่พ่อมือใหม่จำเป็นอย่างกะทันหัน ขณะที่ภรรยาของเขากำลังขึ้นสู่จุดสูงสุดของอาชีพด้วยการเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ก่อตั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ตนทำงาน

อลิเซียสัญญาว่าจะฝากลูกของเธอเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น แต่แน่นอนว่าไม่มีอะไรง่ายดายอย่างที่คิด

แม้ You’ve Got This  จะเป็นหนังเม็กซิโก แต่โดยวิธีการเล่านั้นมีความเป็นโรแมนติค-คอเมดี้ ที่เคยได้รับความนิยมสร้างในสหรัฐอเมริกา เห็นได้จากวิถีชีวิตของพระ-นางของเรื่อง ที่อยู่บ้านตกแต่งสมัยใหม่ ภรรยาเตรียมสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับอเลฮานโดรด้วยการแต่งชุดหนังเซ็กซี่ รวมไปถึงบริษัที่พวกเขาทำงานที่วิถีชีวิต หรือการออกแบบไม่ได้ต่างกับออฟฟิศในซีรี่ส์อเมริกา สะท้อนให้เห็นความเจริญก้าวหน้าในเม็กซิโกซิตี้ มีเพียงอาหารการกิน สถานที่นัดพบปะเพื่อนฝูง หรือการจัดงานเลี้ยงที่พอจะให้เห็นวัฒนธรรมที่ต่างออกไป

แน่นอนว่าประเด็นของเรื่องก็เป็นเรื่องสากล และร่วมสมัยกับคนยุคมิลเลนเนียล ที่นำเสนอความขัดแย้งระหว่างการมีวิถีครอบครัวแบบเก่า ของคนที่อยากมีลูก กับครอบครัวแบบใหม่ ที่แต่งงานกันโดยไม่ต้องการมีบุตร ด้วยเหตุผลหลากหลาย ไม่ว่าจะด้วยค่าใช้จ่าย ไปจนถึงเรื่องการสร้างมลภาวะให้กับสิ่งแวดล้อม ซึ่งก็ล้วนถูกนำมาถกเถียงกันในหนังเรื่องนี้

ที่น่าสนใจคือในขณะที่หนังในอดีต ผู้ชายที่ทำตัวเหมือนเด็กไม่รับผิดชอบคือผู้ชายที่ไม่อยากมีลูก แต่ในหนังเม็กซิโกเรื่องนี้เปลี่ยนกลับหัวกลับหางเสียงใหม่ อเลฮานโดรเป็นหนุ่มกีคบ้าสะสมของเล่นโมเดลจากหนังและการ์ตูน ซึ่งพฤติกรรมความอยากมีลูกของเขาถูกยกว่าเป็นการดื้อรั้นที่ไม่รู้จักโตแทนที่ ซ้ำร้ายผู้ชายที่บ่นอยากมีลูก พอบทได้รับผิดชอบก็เลี้ยงเด็กไม่ได้เก่งกาจอย่างที่คิด เป็นการคิดไปเองแท้ๆ

หนังหาบทสรุปได้อย่างน่าพอใจ กับแนวคิดที่สุดท้ายความขัดแย้งทุกอย่างย่อมแก้ไม่ได้จากความเห็นของคนอื่น แต่เกิดจากการพูดคุยอย่างเปิดอกระหว่างสามีภรรยา หรือคนรักกัน ความเห็นต่างก็จะหาข้อยุติได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามส่วนที่เหลือของหนังถูกเล่าอย่างพึ่งพาประเด็นเดียวมากเกินไป เราจึงเห็นอเลฮานโดรหมกมุ่นพูดเรื่องการอยากมีลูกอย่างน่ารำคาญ พูดแล้วพูดอีก จนไม่แปลกที่ซิซีเลีย และเพื่อนของเธอจะมองเขาเป็นคุณพ่อหัวโบราณ แม้หนังจะเผยปมในวัยเด็กของเขาเอาไว้ในเวลาต่อมา หรือการบอกสาเหตุที่อลิเซียหายไปอย่างที่เราต้องใจอ่อนก็ตาม ยิ่งเมื่อคิดว่าพวกเขาทั้งคู่ล้วนเป็นชนชั้นกลางที่มีอันจะกิน และภรรยากำลังมีการงานที่ก้าวหน้าเช่นนั้น ทำให้อดคิดไม่ได้จริงๆ ว่าสิ่งที่เขาทำทั้งเรื่องนั้นเป็นการหาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ

อีกประเด็นที่หนังแทรกเข้ามาคือด้านมืดในสังคมเม็กซิโก ขณะที่อเลฮานโดรตามหาซิซิเลีย ทั้งครอบครัวที่เคร่งศาสนาอย่างไร้เหตุผล หรือปัญหาชีวิตของชนชั้นล่างที่แสดงให้เห็นความแตกต่างทางฐานะอย่างมากของผู้คนที่นั่น รวมไปถึงอาชญากรรมกับเด็กที่ไม่ต่างจากบ้านเรา แต่สุดท้ายหนังก็เพียงยกมาผ่านๆ ไม่ได้สานต่อเรื่องใดเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตามหากไม่นับข้อด้อยดังกล่าว การชมเรื่องราววุ่นๆ ของสามีภรรยาสวยหล่อ โดยการแสดงที่เคมีต้องตรงกันอย่าง มอริซิโอ อ๊อกมานน์ กับ เอสเมอรานด้า พิเมนเทล โดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่เผยเสน่ห์เย้ายวนในแบบสาวละตินอย่างโดดเด่นในเรื่องนี้ ก็นับเป็นงานที่ดูได้เพลินๆ 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!