playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

สปอย Attack on Titan 135 ศึกแห่งสวรรค์และผืนพิภพ เผชิญหน้าไททันทั้ง 9

Attack on Titan 135 สปอย ศึกแห่งสวรวงสวรรค์และผืนพิภพ และการเผชิญหน้ากับไททันทั้ง 9 หลังจากเรื่องราวในตอนก่อนหน้า ในที่สุดพันธมิตรรวมกันเฉพาะกิจระหว่างพวกเกาะสวรรค์ที่มี มิคาสะ อาร์มิน ลีไว เป็นแกนนำแล้วร่วมกับพวกของไรเนอร์ และทุกคนที่เหลือ ก็ได้นั่งเรือเหาะเดินทางมาเผชิญหน้ากับไททันเอเรนได้สำเร็จ พร้อมกับความหว้งสุดท้ายของอาร์มินที่จะพูดคุยเจรจากับเอเรนอีกสักครั้ง

อีกด้านหนึ่งพวกผู้อพยพชาวเอลเดียนที่มีพ่อของแอนนี่และคนจำนวนมากต่างก็ได้เป็นสักขีพยานของการต่อสู้ดิ้นรนครั้งสุดท้ายของมนุษยชาติกับกองทัพไททัน ในขณะที่ไม่มีกองกำลังจะที่ไหนสามารถต่อต้านกองทัพไททันได้อีกแล้ว

สำหรับสปอยตอนก่อนหน้า อ่านได้ที่

สปอย Attack On Titan 134 ที่สุดแห่งความสิ้นหวัง กับวันล้างโลก

Attack on Titan 135 สปอยAttack on Titan 135 สปอย แปล

ตอนนี้เปิดฉากมา เป็นภาพจากมุมมองในอดีตของ ยูมีร์ เมื่อหลายพันปีก่อนที่เฝ้ามองชีวิตของเหล่าสัตว์ที่ถูกเลี้ยงในคอกเพียงเพื่อรอวันตาย ซึ่งพวกหมูที่ว่าก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด เพราะหมูที่ถูกปล่อยจากคอกหายไป ทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมดที่นำไปสู่การค้นพบพลังไททัน ซึ่งคนที่ปล่อยพวกหมูออกไปก็คือยูมีร์นั่นเอง

ทางด้านกลุ่มพันธมิตรเฉพาะกิจของ มิคาสะ อาร์มิน และคนอื่นๆบุกโจมตีลงมาบนร่างที่เป็นโครงกระดูกสันหลังของไททันเอเรน แล้วหาทางที่จะโจมตีจุดอ่อนบริเวณท้ายทอยของไททันสัตว์ป่าของซีค แต่การโจมตีที่ควรจะสำเร็จกลับพลาดไป ลีไวพบว่าในเปลือกร่างนั้นกลับว่างเปล่า

Attack on Titan 135 สปอยอาร์มินวิเคราะห์ว่า ซีคคงใช้วิธีเดียวกับไททันค้อน ที่ซ่นร่างกายจริงของตนเองไว้ที่อื่น แต่การจะค้นหาร่างมนุษย์ขนาดเล็กบนโครงกระดูกไททันเอเรนที่มีขนาดใหญ่แบบนี้คงต้องใช้เวลานานแน่ๆ แจนจึงขอให้อาร์มินช่วยคิดแผนใหมแทน ด้านอาร์มินก็รู้สึกว่าการจะเจรจากับเอเรนดูเหมือนเป็นเรื่องสิ้นหวัง

แล้วทันใดนั้น อาร์มินที่กำลังอยู่ในโหมดดราม่าก็มาโดนโจมตีจากด้านหลัง โดยไททันที่ควบคุมโดยยูมีร์ แล้วกลืนอาร์มินเข้าไปในปาก แถมยังเอาลิ้นอุดปากเขาไว้ เพื่อไม่ให้ออกคำสั่งหรือใช้พลังไททันได้ด้วย

แล้วพวกมิคาสะก็ได้เผชิญหน้ากับความสิ้นหวังเพิ่ม เมื่อคู่ต่อสู้ก็คือ ไททันทั้ง 9 ที่ถูกขุดกลับมาจากอดีต ซึ่งมันเกิดขึ้นได้ก็เพราะการที่เอเรนได้พลังไททันบรรพบุรุษมาครองแล้ว แถมยังมีการช่วยเหลือจากยูมีร์อีกด้วย

