playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

สปอย Attack on Titan 139 ตอนจบ บทสรุปไททัน อิสรภาพต้องสู้เพื่อแลกมา

Attack on Titan 139 สปอย เดินหน้าต่อไป ที่ต้นไม้ใหญ่บนเนินแห่งนั้น บทสรุปของการต่อสู้ที่แสนยาวนานกว่า 11 ปีของ อิซายามะ ฮาจิเมะ เมื่ออิสรภาพคือสิ่งจะต้องต่อสู้เพื่อให้ได้มา ชีวิตยังคงดำเนินต่อไป

อ่านคำแปล สปอย บทวิเคราะห์ ได้เลยครับ และอย่าลืมอุดหนุนฉบับลิขสิทธิ์ จากสำนักพิมพ์ วิบูลกิจ ทั้งหมดออกมา 33 เล่มแล้ว

Attack on Titan 139 สปอย ตอนจบ เอเรน มิคาสะ อาร์มินAttack on Titan 139 สปอย เนื้อหาตอนก่อน

สปอยตอนอื่นๆ ดูได้ที่ สปอย Attack on Titan ตอนอื่นๆ

ส่วนสปอยตอนก่อนหน้านี้ อ่านได้ที่

สปอย Attack On Titan 138 ความฝันแสนยาวนาน บทสรุปการต่อสู้ + วิเคราะห์เรื่องวนลูป

หลังจากเรื่องราวในตอนก่อน การต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างกลุ่มพันธมิตรของพวก มิคาสะ อาร์มิน ลีไว ไรเนอร์ แอนนี่ ฟัลโก้ กาบิ แจน คอนนี่ พีค หลังจากได้ต่อสู้กับเอเรนจนทุกอย่างน่าจะคลี่คลายได้แล้ว แต่สถานการณ์กลับพลิกผันไปเมื่อ เอเรนฟื้นพลังกลับมาแล้วเปิดศึกกับไททันอาร์มิน ส่วนมิคาสะก็ได้รับความทรงจำส่วนหนึ่งที่ดูเหมือนว่าถูกปิดกั้นเอาไว้มานานแล้วมันก็กลับมาเข้ามาความคิดของเธอได้ ทำให้เธอได้รู้ความจริงว่า ที่จริงแล้วเอเรนและเธอเคยได้ใช้ชีวิตร่วมกันมาแล้วในโลกอีกเส้นทางหนึ่ง

แต่ทางเลือกของเส้นทางนั้นทำให้ชาวเกาะพาราดีต้องพบหายนะ ฮิสทอเรียต้องตกในนรกทั้งเป็น และอาร์มินก็ได้แต่ตามหาพวกเขา ดังนั้นในมิคาสะจึงตัดสินใจที่จะบุกเข้าไปจัดการบั่นศีรษะของเอเรนเพื่อยุติเรื่องราวทั้งหมดลง โดยมียูมีร์ที่เฝ้าดูด้วยรอยยิ้ม และเรื่องราวก็เข้าสู่บทอวสานในตอนนี

Attack on Titan 139 สปอย แปล

เปิดฉากมาในตอนอวสาน เราจะได้เห็นเอเรนและอาร์มินในวัยเด็กนั่งคุยกันอยู่ใน Path ซึ่งเหตุการณ์นี้ที่จริงแล้วเกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้าที่อาร์มินและพวกจะบุกเข้าถึงตัวเอเรน

อาร์มิน : เอเรน ฉันเข้าใจว่านายต้องทำเรื่องทั้งหมดนี้เพราะนายเห็นอนาคตด้วยพลังของไททันจู่โจมก็จริง แต่ทำไมนายถึงต้องเล่นงานฉันซะน่วมแบบนั้นด้วย ไอ้ที่นายตีเข่าและกระทืบฉันมันจำเป็นด้วยรึไง (5555555555555)

เอเรน : ฉันทำแบบนั้นเพราะต้องการผลักให้พวกนายออกไปจากสิ่งที่ฉันจะต้องทำต่อไป ดังนั้นฉันขอโทษ

อาร์มิน : นายควรขอโทษมิคาสะ ไม่ใช่ฉันโว้ย ยิ่งหลังจากที่นายพูดจาทำร้ายจิตใจเธอ

เอเรน : นายพูดถูก

อาร์มิน : เอเรน…นายกันฉันออกไปเพราะต้องการจัดฉากให้พวกเราเป็นฮีโร่ที่ช่วยมนุษยชาติจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุใช่ไหม

เอเรน : ใช่ พวกนายทุกคนจะกลายเป็นผู้ช่วยเหลือมนุษน์ให้รอดชีวิตจากการทำลายล้าง พวกเขาจะพูดกันว่า “แม้แต่พวกปีศาจจากเกาะ” ก็ยังต่อต้านการฆ่าล้างมนุษย์ ฉันหวังว่าโลกนี้จะยกย่องพวกนายทุกคนหลังจากนั้น

อาร์มิน : แต่…ฉันคิดว่านายต้องการปกป้องชาวเกาะจากโลกภายนอก แล้วก็ทำเหมือนตระกูลไทเบอร์ที่เคยทำไว้ในมหาสงครามไททัน

เอเรน : พวกเขาจะไม่แก้แค้นชาวเอลเดียในเร็วๆนี้หรอกนะ เพราะ 80% ของมนุษยชาติถูกฆ่าล้างไปจากพิภพคำราม พวกเขาจะไม่สามารถโจมตีชาวเกาะได้เร็วๆนี้แน่นอน

อาร์มิน : ……………นายจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้จริงๆเหรอ แล้วทั้งหมดนั่นก็เพื่อพวกเราจริงเหรอ

เอเรน : เดินไปคุยไปกันเถอะ แล้วไปดูสถานที่ที่นายอยากไปเห็นมาตลอด และเรื่องราวของยูมีร์

ทั้งสองคนเดินไปดูสถานที่ในโลก ที่ภูเขาไฟแห่งหนึ่ง แม้แต่เอเรนก็ยังทึ่งกับสิ่งที่เห็น อาร์มินก็ได้แต่ยืนตะลึง

เอเรน : 2,000 ปีก่อน บรรพบุรุษยูมีร์ได้พลังไททันมา แต่ก็ยังคงยอมรับใช้ราชาฟริตซ์ เธอยอมแม้กระทั่งใช้พลังไททันเพื่อจัดการเหล่าศัตรู ทั้งที่ราชาสังหารพ่อของเธอและตัดลิ้นเธอออก

อาร์มิน : ทำไมเธอถึงเลือกทำอะไรแบบนั้น

เอเรน : ฉันได้พบกับเธอใน Path……เลยได้เข้าใจทุกอย่าง มันทำใจเชื่อยากนะ แต่ยูมีร์ หลงรัก คาร์ล ฟริตซ์

อาร์มิน : หา….

เอเรน : นี่แหละคือสาเหตุแท้จริงที่ยูมีร์ต้องติดอยู่ใน Path มาตลอด 2,000 ปี ฉันก็ไม่เข้าใจหรอกนะว่าลึกๆแล้วเธอคิดยังไงกันแน่ แต่ฉันมั่นใจว่าเธอทุกข์ทรมานกับเรื่องนี้และปรารถนาอิสรภาพ เธอเฝ้ารอมาตลอด 2,000 ปี หวังว่าจะมีใครสักคนมาช่วยปลดปล่อยเธอจากความรักที่เจ็บปวดนี้ และในที่สุด เธอก็ได้พบ….คนๆนั้นก็คือ มิคาสะ…

อาร์มิน : เดี๋ยวนะ มิคาสะเรอะ

เอเรน : ใช่ ไม่ได้ฟังรึไง

อาร์มิน : ทำไมต้องมิคาสะ

เอเรน : นั่นสิ คงมีแต่ยูมีร์ที่รู้….ฉันเองก็ยังสงสัยนะว่า มิคาสะจะเลือกทำอะไรต่อไป แม้แต่ฉันเองก็ไม่รู้ (น่าจะหมายถึงที่มิคาสะตัดใจลงมือฆ่าเขา) ทั้งหมดที่ฉันแน่ใจคือ สุดท้ายแล้วมิคาสะกลายเป็นผู้ถูกเลือก ทุกอย่างที่ฉันลงมือทำมาจนถึงตอนนี้ก็เพื่อมาให้ถึงบทสรุปที่ว่านี้แหละ ฉันยอมฆ่าล้างผู้คนไปกว่า 80% ดึงพรรคพวกทุกคนเข้ามาเกี่ยวข้องในสงครามที่ฉันก็ไม่รู้ว่าพวกเราจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่

อาร์มิน : ถ้าอย่างนั้นในอนาคตที่นายเห็น สิ่งที่นายแบกรับไว้ มันคงเป็นเรื่องทุกข์ทรมานมากสินะ

เอเรน : อาร์มิน พลังไททันที่ฉันถือครองมันส่งอิทธิพลต่อทั้ง อดีต ปัจจุบัน อนาคต ทุกอย่างมันปนเปเข้ามาในเวลาเดียวกัน…ในวันนั้นที่กำแพงแตก…แบร์โทลท์ ที่คืนร่างกลับไม่ถูกไททันที่กรูเข้ามาฆ่าตาย รู้ไหมว่าทำไม เพราะฉันปล่อยให้…ไดน่า…เข้าไปในกำแพง…