ด้านอาร์มินที่กำลังถูกกลืนอยู่ในปากของไททัน เขาคิดว่าเอเรนต้องการฆ่าเขาหรือ แต่ก็คิดว่าไม่ใช่ นั่นน่าจะเป็นฝีมือของยูมีร์มากกว่า อาร์มินคิดไปว่า ถ้าหากความปรารถนาของยูมีร์คือการทำลายล้างมนุษยชาติ ถ้าอย่างนั้นแล้วพวกเขาจะทำอะไรได้

ตอนนั้นเอง อาร์มินก็ได้เห็นจิตของเบลรูทกำลังร้องไห้

ด้านไททันกระสอบทราย เอ้ย…ไททันเกราะเหล็กไรเนอร์ ก็ต้องมาเจอสถานการณ์สุดเซอร์ไพร์ส เมื่อคู่ต่อสู้ของเขาคือไททันยักษ์ที่เคยเป็นของเบลรูทมาก่อน ซึ่งไรเนอร์ไม่สามารถสู้ได้ แถมยังถูกจับตัวจนเกือบจะฆ่าเขาได้แล้ว

แต่ทันใดนั้นได้แจนพุ่งเข้ามาดึงร่างมนุษย์ของเขาออกมาก่อน แต่อุปกรณ์สามมิติของแจนก็เสียหายเรียบร้อย ไรเนอร์บอกให้แจนปล่อยเขาตกลงไป แต่แจนปฏิเสธ

เมื่อสถานการณ์สิ้นหวังถึงขีดสุด พรรคพวกทุกคนกำลังจะถูกฆ่า พระเอกของเรา มิคาสะ ก็ตะโกนท้าทายพวกไททันทั้งหมดให้พุ่งเข้ามาโจมตีที่ตนเอง พร้อมทั้งประกาศว่า “ฉันแข็งแกร่งนะเว้ย พวกแกเข้ามาเลย”

ตอนนั้นเองที่ไททันวิหคพุ่งเข้ามาช่วยเหลือทุกคนหนีตายออกมาได้ ซึ่งไททันวิหคก็คือฟัลโกนั่นเอง

ผู้ที่มาพร้อมกับฟัลโก ก็คือเด็กนรกกาบิ และ แอนนี่ ที่ยอมเปิดปากว่า เธอไม่มีทางเลือก แต่ก็ดีใจที่ได้มาช่วยพวกเขาท่ามกลางสมรภูมิที่สิ้นหวังเช่นนี้

จบการสปอย

Attack on Titan 135 สปอย วิเคราะห์

ตอนนี้สมกับชื่อตอนพอสมควร แต่ก็เป็นศึกที่แทบจะมองไม่เห็นทางชนะเอาซะเลย แถมทีมพันธมิตรยังเสียมันสมองอย่างอาร์มินไปซะด้วย แล้วยังทำให้รู้ว่า เอเรนสามารถเรียกไททันทั้ง 9 ที่มีพลังจากอดีตออกมาใช้งานได้ เรียกว่างานนี้จะเป็นการต่อสู้ที่สาหัสแน่นอน สมกับที่เอเรนกลายเป็นบอสใหญ่ของเรื่องนี้ไปแล้ว

ส่วนลูกรักไรเนอร์ ก็ยังคงความเป็นกระสอบทรายต่อไป…

จุดที่น่าสนใจคือ ไททันร่างปีกของฟัลโก เป็นครั้งแรกที่แสดงให้เห็นว่า ไททันมีขีดความสามารถที่จะพัฒนาพลังของตนเอง จนถึงขั้นบินบนท้องฟ้าได้ แปลว่าไททันอื่นๆก็สามารถพัฒนาตัวเองได้เหมือนกัน

ส่วนอาร์มินที่ถูกจับไป ก็น่าจะเป็นการปูทางให้เขาได้หาทางวางแผนแก้สถานการณ์ และการเผชิญหน้ากับทั้งยูมีร์และเอเรนไปในตัวด้วย

สปอยตอนอื่น ดูได้ที่ https://www.playinone.com/zhaoyun/attack-on-titan-spoil-124/

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference Website

attackontitan.online-135

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!