(เอเรนปล่อยให้ไดน่าเข้าไปกินแม่ตนเอง เพื่อทำให้เอเรนในวัยเด็กแค้นพวกไททัน และช่วยชีวิตแบร์โทลท์ ทั้งหมดเพื่อจัดฉากเรื่องราวให้มาถึงปัจจุบัน เพราะถ้าแบร์โทลท์ตายไปก่อน พลังไททันมหึมาจะไม่สามารถส่งต่อมาถึงอาร์มิน ซึ่งจะเป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญในการจัดการกับเอเรน และอาจจะไม่สามารถช่วยชีวิตอาร์มินได้ด้วย)

อาร์มินจับมือเอเรน ชวนให้ไปดูฉากต่อไปกันต่อที่มหาสมุทร

อาร์มิน : แล้ว…นายคิดยังไงกับมิคาสะ นายคิดว่าเธอจะสามารถลืมนายแล้วใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับใครบางคนไหม เหมือนที่นายต้องการ

เอเรน : อืม…ฉันไม่รู้หรอกนะ

อาร์มินจัดกำปั้นใส่เอเรน (เหมือนต่อยเอเรนแทนคนอ่าน 555555)

อาร์มิน : อย่ามางี่เง่านะโว้ยยยยยย ฉันยังไม่ยกโทษสิ่งที่นายพูดกับเธอหรอกนะ นายคิดว่าเรื่องมันง่ายๆแค่บอกว่า ลืมฉันซะ หรือไงฟะ นี่คือมิคาสะนะ คนที่ยอมสละชีวิตตนเองออกไปต่อสู้เพื่อนายมาตลอด!!!! แต่แบบนี้ อย่างน้อยมิคาสะก็จะลืมเรื่องที่นายทำร้ายจิตใจเธอ แล้วพบความสุขในชีวิต สักวันเธออาจจะพบใครสักคนแล้วใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

เอเรน : ไม่

อาร์มิน : หา

เอเรน : ฉันไม่เอาโว้ยยยยย ฉันอยากให้เธอยังคงรักฉันอยู่ ฉันไม่อยากให้เธอไปเจอผู้ชายคนอื่น แม้หลังจากฉันตายไปแล้ว ฉันก็อยากให้เธอคิดถึงแต่ฉันไปอีกหลายปี!!!

(เอเรน เอ็งมันก็ยังคงเป็น เอเร๊นนนนนเอเรน จริงๆ)

อาร์มิน : อ๊ะ งั้นเหรอ…. ฉันไม่รู้ว่านายจะพูดอะไรที่น่าสมเพชแบบนั้นออกมา

(อาร์มินเหมือนโล่งใจปนสังเวชเล็กๆที่ได้เห็นเพื่อนมันกลับมาเป็นเอเรนคนเดิม)

เอเรน : ได้โปรดอย่าเล่าให้มิคาสะฟังนะ ฉันอยากให้เธอมีชีวิตสงบสุขไปนานๆ แต่…อ้า..บ้าจริง…ฉันไม่ได้อยากตายสักหน่อย ฉันอยากใช้ชีวิตไปพร้อมกับมิคาสะ และกับพวกนายทุกคน

อาร์มิน : …..เอเรน!!!! อย่าเพิ่งยอมแพ้ มาหาทางอื่นด้วยกันเถอะ มันต้องมีหนทางอื่นแน่

เอเรน : ฉันทำไม่ได้…ทุกคนเองก็ไม่ได้อยากตาย และสิ่งที่ฉันเพิ่งทำลงไป คงไม่ได้รับการให้อภัยแน่ๆ

ภาพถูกตัดไปให้เห็นสภาพของเมืองแห่งหนึ่งที่ถูกเหยียบจนราบคาบ ไม่เหลือแม้กระทั่งเศษซากของสิ่งก่อสร้างหรือแม้กระทั่งพืชเล็กๆ

เอเรน : ฉันทำลายทุกอย่าง ทำลายหลายเมืองบนผืนโลก จนแทบจะกลายเป็นเศษซาก ฉันทำลายผืนป่าไปมากมาย ในอีกไม่กี่วัน บนผืนแผ่นดินจะเต็มไปด้วยเหล่าแมลงที่ออกมากินซากศพที่หลงเหลืออยู่ สิ่งที่ฉันทำ จะทำให้แผ่นดินผลัดเปลี่ยนไปใหม่

อาร์มิน : แต่ทำไม…

ภาพของ กรีช่าตอนที่ตั้งชื่อเอเรนที่เพิ่งคลอดผุดขึ้นมา เอเรน นี่คือชื่อของลูก ลูกเป็นอิสระ (ภาพร่างที่อิซายามะเคยบอกว่าจะใส่ในตอนจบ ถูกเอามาใส่ไว้ตรงนี้)

เอเรน : เอาจริงๆนะ ฉันไม่รู้หรอกว่าทำไม ฉันต้องทำลายโลก แต่ฉันต้องทำ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม…

(โคตรย้อนแย้ง เอเรนทำๆลงไปโดยที่ลึกๆแล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องทำขนาดนี้ไปเพื่ออะไร จะว่าไปก็เพราะตัวเขาในอนาคตเข้ามาแทรกแซงเจตจำนงก็เป็นได้ หรือเอาจริงๆคือ ทำๆไปนั่นแหละ เมื่อเริ่มแล้วก็ต้องทำ สุดท้ายก็เลยเถิด เบรกไม่อยู่แล้ว ชีวิตคนเรามีแบบนี้เยอะ)

เอเรน : หมดเวลาแล้ว ฉันจะลบความทรงจำทั้งหมดของนายที่คุยกับฉันอยู่ที่นี่ ครั้งหน้าที่พวกเราเผชิญหน้ากัน พวกเราจะเข่นฆ่าอีกฝ่ายกัน แต่เมื่อทุกอย่างจบสิ้นลง นายก็จะจำทุกอย่างได้อีกครั้ง

อาร์มิน : เอเรน ขอบใจนะ ที่ยอมเสียสละตัวนายกลายเป็นฆาตกรฆ่าล้างเผ่าพันธุ์…เพียงเพื่อพวกเรา…ฉันสาบานว่าจะไม่ปล่อยให้ทั้งหมดนี้สูญเปล่าแน่นอน

ทั้งสองเข้ากอดกัน

เอเรน : ฉันไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากตายไปแล้ว แต่ฉันรู้ว่านายสามารถข้ามพ้นกำแพงได้แน่ คนที่จะช่วยเหลือมนุษยชาติ คือนายนะ อาร์มิน

แล้วภาพก็ย้อนกลับไปเหตุการณ์ตอนที่อาร์มินที่ขึ้นเรือจะเดินทางไปเผชิญหน้ากับเอเรน แสดงให้เราเห็นว่า เอเรนเข้ามาติดต่อกับอาร์มินใน Path ตั้งแต่เวลานั้นแล้ว ตรงนี้จะมีภาพของนกสกัวเยเกอร์ที่บินผ่านไป

ภาพตัดมาที่เหตุการณ์ในศึกสุดท้าย อาร์มินที่เสร็จศึกและคืนกลับร่างเดิมได้ฟืนขึ้นมา มิคาสะอุ้มศีรษะของเอเรนเดินตรงเข้ามา อาร์มินได้แต่ร่ำไห้ เพราะตอนนี้ความทรงจำทั้งหมดในช่วงที่คุยกับเอเรนได้กลับคืนมาแล้ว

มิคาสะ : อาร์มิน ความทรงจำของเธอกลับมาแล้วสินะ…เมื่อวันที่เอเรนเข้ามาหาพวกเรา

อาร์มิน : ใช่…ฉันจำได้หมดแล้ว ผลลัพธ์จากการเลือกของนาย…ทำให้พลังไททันสลายสิ้นไปจากโลกนี้แล้ว

ภาพแสดงให้เห็นไททันหนอนยักษ์ที่เป็นต้นเหตุของพลังไททันกำลังสลายไป และทุกคนที่เป็นไททันกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง

แจน : ฉันจำได้แล้ว…ไอ้งี่เง่ารีบไปตายเอ๊ย..

ไรน์เนอร์ : เอเรน คนอย่างนายนี่มัน…

คอนนี่ : เอเรนบอกว่า…แม่ของฉันจะกลับคืนร่างเป็นมนุษย์ได้…

แอนนี่ : …หมอนั่นบอกให้พวกเรา…มีชีวิตอยู่ต่อไปนานๆ…แล้วนายล่ะ เราไม่เคยขอให้นายมาช่วยแบบนี้นะ ไอ้บ้าเลือดร้อนงี่เง่า…

พีค : อ้า…ฉันก็อยากคุยกับเขาเหมือนกันนะ

แอนนี่วิ่งเข้าไปกอดกับพ่อของเธอ ส่วนฟัลโกร้องหากาบิ ด้านลีไวก็นั่งพิงโขดหิน เฝ้ามองหลายสิบร่างที่ปรากฏตัวออกมาจากในหมอกที่เกิดขึ้นจากการสลายไปของไททัน พวกเขาคือเหล่าสมาชิกหน่วยสำรวจที่พลีชีพไปตั้งแต่อดีตจนถึงวันนี้

ลีไว : ไง…พวกนาย เห็นแล้วใช่ไหม…ดูเหมือนทุกอย่างจบลงแล้ว เป้าหมายที่พวกนายทุกคนยอมถวายดวงใจให้….

แล้วร่างของเหล่าอดีตสมาชิกหน่วยสำรวจก็ทำท่าถวายดวงใจ พร้อมกับสลายไป พร้อมกับสัญลักษณ์ปีกแห่เสรีภาพของหน่วย เป็นอันว่าหน่วยสำรวจที่สืบทอดปณิธาน ต่อสู้เพื่อเสรีภาพ พวกเขาทำสำเร็จ และหน่วยสำรวจก็เป็นอันจบสิ้นลงในวันนี้ ลีไวยกมือขึ้นถวายดวงใจ และหลั่งน้ำตาออกมาเป็นครั้งสุดท้าย แต่มันคงเป็นน้ำตาแห่งความยินดีที่เป้าหมายของเขาและเหล่าสมาชิกหน่วยที่พลีชีพไปมากมาย ไม่ได้เสียเปล่า คำถามของลีไวได้รับคำตอบแล้วในตอนนี้

และตามด้วยชาช่า…ที่มาพร้อมรอยยิ้ม และบอกลาเพื่อนรักทั้งสองคน

เจ้าหนูฟัลโก้ที่ปรี่เข้าไปหากาบิ ที่ดันเขินจัดแล้วจับทุ่มซะ

ไรน์เนอร์ได้ปรับความเข้าใจกับแม่ในที่สุด

มิคาสะ : …ฉันจะไปละนะ

อาร์มิน : …พาเอเรนไปพักในสถานที่สงบๆด้วยเถอะนะ

มิคาสะ : เอเรนน่ะ…ชอบที่แห่งนั้นมากเลย…

อาร์มิน : …ใช่ ฉันคิดว่าที่นั่นเหมาะที่สุดแล้ว

มิคาสะจากไปด้วยรอยยิ้ม แต่หน้าที่ของอาร์มินยังไม่จบ เขายังต้องทำสิ่งที่เอเรนฝากฝังเอาไว้

บรรดากองทหารมาร์เลย์ที่เหลืออยู่เข้าจ่อปากกระบอกปืนใส่ชาวเอลเดียที่เหลือรอด ถามพวกเขาว่ามีอะไรพิสูจน์ได้ไหมว่า พวกแกไม่ใช่ไททันอีกแล้ว จะเห็นว่า หัวหน้าทหารเองก็อยากจะให้พวกเอลเดียที่เหลือพิสูจน์ให้ได้เหมือนกัน ตอนนั้นเองอาร์มินก็ก้าวออกมา เหมือนที่เขาเคยทำเมื่อครั้งที่ออกหน้าช่วยเหลือเอเรนและมิคาสะที่กำลังจะถูกยิงในครั้งอดีต แต่คราวนี้ไม่เหมือนครั้งนั้นแล้ว เพราะครั้งนี้เขามั่นใจแล้วว่าเขาต้องทำอะไร

อาร์มิน : ถ้าพวกเราที่อยู่ตรงนี้ยังมีพลังไททันอยู่ พวกเราก็คงใช้พลังไปแล้ว ทั้งที่พวกคุณเอาปืนมาจ่อพวกเรา แต่พวกเราก็ยังเป็นมนุษย์ที่ไร้พลัง นี่คือข้อพิสูจน์ว่าตอนนี้พวกเราก็เป็นแค่มนุษย์แล้ว

หัวหน้าทหารถามอาร์มินว่า แล้วเธอคือ…

อาร์มิน : ผมชื่อ อาร์มิน อัลเบิร์ต ชาวเอลเดียนแห่งเกาะสวรรค์ ผมคือผู้สังหาร Attack Titan เอเรน เยเกอร์

(ราวกับยั่วล้อ เมื่ออาร์มินยอมรับบทบาทของวีรบุรุษผู้กู้โลกเหมือนกับตระกูลไทเบอร์ในอดีต แต่คราวนี้สถานการณ์ไม่เหมือนครั้งนั้นแล้ว)

ภาพตัดมาที่มิคาสะอุ้มศีรษะของเอเรน แล้วตัดมาที่ภาพของเด็กผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดของฮิสทอเรีย ราวกับสะท้อนถึงชีวิตที่ดับสิ้น และชีวิตที่เกิดขึ้นใหม่

3 ปีผ่านไป ศึกสุดท้ายนั้นถูกเรียกว่า ศึกแห่งสวรรค์และพื้นพิภพ ฮิสทอเรียอุ้มลูกพร้อมกับมีรอยยิ้มอีกครั้ง ฮิสทอเรียเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง บรรยายเรื่องราว และความรู้สึกของเธอ

ผู้คนที่ต้องสูญเสียชีวิตไป และผู้คนที่รอดชีวิต ต่างก็ได้รับบาดแผลจากเหตุการณ์ไททันบุกโลก และบาดแผลเหล่านั้น ถึงแม้จะผ่านเวลาไปสามปีแล้ว แต่หลายอย่างก็ยังไม่ฟื้นกลับมา

ชาวโลกต่างก็คร่ำครวญกับความสูญเสีย กองทัพชาวเอลเดียนถูกจัดตั้งขึ้นภายใต้อิทธิพลของกลุ่ม “เยเกอร์” ที่มุ่งไปที่การสร้างกองทัพให้เข้มแข็ง อีกทั้งความหวาดกลัวว่ามวลมนุษย์ที่อยู่อีกด้านของมหาสมุทรจะฟื้นตัวกลับมา ก็ยิ่งทำให้ชาวเกาะรวมใจเป็นหนึ่งขึ้นไปอีก

“ถ้าพวกเราชนะ พวกเราก็มีชีวิตรอด”

“ถ้าพวกเราแพ้ พวกเราก็ตาย”

“ถ้าพวกเราไม่สู้ พวกเราก็ไม่ชนะ”

“สู้” “สู้”

การต่อสู้จะไม่มีวันจบลง จนกว่าชาวเอลเดียน หรือ ชาวโลก ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะถูกทำลายล้าง

บางทีสิ่งที่เอเรนพูดไว้อาจจะถูกต้องก็ได้นะ

ถึงอย่างนั้น…เอเรนก็ได้เลือกที่จะฝากฝังอนาคตของโลกนี้ไว้กับพวกเรา…ที่ยังมีชีวิตอยู่ในเวลานี้…ในโลกที่ปราศจากไททันอีกต่อไปแล้ว…

Attack on Titan 139 สปอย ตอนจบ เอเรน มิคาสะ อาร์มิน ลีไว ฮิสทอเรียพวกอาร์มินที่อยู่บนเรือที่กำลังเดินทางกลับมาเยือนเกาะสวรรค์ ได้อ่านจดหมายของฮิสทอเรียที่ส่งมาถึงพวกเขา

ไรน์เนอร์ : ลายมือของฮิสทอเรียงดงามจริงๆ…ฉันไม่สามารถหยุดดูได้เลย แม้แต่กลิ่นก็หอม…

แจน : ฉันบอกแกหลายครั้งแล้วว่าให้หยุดทำเรื่องหื่นๆใส่ผู้หญิงที่แต่งงานได้แล้วโว้ย มันน่าขยะแขยง

พีค : พูดแบบนั้น แต่นายก็ดูใส่ใจกับทรงผมเหลือเกินนะแจน จะไปโชว์ให้ใครดูหรือไง

แจน : นักเรียนหญิงที่อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ไงล่ะ

ไรน์เนอร์ : หนังสือประวัติศาสตร์ไม่มีรูปนะโว้ย หนังสือม้ารึไง

แอนนี่ : เราใกล้ถึงเกาะสวรรค์แล้ว…อาร์มิน…นายคิดว่ามันไปได้สวยจริงๆเหรอ เมื่อคิดว่าคนกลุ่มเดียวกันกลับเต็มไปด้วย คนที่ทำลายกำแพง คนที่ทรยศเกาะสวรรค์และฆ่าเอเรน ทั้งหมดกลับกลายมาเป็นทูตรเจรจาสันติภาพระหว่างชาวเอลเดียนและประเทศพันธมิตร

พีค : ฉันไม่แปลกใจเลยถ้าพวกเขาคิดจะจมเรือเราทิ้งละนะ

คอนนี่ : เชื่อในตัวฮิสทอเรียนเถอะ…องค์ราชินีได้ช่วยครอบครัวของแจนและแม่ของฉันไว้ในการคุ้มครองของเธอเองโดยไม่ลังเลเลย เธอจะคุ้มครองพวกเราด้วยแน่นอน

แอนนี่ : …หรือเรียกอีกอย่างคือกุมจุดอ่อนของพวกเราไว้…

อาร์มิน : แอนนี่ ความขัดแย้งระหว่างผู้คนมันไม่จบสิ้นหรอกนะ แต่ถ้าพวกเขาเห็นพวกเราทั้งหมดมารวมตัวกันแบบนี้ละก็ พวกเขาทุกคนต้องอยากรู้แน่

เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเราพบเห็น…

ทำไมผู้คนที่ไม่น่าจะเข้ากันได้เลย…

ถึงได้กลับมาที่เกาะด้วยกัน พร้อมกับนำเสนอสันติภาพ…

พวกเราต้องบอกพวกเขาเกี่ยวกับความจริงของเรื่องราว และทุกสิ่งที่พวกเราได้เห็นผ่านสายตาของพวกเรา…

Attack on Titan 139 สปอย ตอนจบ เอเรน มิคาสะ อาร์มิน ลีไว ฮิสทอเรียภาพตัดมาที่มิคาสะ ที่นำศีรษะของเอเรนมาฝังไว้ที่ใต้ต้นไม้เนิน ขอไม่บรรยายอะไรมาก โปรดดูที่ภาพประกอบ

มิคาสะ : เอเรน ทุกคนกำลังกลับมาพบกับเธอนะ เธอดีใจหรือเปล่า….

…..ขอบคุณนะที่ช่วยพันผ้าพันคอให้ฉัน ขอบคุณมาก….

Attack on Titan 139 สปอย ตอนจบ เอเรน มิคาสะ อาร์มิน ลีไว ฮิสทอเรีย

Attack on Titan 139 สปอย จบ

Attack on Titan 139 วิเคราะห์

ตอนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก เมื่อลองกลับไปอ่านตอนนี้หลายรอบ จะพบว่า เอเรนได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างตามที่เขาเคยประกาศไว้จนสำเร็จทั้งหมด มาลองดูกันทีละข้อ สำหรับบทสรุปในตอนจบ

1.เอเรน ประกาศว่า จะกำจัดไททันให้หมดทั้งโลก ไม่ให้เหลือแม้แต่ตัวเดียว = พลังไททันสลายไปหมดสิ้น

2.เป็นอิสรภาพ จากพลังไททัน จากการวนลูป ไม่ต้องวนความทรงจำไปมาระหว่าง อดีต ปัจจุบัน อนาคต ที่แทบจะแยกไม่ออกอีกแล้ว

3.อาร์มินเคยบอกว่า ต้องการเวลาที่จะพูดคุยกับคนนอกเกา แต่เวลามันไม่รอชาวเกาะ และคนข้างนอกก็ไม่ยอมรับฟัง เอเรนจึงจัดให้ เขามอบเวลาที่จะให้อาร์มินได้พูดคุยไปอีกนานหลายปี ทั้งกับคนในเกาะและคนนอกเกาะ แถมตอนนี้คนนอกเกาะจะไม่ยอมฟังก็ไม่ได้แล้ว

4.เอเรนได้พลิกสถานการณ์และซื้อเวลาให้ชาวเกาะได้มีเวลาสร้างกองทัพให้เข้มแข็ง เพื่อคานอำนาจกับโลกภายนอก

5.เอเรน จะไม่ยอมเสียสละชีวิตของฮิสทอเรีย และไม่ยอมให้ฮิสทอเรียต้องกลายเป็นเครื่องจักรผลิตลูก ไม่ยอมให้เธอต้องวนเวียนอยู่กับการที่เธอต้องกลายเป็นไททัน แล้วคลอดลูกออกมาเพื่อให้ลูกวนกลับมากินเธอ สืบทอดพลังไททันของราชวงศ์ เอเรนต้องการยุติวงจรนี้ และอีกอย่างคือฮิสทอเรียก็เป็นคนสำคัญที่ช่วยชีวิตเขาไว้ด้วย

6.หลายคนอาจจะรู้สึกว่า ฮิสทอเรียจะท้องไปทำไม บทสรุปก็คือ ยอมตั้งท้องเพื่อถ่วงเวลาที่เธอจะได้ไม่ต้องกินซีคที่จะมาที่เกาะ และในฉากแฟลชแบ็กของตอนที่ 130 เมื่อรวมกับจดหมายของฮิสทอเรีย แสดงว่าเอเรนได้เล่าเป้าหมายของเขาให้ฮิสทอเรียฟังทั้งหมดแล้ว ว่าที่จริงเขาต้องการสลายพลังไททัน ดังนั้นฮิสทอเรียจึงยอมทำตามแผนล้างโลก และไม่มีรอยยิ้มอีกเลยระหว่างตั้งท้อง เพราะรู้ว่าเอเรนจะฆ่าคนทั่วโลก 80%

7.อาร์มินและฮิสทอเรีย สองตัวละครนี้ยังมีบทบาทสำคัญรออยู่หลังจบเรื่องราว อาร์มินจะเป็นตัวแทนในการเจรจาในฐานะตัวแทนของชาติพันธมิตร ส่วนฮิสทอเรียคือราชินีที่จะช่วยควบคุมพวกเยเกอร์ริสไม่ให้รุนแรงสุดโต่งเกินไป รวมถึงปกป้องครอบครัวของพวกแจนที่ยังอยู่ในเกาะ และบทสรุปในตอนนี้พวกนายพลและแกนนำของกองทัพเก่าๆถูกล้างบางหมดแล้ว ฮิสทอเรียเลยได้กลายเป็นราชินีที่ไม่มีพวกทหารอาวุโสมาเชิดเธอได้อีก

8.พ่อเด็กของฮิสทอเรีย ก็คงเป็นฟาร์มเมอร์แน่นอน แม้ว่าจะเป็นตัวละครที่อิซายามะจงใจไม่ให้เห็นหน้าตาเลยแม้แต่ฉากเดียว ตรงนี้เป็นการโทรลของอิซายามะ ปั่นประสาทคนอ่าน บางทีการที่เอเรนห่วงใยฮิสทอเรียเป็นพิเศษ อาจมาจากอิทธิพลของฟรีด้าที่เป็นคนที่ห่วงใยฮิสทอเรียมากกว่าใครก็ได้ สังเกตว่าช่วงที่เอเรนคุยกับฮาทอเรียในฉากย้อนอดีต หน้าตาและทรงผมเขาคล้ายกับฟรีด้าอยู่เหมือนกัน

(และยังเปิดปลายไว้ให้กลุ่มคนจิ้น เอเรนxฮิสทอเรีย ว่าถ้าจะจิ้นคู่นี้ก็ทำได้ตามสบายเลย แถมอิซายามะยังจงใจปั่นประสาทคนอ่านอีกด้วยการตัดฉากที่มิคาสะอุ้มศีรษะเอเรนแล้วจากไป ตัดมาที่ภาพต่อมาที่เด็กอยู่ในอ้อมกอดฮิสทอเรีย เหมือนชีวิตของเอเรนที่จบสิ้นลง แต่มีชีวิตอื่นเกิดขึ้นใหม่)

9.เอเรนสารภาพตอนจบนี่เองว่า คนที่เขารักจริงๆคือมิคาสะ การที่อาร์มินต่อยหน้าเอเรนก็เหมือนต่อยแทนคนอ่าน และอาร์มินคงโล่งใจในฉากนี้ที่พบว่า เอเรนก็ยังคงเป็นเอเรนคนเดิมที่แสนจะ เอเร้นนนนนนนนเอเรน สุดเบียว

10.แด่เธอในอีก 2,000 ปีข้างหน้า อิซายามะ ทวีตประโยคนี้เมื่อวันที่ 9 เมษายน ถามว่า คุณคิดว่าหมายถึงใคร บทสรุปตอนนี้หมายถึง “ยูมีร์ ถึง มิคาสะ”

11.ยูมีร์เป็นพวก สต็อคโฮล์ม ซินโดรม และอาจยั่วล้อความเป็นทาส ที่กดความคิดอ่านของเธอไว้ ตรงนี้เหมือนยั่วล้อสังคมจริงๆในโลก

12.ไททันไม่ใช่เรื่องแรกที่เอาเรื่อง “ความรัก” ที่หาเหตุผลไม่ได้ มาใช้เป็นตัวขับเคลื่อนและสาเหตุของปัญหาและความวายป่วงของเรื่องราวแบบที่เป็นกับยูมีร์ ก่อนหน้านี้มีนักเขียนหลายคนใช้วิธีนี้ เช่น Clamp, ทากาฮาชิ รูมิโกะ แต่อิซายามะอาจจะคลายปมตรงนี้ไม่ค่อยดีและทำให้หลายคนไม่อิน

13.ลีไว ตัวละครที่ผู้เขียนรีวิวชอบที่สุดในเรื่องนี้ ในที่สุดเขาก็ได้พบกับชีวิตที่สงบสุขกับเขาเสียที ลีไวเป็นคนที่ลึกๆแล้วก็ต้องการใครสักคนที่เขาจะไปช่วยดูแลให้และก็มาอยู่ข้างๆเขาด้วย ก็มาลงตัวที่คู่ ฟัลโก้ กาบิ และมีโอบาคาปง ไปอยู่ด้วยกันที่บ้านเกิดของเขา ซึ่งดูแล้วถูกเซตติ้งมาเป็นสังคมแบบประเทศอังกฤษในโลกความจริง และคงไม่ต้องไปยุ่งกับสงครามอีกแล้ว

14.เอเรนได้เข้าไปคุยกับเพื่อนแต่ละคนแบบตัวต่อตัวใน Path เป็นการเปิดใจกันครั้งสุดท้าย (น่าเสียดายที่เราไม่ได้เห็นว่าเอเรนคุยอะไรกับลีไว)

ภาพรวมแล้ว มีหลายคนที่อาจไม่พอใจตอนจบ ส่วนผู้เขียนรีวิวเองรู้สึกว่านี่คือตอนจบที่ทำได้เท่าที่อิซายามะงัดพลังทั้งหมดออกมาแล้ว แต่ก็น่าเสียดายว่าหลายปมน่าจะคลายได้ดีกว่านี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณสำหรับผลงานเรื่องนี้ที่ได้สร้างสรรค์ออกมาครับ เป็นอันว่านี่คือหนึ่งในผลงานระดับมาสเตอร์พีซของวงการมังงะ

สปอยตอนอื่น ดูได้ที่ https://www.playinone.com/zhaoyun/attack-on-titan-spoil-124/

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference Website

readshingekinokyojin.com/manga/shingeki-no-kyojin-chapter-139/

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!